ตำนาน “มนุษย์หมาป่า” ในประวัติศาสตร์ !
มนุษย์หมาป่า
อังกฤษ: Werewolf, Lycanthrope เป็นเรื่องราวตามความเชื่อของชาวยุโรปในยุคกลาง โดยความเชื่อนี้เป็นความเชื่อจำพวกเดียวกับแวมไพร์ หรือ ผีดิบดูดเลือด โดยเชื่อว่าเป็นผีที่สามารถแปลงร่างเป็นทั้งมนุษย์ และ หมาป่าได้มนุษย์หมาป่านั้นกระหายเนื้อ และ เลือดสดๆของมนุษย์ โดยจะออกหากินในเวลากลางคืน แม้บางความเชื่อจะกล่าวว่า มนุษย์หมาป่า เป็นศัตรูคู่อาฆาตรของ แวมไพร์ หรือ ผีดิบดูดเลือด หรือเรื่องราวที่แต่งขึ้น และ เล่าต่อกันมาจากจิตนาการ
แต่เพื่อนๆรู้กันหรือไม่ครับว่า มนุษย์หมาป่า นั้น เคยถูกกล่าวถึงอย่างมาตัวตนในประวัติศาสตร์อีกด้วย1. ค.ศ. 1521 ณ เมือง Poligny ประเทศฝรังเศษ ชายคนหนึ่งกำลังเดินอยู่เพียงลำพัง และครั้งที่เขาโดยจู่โจมโดย มนุษย์หมาป่า เขาก็ได้ต่อสู้สร้างรอยแผลให้กับเจ้า มนุษย์หมาป่า ตัวนั้นไว้เช่นกัน หลังจากที่เขาเดินอยู่ที่ถนนนั้น เขาก็ได้พบกับชายคนหนึ่งที่กำลังทำแผลที่คล้ายกับที่เขาได้สร้างไว้กับมนุษย์หมาป่าตัวนั้น
ภายหลังทราบว่าเขาคือ Michel Vurden ผู้ที่สารภาพว่าเขาได้ทำสัญญากับปีศาจให้กลับมาเป็นมนุษย์หมาป่า และเขายังบอกอีกว่า Philibert Montot และ Pierre Bourgot เป็นอีก 2 คนที่เป็นมนุษย์หมาป่าเช่นเดียวกับเขา และ ร่วมกันก่อคดีฆาตรกรรมในละแวกนี้
2. Giles Garnier ใช้ชีวิตเป็นนักบวชที่โดดเดี่ยวมาอย่างยาวนาน เขาอาศัยอยู่ในกระท่อมนอกเมือง Dole ประเทศฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 16 แต่เมื่อเขาได้แต่งงาน ความเครียดในการใช้ชีวิตครอบครัวของเขาทำให้เขาสิ้นหวัง
Garnier ก็เหมือนกับคู่แต่งงานใหม่หลายคู่ที่ตระหนักว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ช่างน่ารังเกียจ ก่อนที่เขาจะหนีจากภรรยาของเขา และเริ่มต้องการอาหารมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงขอให้ผีในตัวเขาให้ยาวิเศษที่อนุญาตให้เขากลายร่างเป็นหมาป่าตามที่เขาปรารถนาได้ และในช่วงเวลานั้น เด็กๆก็เริ่มหายไป ซึ่งไม่นานชาวบ้านก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ โดยในระหว่างการพิจารณาคดีของเขา เขาได้สารภาพว่านี่คือ “อาชญากรรมของมนุษย์หมาป่า” จนเป็นเหตุให้เขาถูกลงโทษโดยการถูกเผาที่เสาเข็ม
3. ใน ค.ศ. 1589 ชนามว่า Pete Stubbe เขาสารภาพว่าเป็นคนฆ่าเด็กวัย 14 และ หญิงที่ต้องครรภ์จาก Bedburg ประเทศเยอรมันจำนวน 2 คน หลังจากที่เขาถูกนำตัวไปทรมารผูกติดกับล้อเกวียน
เมื่อเนื้อที่ถูกฉีกออกจากร่างของเขา Stubbe เขาก็ได้บอกออกมาว่า ปีศาจได้มอบเข็มขัดวิเศษให้เขากลายเป็นหมาป่าเมื่อเขาสวมมัน และเมื่อเขาเสียชีวิตลง ชาวเมืองก็ได้ตัดศรีษะของเขาวาบนร่างของหมาป่าที่พึ่งถูกฆ่ามาใหม่ๆ และนี่คือสิ่งที่พวกเขาทำกับคนที่เป็นมนุษย์หมาป่า
4. ใน ค.ศ. 1598 ช่างตัดชุดในเมือง Chalons ประเทศฝรั่งเศษ ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมอันน่าสยองขวัญมากมาย
สำหรับข้อกล่าวหานั้น เขาถูกถูกกล่าวหาว่าลักพาตัวเด็กๆเข้ามาในบ้านของเขาเพียงเพื่อต้องการกรีดคอของพวกเขา และกินพวกเขาเป็นอาหาร แต่ถ้าเขาไม่สามารถหลอกหล่อเด็กๆได้ เขาก็จะกลายเป็นหมาป่าและออกไล่ล่าในเวลากลางคืน โดยหลักฐานที่พบคือถังกระดูก และเลือดที่อยู่ในห้องใต้ดินลึกใต้บ้านของเขา
5. ที่เมือง Gascony ประเทศฝรั่งเศษ ต้องพบกับสิ่งที่น่ากลัวเมื่อบรรดาเด็กๆได้พากันหายตัวไปในช่วงปี ค.ศ. 1603 และมีเด็กวัยรุ่นคนนึงบอกว่าเขาเป็นคนที่ทำให้เกิดสิ่งที่น่ากลัวเหล่านี้ มันมากจากการกระทำเมื่อเขาเป็นหมาป่า
Jean Grenier ชาวเมืองอายุ 14 ปีอ้างว่าเป็นผู้ชื่นชอบการเอาลูกหลานของชาวเมืองมาเป็นอาหาร เขาอ้างว่ามีชายคนนึงมาทำให้เขากลายร่างเป็นหมาป่า และในทุกคืน เขารวมทั้งมนุษย์หมาป่าอีก 9 คนจะออกล่าไปรอบๆเมือง เขายอมรับว่าเคยกินลูกหลานชาวเมืองไปแล้ว 3 หรือ 4 คน เนื่องจากอายุของเขา แทนที่จะถูกตัดสินประหารชีวิตเขากลับถูกขังอยู่ในวัดวาอารามในท้องถิ่นเพื่อการรักษาทางศาสนาแทน
6. ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นด้วยฝีมือใคร แต่ในไป ค.ศ. 1640 ณ เมือง Greifswald ประเทศเยอรมัน ก็ถูกบุกรุกโดยกลุ่มของมนุษย์หมาป่า
หลังจากพยายามหลายต่อหลายครั้งในการต่อสู้กับหมาป่าด้วยกระสุนธรรมดา นักเรียนกลุ่มหนึ่งตัดสินใจที่จะละลายเงินทั้งหมดในเมืองและใช้มันเพื่อสร้างกระสุนเพื่อต่อกร ไม่มีใครมีความคิดที่ดีกว่านี้แล้วในตอนนั้น แต่มันได้ผล พวกมันกลิ้งไปกับพื้นเพราะกระสุนทำจากเงิน และแล้วพวกเขาก็รู้จัดอ่อนของมนุษย์หมาป่านับตั้งแต่นั้น
7. ในปี ค.ศ. 1685 ณ เมือง Ansbach ประเทศเยอรมัน ถูกคุกคามโดยมนุษย์หมาป่า แต่เมื่อพวกเขาพบอัตลักษณ์ที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตนี้ พวกเขากลับรู้สึกถูกทรยศ
สิ่งมีชีวิตที่ว่านี้ กลายเป็นนายกเทศมนตรีเมือง Ansbach ซึ่งทุกคนคิดว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน หลังจากที่จับมนุษย์หมาป่าได้แล้ว เขาจับสวมชุดนายกเทศมนตรี และนำไปแขวนคอในที่สุด (พวกเขาแค่อยากจะแน่ใจ ฉันคิดว่างั้น)
8. เมื่อชายคนหนึ่งนามว่า Theiss ถูกจับได้ว่าเป็นมนุษย์หมาป่า ณ เมือง Jurgenburg, Livonia ในปี ค.ศ. 1692 เขาสารภาพผิด แต่แล้วกลับมีเรื่องราวที่แปลกประหลาดที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในการพิจรณาคดี
ในขณะที่เขายอมรับว่าเป็นมนุษย์หมาป่า Theiss ยังอ้างว่ามนุษย์หมาป่าไม่ได้เลวร้ายอะไรโดยเนื้อแท้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาบอกว่าเขากำลังอยู่ในสงครามนิรันดร์กับแม่มดเพื่อช่วยประเทศชาติและอาจจะเป็นโลกใบนี้เอาไว้ เขาบอกว่า บางครั้ง.. เหตุผลที่พืชบางชนิดไม่อาจเติบโตในเมือง Jurgenburg ได้ ก็เนื่องมาจากแม่มดได้เอาเมล็ดพืชลงไปนรก
การสู้รบครั้งใหญ่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดนักบุญคริสเตียนของ Saint Lucia, Pentecost และ Saint John (ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล) โดยระหว่างสองกองกำลังนี้ Theiss อ้างว่ามนุษย์หมาป่าไม่ชั่วร้าย ในความเป็นจริงพวกเขาเป็นสุนัขล่าเนื้อของพระเจ้า โดยท้ายที่สุดศาลไม่ได้ตัดสินประหารชีวิตเขาโดยให้เหตุผลว่าเป็นคนบ้า
มนุษย์หมาป่ามีทั้งที่เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งหมาป่า
และกลายร่างเป็นหมาป่าทั้งตัว
เชื่อกันว่ามนุษย์หมาป่าสามารถกลับหนังของตนเข้าข้างในเพื่อหลบซ่อนขนหมาป่าเมื่อกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมนุษย์หมาป่าจะถูกถลกหนังออกเพื่อล่าเอาหนังหมาป่าไว้ วิธีทดสอบว่าผู้ใดเป็นมนุษย์หมาป่าหรือไม่นั้นสามารถจำอก ผู้ที่เป็นมนุษย์หมาป่านั้นจะมีขนระหว่างคิ้วหนาและยาวจนเกือบจรดกันตรงระหว่างคิ้ว ใบหูเล็กและปลายเรียวแหลม นิ้วกลางทั้งสองข้างมักสั้นเกือบเท่านิ้วชี้ และที่สำคัญคือ มีขนที่ฝ่ามือด้วย
มนุษย์หมาป่า จะกลับร่างกลายเป็นมนุษย์ธรรมดาเมื่อได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนักล่าแวมไพร์สามารถที่จะตามรอยเลือดได้ วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่า คือ การยิงด้วยลูกปืนหรือแทงด้วยใบมีดที่ทำมาจากเงิน และจะต้องเป็นเงินที่หลอมมาจากกางเขน ศพของมนุษย์หมาป่าควรนำไปเผาดีกว่าฝัง เพราะนำไปฝังอาจทำให้มนุษย์หมาป่ากลับคืนร่างมาเป็นแวมไพร์หรือมนุษย์หมาป่าได้อีกครั้ง
เชื่อกันว่า ผู้ที่กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าเป็นเพราะถูกสาปหรือเกิดจากอุบัติเหตุที่สยดสยอง บุคคลนั้นต้องกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าทุกค่ำคืน หรือในทุกวันพระจันทร์เต็มดวงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีเดียวที่จะหยุดการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าได้ คือ ความตายเท่านั้น
ความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่ามีอยู่ทั่วโลก มีอาการป่วยทางประสาทประเภทหนึ่งที่หาได้ยาก เรียกว่า “Lycanthropy” (/ไล-เคน-โทร-ฟี่/) ซึ่งเป็นอาการที่เป็นที่รู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นอาการที่ผู้ป่วยมักคิดว่าตนเองสามารถกลายร่างเป็นหมาป่าได้ ทั้งที่ไม่สามารถทำได้ แต่ก็มีกิริยาอาการแบบเดียวกับหมาป่า เที่ยวฆ่าผู้อื่นและกินเนื้อที่เหยื่อที่ตนฆ่าทิ้ง
นอกจากนี้แล้ว ผู้ที่มีขนรุงรังตามแขนขาหรือหลังหรือลำตัว จนถูกเรียกว่าเป็นมนุษย์หมาป่า เป็นอาการผิดปกติที่เรียกว่า Hypertrichosis (/ไฮ-เปอร์-ทริ-โค-ซิส/) เกิดจากยีนในโครโมโซมผิดปกติ แต่เกิดขึ้นได้น้อยมากเพียงหนึ่งใน 1,000,000 เท่านั้น แต่ทว่าอาการดังกล่าวสามารถส่งต่อทางพันธุกรรมได้[1]
นอกจากนี้แล้ว การกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่ายังเกิดจากผู้ที่ต้องการจะกลายร่างเพื่อความแข็งแกร่งและอยู่ยงคงกระพัน ตามความเชื่อของรัสเซีย เชื่อว่า การที่จะกลายร่างเป็นหมาป่าได้นั้นต้องกระโดดข้ามต้นไม้ใหญ่ที่ล้มอยู่ในป่า แล้วเอามีดทองแดงเล่มเล็ก ๆ แทงต้นไม้แล้วท่องคาถา แล้วดื่มน้ำจากรอยเท้าบนดินของหมาป่า และกินสมองของสัตว์ที่ถูกหมาป่าฆ่าตาย หากทำดังนี้แล้วจะกลายร่างเป็นหมาป่าได้ และยังมีอีกวิธีการหนึ่ง คือ ในเวลาเที่ยงคืนของคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ให้ปรุงน้ำมันชนิดหนึ่งขึ้นมาที่ทำมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า หนังหมาป่า และต้นถุงมือหมาจิ้งจอก ฝิ่น ผสมกับเลือดค้างคาวและไขมันของเด็กที่ถูกฆ่าตาย เอาของทั้งหมดนี้มาต้มรวมกันในหม้อ เมื่อผสมเข้ากันดีแล้วก็ให้ทาตามตัวแล้วเอาหนังหมาป่ามาคลุมร่าง พร้อมกับท่องคาถาขอให้เปลี่ยนร่างเป็นหมาป่า ซึ่งจะกลายเป็นหมาป่าเองโดยอัตโนมัติในทุก ๆ คืน และกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ในเวลาเช้า คาถานี้จะถูกทำลายลงก็ต่อเมื่อบุคคลนั้นตายหรือถูกแทงเข้า 3 ครั้งที่หน้าผาก
นักรบนอร์ดิก หรือที่รู้จักกันดีในนามของ เบอร์เซอร์เกอร์ เป็นพวกที่สร้างความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่าให้น่ากลัวยิ่งขึ้น เนื่องจากนิยมไว้ผมและหนวดเครายาวรุงรังเพื่อให้น่ากลัว ข่มขวัญศัตรู พวกชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลเมื่อถูกชนกลุ่มนี้ทำร้าย มักจะเชื่อว่าพวกเบอร์เซอร์เกอร์สามารถกลายร่างเป็นกึ่งมนุษย์กึ่งสัตว์ร้าย อย่าง หมี หรือหมาป่าได้ ขณะทำการต่อสู้ ซึ่งในเทพปกรณัมของเบอร์เซอร์เกอร์บทหนึ่งเล่าว่า มีแม่มดร่ายเวทมนตร์ไว้บนหนังหมาป่า 2 ผืน ใครที่ได้สวมหนังหมาป่านี้จะกลายร่างเป็นหมาป่าไปทั้งหมด 10 วัน มีนักรบ 2 คนไปพบหนังหมาป่า 2 ผืนนี้โดยบังเอิญในป่า จึงขโมยมาขณะที่เจ้าของยังหลับอยู่ ด้วยความรู้ไม่ถึงการณ์นักรบทั้ง 2 ก็นำหนังหมาป่านี้มาสวมดู แต่ไม่สามารถถอดออกได้ นักรบทั้ง 2 หอนโหยหวนและเข้าทำร้ายซึ่งกันและกัน และยังทำร้ายเจ้าของหนังหมาป่าด้วย เมื่อ 10 วันผ่านไป เมื่อทั้งคู่กลายร่างเป็นมนุษย์แล้วก็เอาหนังหมาป่าทั้ง 2 ผืนนี้ไปเผาไฟทำลายทิ้งเสีย
ในเทพปกรณัมของชาวไอริชเล่าว่า มีนักบวชผู้หนึ่งหลงทางอยู่ในป่า พบหมาป่านั่งอยู่ข้างกองไฟ หมาป่าตัวนี้สามารถพูดเป็นภาษามนุษย์ได้ หมาป่าได้ขอให้นักบวชอวยพรให้กับภรรยาของตนซึ่งกำลังใกล้จะตาย หมาป่าอธิบายว่า ครอบครัวของตนถูกสาปให้ทั้งหญิงและชายอย่างละหนึ่งคน จะต้องกลายร่างเป็นหมาป่าทั้งหมด 7 ปี ถ้าว่าถ้าครบ 7 ปีแล้วยังมีชีวิตอยู่ก็จะกลายร่างเป็นมนุษย์ดังเดิม แต่นักบวชไม่เชื่อ จนกระทั่งหมาป่าตัวเมียจึงฉีกหนังหมาป่าออกเผยให้เห็นเป็นร่างของหญิงสาวที่อยู่ภายใน