Potter Story Web's : โลกเวทมนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ & สัตว์มหัศจรรย์ฯ !!
Newsกลุ่ม ทีม และ บุคคลข้อมูลพิเศษ และ บทความ

นากินี (Nagini)

นากินี (Nagini)

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆชาว พอตเตอร์ สตอร์รี่ ไปพบกับเรื่องราวของงูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกเวทมนตร์ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ที่มานามว่า “นากินี (Nagini)” กันครับ

“นากินี (Nagini)”

เพศ – หญิง
เกิด
– ก่อน 1927
เสียชีวิต – 2 พฤษภาคม 1998 (มีอายุมากกว่า 80 ปี)
เหตุการณ์เสียชีวิต – ถูก เนวิลล์ ลองบัตท่อม ใช้ดาบกริฟฟินดอร์ฟัน
ฐานะ – ฮอร์ครักซ์ , งูประจำตัวของ ลอร์ด โวลเดอมอร์
ลักษณะ – ลำตัวยาวมากกว่า 12 ฟุต มีปลายหางเป็นเกล็ดลายเพชร
รับบทโดย – คิม คลอเดีย (Kim Claudia) เกิดเมื่อ 25 มกราคม 2528

ที่มาของชื่อ

สำหรับที่มาของชื่อ “นากินี (Nagini)” นั้น ทางผู้ประพันธ์ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ได้กล่าวไว้ในทวิตเตอร์เพื่อไขข้อข้องใจให้กับแฟนๆว่า “นากะ เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานของชาวอินโดนีเซีย อันเป็นที่มาของชื่อ ‘นากินี’ พวกเขาพรรณนาไว้ว่า บ้างก็มีปีก บ้างก็เป็นครึ่งมนุษย์ บ้างก็ครึ่งเป็นงู

การปรากฎตัวในหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์”

Pottermore : แฟนๆวรรณกรรม และ ภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ต่างรู้จักกันดีว่า “นากินี (Nagini)” คือ งูตัวร้ายที่อยู่ข้างกาย ลอร์ด โวลเดอมอร์ มาโดยตลอด แถมทั้งยังมีช่วงเวลาที่แสนน่ากลัวมากมายที่บรรยายไว้เกี่ยวกับ “นากินี (Nagini)” อีกด้วย

ก่อนหน้านี้พวกเราทราบเพียงว่า “นากินี (Nagini)” เป็น งูเพศเมีย ที่มีความดุร้าย และ เป็นหนึ่งในฮอร์ครักซ์ ของเจ้าแห่งศาสตร์มืด ลอร์ด โวลเดอมอร์ เท่านั้น แต่เมื่อไม่นานมานี้หลังจากการเปิดตัวนักแสดงอย่าง Kim Claudia ชาวเกาหลีใต้ ที่ก้าวเข้ามารับบท “นากินี (Nagini)” ในภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ – Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ทำให้ทาง เจ. เค. โรว์ลิ่ง ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “นากินี (Nagini)” ว่าเธอนั้นมีอดีตที่แสนเลวร้าย และ ก่อนหน้าที่จะกลายเป็นงูแสนดุร้าย เธอเคยเป็นหญิงสาวที่สวยสดมาก่อนนั่นเอง

“นากินี (Nagini)” เธอเป็น มัลดีดิทัส (Maledictus) หรือ ผู้ที่ถูกสาปทางสายเลือด จนในวันหนึ่งของชีวิต เขาหรือเธอจะกลายเป็นงูโดยสมบูรณ์ไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่

 

“นากินี” และ “ครีเดนซ์ แบร์โบน”

 

จากบทสัมภาษณ์ใน Entertainment Weekly ของนักแสดง คิม คลอเดีย (Kim Claudia) ผู้รับบท “นากินี (Nagini)” เธอได้กล่าวว่า ในช่วงปี 1927 ที่จะปรากฎในภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ – Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald นั้น “นากินี (Nagini)” สามารถแปลงร่างเป็นงูได้ดั่งใจปราถนา เธออยู่ในคณะละครสัตว์ โชว์การแปลงร่างเป็นงูที่แสนน่าทึ่งนี้ให้กับพวกมักเกิลได้ดูกัน อันนำมาสู่การพบกันของเธอ และ ครีเดนซ์

คิม คลอเดีย (Kim Claudia) “มันวิเศษที่ดวงวิญญาณที่แตกสลายสองดวงได้มาสร้างมิตรภาพต่อกันในคณะละครสัตว์ ครีเดนซ์เป็นคนพิเศษสำหรับเธอ เพราะเขาเป็นคนที่คอยให้กำลังใจเธอเพื่อที่จะใช้พลังของเธอ”

 

“นากินี (Nagini)” ถูกกล่าวถึงครั้งแรก
ใน “แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ถ้วยอัคนี”

 

นั่นหมายความว่าสำหรับใครที่เข้าใจว่างูตัวแรกที่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ คุยด้วย ณ บ้านสัตว์เลื้อยคลานที่สวนสัตว์ในวันคล้ายวันเกิด ดัลลี่ คือ “นากินี (Nagini)” ล่ะก็ มันคนละตัวกันนะคร้าบ.. >//<

แม้ว่าเราจะได้พบกับ ลอร์ด โวลเดอมอร์ มาตั้งแต่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ศิลาอาถรรพ์ แต่เรื่องราวของงูที่มีชื่อว่า “นากินี (Nagini)” ไม่ปรากฏก่อนหน้าเลยจนกระทั่งหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ถ้วยอัคนี โดยได้รับการแนะนำให้รู้จักเป็นครั้งแรกในซีนที่อยู่ในบ้านของครอบครัว ริดเดิ้ล, บทที่เปิดตัว แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ถ้วยอัคนี โดยเธอได้บอกว่า มีมักเกิล แฟรงก์ ไบรซ์ ที่เป็นผู้ดูแลบ้านกำลังแอบฟังอยู่นั่นเอง

ในช่วงเวลานั้น พิษของ “นากินี (Nagini)” ดูเหมือนเป็นส่วนสำคัญต่อความอยู่รอดของ ลอร์ด โวลเดอมอร์ ก่อนที่เขาจะถูกนำตัวกลับคืนสู่ร่างของเขา โดย โวลเดอมอร์ ได้มอบหมายให้หางหนอนจัดการรีดพิษของ “นากินี (Nagini)” เพื่อนำมาปรุงยาประทังชีวิตก่อนจะมีร่างกายที่เดินเหินได้ด้วยตัวเอง

“ฉันคิดว่าถ้าเขาจะรักใคร่อะไรได้ บางทีก็คงเป็นงูตัวนั้นนั่นแหละ”
ศาสตราจารย์ ดัมเบิลดอร์
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เจ้าชายเลือดผสม

ความสัมพันธ์พิเศษของ  “นากินี (Nagini)”  และ ลอร์ด โวลเดอมอร์

ดังที่เราทราบว่า “นากินี (Nagini)” นั้นอยู่ข้างกายของ ลอร์ด โวลเดอมอร์ มาโดยตลอด อีกทั้งเขายังเป็นพวก พาร์เซล เมาท์ ( Parselmouth ) ที่สามารถคุยกับงูได้ โวลเดอมอร์ จึงสามารถสื่อสารกับเธอได้ และทั้งคู่มักจะส่งข้อความถึงกันและกัน ไม้แม้แต่กระทั่งการเชื่อมต่อกันทางกระแสจิตหลายต่อหลายครั้ง ดังเช่นที่เขาทำในคืนที่ อาร์เธอร์ วีสลีย์ ถูกโจมตีใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ภาคีนกฟีนิกส์ และเนื่องจากการเชื่อมโยงทางจิตที่ไม่พึงประสงค์ของ แฮร์รี่ กับ โวลเดอมอร์ จึงเป็นเหตุให้ แฮร์รี่ เห็นภาพอันน่าสยดสยองจากมุมมองของ “นากินี (Nagini)” ที่กำลังจู่โจม อาร์เธอร์ วีสลีย์ นั่นเอง

ในสมัยก่อน ลอร์ด โวลเดอมอร์ มีความสามารถพิเศษด้านพินิจใจ ควบคุม และ บิดเบือนความเป็นจริง ควบคุมจิตใจของเหยื่อ สร้างภาพให้ต้องทุกข์ทรมาน จนทำให้พ่อมดแม่มดที่อยู่ใต้การควบคุมเห็นผิดเป็นถูก เห็นจริงเป็นเท็จได้โดยง่าย

และดูเหมือนเชื่อมโยงกันในรูปแบบนี้ระหว่าง “นากินี (Nagini)” , ลอร์ด โวลเดอมอร์ และ แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะไกลเกินกว่าจินตนาการไว้ ศาสตราจารย์ ดัมเบิลดอร์ จึงให้ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ไปเรียนรู้ที่จะต่อกรกับการพินิจใจจาก ศาสตราจารย์ สเนป นั่นเอง

 

“นากินี (Nagini)” คือ นักฆ่ามือทอง
ของ ลอร์ด โวลเดอมอร์

 

ลอร์ด โวลเดอร์มอร์ มักจะส่ง “นากินี (Nagini)” ไปทำตามคำสั่งของเขาอยู่บ่อยครั้ง และตัวละครหลักๆที่ต้องทรมารเพราะบาดแผลของ “นากินี (Nagini)” ก็ได้แก่ อาร์เธอร์ วีสลีย์ ที่ต้องใช้เวลาคริสมาสต์ ณ โรงพยาบาล St Mungo สำหรับการรักษาอาการบาดเจ็ดเนื่องจากพิษของ “นากินี (Nagini)” มันทำให้บาดแผลของเขาเปิดอยู่ตลอดเวลาไม่หายสักที เธอไม่ใช่งูธรรมดาเลยจริงๆ

นอกจากนี้เธอยังได้เขมือบศาสตราจารย์วิชามักเกิ้ลศึกษาอย่าง ศาสตราจารย์ แชริตี้ เบอร์เบจ ลงท้องไปเป็นมื้อเย็น ณ คฤหาสน์มัลฟอยอีกด้วย แถมท้าย เธอยังฆ่าตัวละครที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่าง ศาสตราจารย์ เซเวอรัส สเนป อย่างโหดร้ายใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เครื่องรางยมทูต นั่นเอง

“นากินี (Nagini)”
อยู่ในจุดที่น่าสยองที่สุดในเรื่อง

 

หากยังพอจำกันได้ในเรื่องราวของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เครื่องรางยมทูต ในตอนที่ แฮร์รี่ และ เฮอร์ไมโอนี่ กลับไปบ้านเกิดของ แฮร์รี่ ที่หมู่บ้าน ก๊อดดริกส์โฮลโล่ กันได้ ในตอนนั้นพวกเขาได้เจอกับ บาธิลดา แบ็กช็อต ด้วย ซึ่งแน่ล่ะว่าเป็น “นากินี (Nagini)” แปลงร่างมา แต่ตามเรื่องราวในหนังสือนั้นกล่าวเพิ่มเติมจากภาพยนตร์ไว้ว่า บาธิลดา แบ็กช็อต เสียชีวิตมานานก่อนที่ แฮร์รี่ และ เฮอร์ไมโอนี่ จะมาถึงนานแล้ว ซึ่ง “นากินี (Nagini)” ก็อาศัยขดตัวนอรออยู่ใน “ซากศพ” ของเธอเพียงเพื่อรอคอยที่จะเจอพวกเขา ป๊าดดด..ขุ่นพระ โหดจริงแม่คู้ณณณ~ *0*//

“นากินี (Nagini)”
ไม่ใช่ ฮอร์ครักซ์ ชิ้นสุดท้ายที่ถูกทำลาย
แต่เป็น ฮอร์ครักซ์ ชิ้นสุดท้ายที่ถูกสร้าง!

 

จากการสัมภาษณ์ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ได้กล่าวว่า “นากินี (Nagini)” กลายมาเป็น ฮอร์ครักซ์ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ฆาตกรรม เบอร์ธา จอร์กินส์ (Bertha Jorkins) ในตอนที่ ลอร์ด โวลเดอร์มอร์ รับรู้ว่า ฮอร์ครักซ์ ของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดัมเบิลดอร์ ยังเคยบอกกับ ศาสตราจารย์ สเนป ไว้ว่าถ้า โวลเดอมอร์ เริ่มปกป้อง “นากินี (Nagini)” มากขึ้นเมื่อไหร่ ก็คงเป็นช่วงเวลาเหมาะที่จะบอก แฮร์รี่ ว่าเขาต้องตายด้วยมือของ โวลเดอมอร์ เมื่อนั้น

ต่อมา ลอร์ด โวลเดอมอร์ ทำผิดพลาดร้ายแรงในการปล่อยให้ “นากินี (Nagini)” อยู่นอกเหนือจากการป้องกันเนื่องจากไม่ตระหนักว่า แฮร์รี่ จะฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งจากป่าต้องห้าม และ เนวิลล์ ก็กลายเป็นผู้ทำลาย ฮอร์ครักซ์ ชิ้นสุดท้ายของชีวิตของ โวลเดอมอร์ ด้วย ดาบของกริฟฟินดอร์ จนสำเร็จ เป็นการปิดฉากชีวิตของ “นากินี (Nagini)” ในวันที่ 2 พฤษภาคม 1998สงคราม ฮอกวอตส์

ข้อมูลเพิ่มเติม

“นาค , พญานาค” ที่มาของ “นากินี”

ตามความเชื่อในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นาค (สันสกฤต: नाग Nāga) เป็นงูขนาดใหญ่มีหงอน เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสู่จักรวาลอีกด้วย

ต้นกำเนิดความเชื่อเรื่องพญานาคน่าจะมาจากอินเดีย ด้วยมีปกรณัมหลายเรื่องเล่าถึงพญานาค โดยเฉพาะในมหากาพย์มหาภารตะ นาคถือเป็นปรปักษ์ของครุฑส่วนในตำนานพุทธประวัติ ก็เล่าถึงพญานาคไว้หลายครั้งด้วยกัน

ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีตำนานเรื่องพญานาคอย่างแพร่หลาย ชาวบ้านในภูมิภาคนี้มักเชื่อกันว่าพญานาคอาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง หรือเมืองบาดาล และเชื่อกันว่าเคยมีคนเคยพบรอยพญานาคขึ้นมาในวันออกพรรษาโดยจะมีลักษณะคล้ายรอยของงูขนาดใหญ่

ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกันไป แต่พื้นฐานคือพญานาคนั้นมีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี 7 สี เหมือนสีของรุ้ง และที่สำคัญคือนาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียรและเก้าเศียร นาคจำพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษะ (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียรสมุทร อนันตนาคราชนั้นเล่ากันว่ามีกายใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มีพันศีรษะ พญานาคนั้นมีทั้งเกิดในน้ำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ นาคนั้นมักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างสวยงาม

นาคเป็นเจ้าแห่งงู แต่ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา นาคแบ่ง ออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ

  • ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง
  • ตระกูลเอราปถ พญานาคตระกูลสีเขียว
  • ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง
  • ตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ

พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ

  1. แบบโอปปาติกะ เกิดแล้วโตทันที
  2. แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม
  3. แบบชลาพุชะ เกิดจากครรภ์
  4. แบบอัณฑชะ เกิดจากฟองไข่

พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ ในอากาศ จนไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกพญานาคอยู่ในการปกครองของท้าววิรูปักษ์ ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศตะวันตก เหตุที่มาเกิดเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ

ความเชื่อเกี่ยวกับคุณลักษณะและคุณสมบัติ

ชาวฮินดูถือว่า นาคเป็นผู้ใกล้ชิดกับเทพองค์ต่างๆ เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ เช่น อนันตนาคราช ที่เป็นบัลลังก์ของพระนารายณ์ตรงกับความเชื่อของลัทธิพราหมณ์ ที่เชื่อว่า นาค เป็นเทพแห่งน้ำ เช่นปีนี้ นาค ให้น้ำ 1 ตัว แปลว่า น้ำจะมาก จะท่วมที่ทำการเกษตร ไร่นา ถ้าปีไหน นาคให้น้ำ 7 ตัว น้ำจะน้อย ตัวเลขนาคให้น้ำจะกลับกันกับเหตุการณ์ เนื่องจาก ถ้านาคให้น้ำ 7 ตัว น้ำจะน้อยเพราะนาคกลืนน้ำไว้

นาคมีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถแปลงกายได้ มีอิทธิฤทธิ์และมีชีวิตใกล้กับคน สามารถแปลงเป็นคนได้ เช่นคราวที่แปลงเป็นคนมาขอบวชกับพระพุทธเจ้า ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวถึงนาคที่ชื่อ ถลชะ ที่แปลว่า เกิดบนบก จะเนรมิตกายได้เฉพาะบนบก และนาคชื่อ ชลซะ แปลว่า เกิดจากน้ำ จะเนรมิตกายได้เฉพาะในน้ำเท่านั้น

นาค ถึงแม้จะเนรมิตกายเป็นอะไร แต่ในสภาวะ 5 จะต้องปรากฏรูปลักษณ์เป็นนาคเช่นเดิม คือ ขณะเกิด, ขณะลอกคราบ, ขณะสมสู่กันระหว่างนาคกับนาค ขณะนอนหลับโดยไม่มีสติ และตอนตาย ก็กลับเป็นงูใหญ่เหมือนเดิม

นาค มีพิษร้าย สามารถทำอันตรายผู้อื่นได้ด้วยพิษ ถึง 64 ชนิด ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า สัตว์จำพวกงู แมงป่อง, ตะขาบ, คางคก, มด ฯลฯ มีพิษได้ ซึ่งก็ด้วยเหตุที่ นาคคายพิษทิ้งไว้ แล้วพวกงูไปเลีย พวกที่มาถึงก่อนก็เอาไปมาก พวกมาทีหลัง เช่น แมงป่อง กับ มด ได้พิษน้อย แค่เอาหาง เอากันไปป้ายเศษพิษ จำพวกนี้จึงมีพิษน้อย และพญานาคต้องคายพิษทุก 15 วัน

นาค อาศัยอยู่ใต้ดิน หรือบาดาล คนโบราณเชื่อว่าเมื่อบนสวรรค์มีเทพอาศัยอยู่ลึกลงไปใต้พื้นโลก ก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวว่า ที่ที่นาคอยู่นั้นลึกลงไปใต้ดิน 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร มีปราสาทราชวังที่วิจิตรพิสดารไม่แพ้สวรรค์ ที่มีอยู่ถึง 7 ชั้น เรียงซ้อนๆ กัน ชั้นสูงๆ ก็จะมีความสุขเหมือนสวรรค์

นาค สามารถผสมพันธุ์กับสัตว์ชนิดอื่นได้ แปลงกายแล้วสมสู่กับมนุษย์ได้ เมื่อนาคตั้งท้องจะออกลูกเป็นไข่เหมือนงู มีทั้งพันธุ์เศียรเดียว 3, 5 และ 7 เศียร

สามารถขึ้นลง ตั้งแต่ใต้บาดาลพื้นโลกจนถึงสวรรค์ ในทุกตำนานมักจะกล่าวถึงนาคที่ขึ้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองสวรรค์ ที่จะแปลงกายเป็นอะไรตามที่คิด ตามสภาวะเหตุการณ์นั้นๆ

ในประติมากรรมไทย

ในประติมากรรมไทย มักจะเห็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับนาคได้เสมอ ในงาน จิตรกรรม ประติมากรรม และหัตถกรรม นาคเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทางสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะตามอาคารวัดต่างๆ หลังคาอาคารที่สร้างขึ้นสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถานบันศาสนสถาน ตามคตินิยมที่ว่า นาคยิ่งใหญ่คู่ควรกับสถาบันอันสูงส่ง เช่น นาคสะดุ้ง ที่ทอดลำตัวยาวตามบันได นาคลำยอง ซึ่งเป็นป้านลมหลังคาโบสถ์ ที่ต่อเชื่อมกับนาคสะดุ้ง นาคเบือน นาคจำลอง และนาคทันต์ คันทวยรูปพญานาค

อีกทั้งยังเป็นโขนเรือ (หัวเรือ) ในขบวนเรือกระบวนพยุหยาตราชลมารค ในพระราชพิธีอีกด้วย อันได้แก่ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์

 

Notes and References