นิทานของ บีเดิล ยอดกวี (The Tales of Beedle the Bard)
รับชมภาพจากหนังสือ The Tales of Beedle the Bard ได้ที่นี่ครับ!
นิทานของบีเดิลยอดกวี ( The Tales of Beedle the Bard ) เป็นหนังสือนิทานที่แต่โดยนักเขียนในโลกเวทมนตร์นามว่า ” บีเดิ้ล ” ว่ากันว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นนิทานพื้นบ้านที่เด็กชาวผู้วิเศษ พ่อมด แม่มด ทุกคนเคยอ่าน หรือ ได้ยินกันทุกคน
จากวรรณกรรมเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ หนังสือเล่มนี้ถูกเอ่ยถึงในช่วงเล่ม 7 โดยอยู่ในฐานนะสมบัติจากพินัยกรรมของ ศาสตราจารย์ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ที่มอบให้กับ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ โดยในเนื้อเรื่องถูกแปลเป็นภาษาไทยว่า ” นิทาน 3 พี่น้อง ”
เนื้อเรื่องจากหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่กล่าวถึงนิทานของ บีเดิ้ล
กาลครั้งหนึ่งยังมีพี่น้องผู้ชายสามคน กำลังเดินทางไปตามถนนที่คดเคี้ยว และ เปล่าเปลี่ยวในยามเย็น ในไม่ช้า สามพี่น้อง ก็มาถึงแม่น้ำซึ่งลึกเกินกว่าจะเดินลุยข้าม และ เชี่ยวกรากเกินกว่าจะว่ายข้ามไป อย่างไรก็ตาม พี่น้องทั้งสามคนเล่าเรียนเวทมนตร์ศาสตร์มาจนเชี่ยวชาญ พวกเขาจึงแค่โบกไม้กายสิทธิ์ และ เสกสะพานขึ้นมาข้ามแม่น้ำที่บ้าคลั่ง เมื่อข้ามไปกึ่งกลางสะพาน สามพี่น้องก็พบร่างที่สวมหมวกคลุม หัวยืนขวางทางไว้แล้วยมทูตก็พูดกับพวกเขา ยมทูตโกรธที่ไม่ได้เหยื่อใหม่ไปสามราย เพราะปกติแล้ว นักเดินทางมักจมน้ำตายที่นี่ แต่ยมทูตเป็นคนเจ้าเล่ห์แสนกล เขาแสร้งทำเป็นยินดีกับสามพี่น้องที่เก่งกาจเรื่องเวทมนตร์ และ บอกว่า ทั้งสามควรได้รับรางวัลในฐานะที่ฉลาดพอจะหลบเลี่ยงมทูตได้ ดังนั้น
พี่ชายคนโต ซึ่งเป็นคนชอบต่อสู้ จึงขอไม้กายสิทธิ์ที่มีอำนาจเหนือกว่าไม้ใดๆในโลก ไม้กายสิทธิ์ที่ทำให้เจ้าของชนะการประลองเสมอ ไม้กายสิทธิ์ที่มีค่าคู่ควรแก่พ่อมดที่เอาขนะยมทูตได้ ดังนั้น ยมทูตจึงข้าม ไปที่ต้นเอลเดอร์ ซึ่งขึ้นอยู่ริมตริ่ง และ ตัดกิ่งหนึ่งออกมาทำไม้กายสิทธิ์ให้พี่ชายคนโต
จากนั้นพี่คนที่สอง ซึ่งเป็นคนหยิ่งยโส ตัดสินใจว่าเขาอยากทำให้ยมทูตอับอายขายหน้ามากขึ้นอีก จึงขอ อำนาจที่จะเรียกใครก้ได้กลับมาจากความตาย ดังนั้น ยมทูตจึงหยิบหินก้อนหนึ่งขึ้นมาจากริมฝั่ง และ มอบให้พี่ชายคนรอง บอกเขาว่าหินก้อนนี้มีอำนาจนำคนตายกลับมาได้
จากนั้นยมทูตถามชายคนที่สามซึ่งเป็นน้องคสุดท้องว่าเขาต้องการอะไร น้องคนสุดท้องเป็นคนถ่อมตัวที่สุด และ ฉลาดที่สุดในบรรดาพี่น้องสามคน เขาไม่เชื่อใจยมทูตเลย ดังนั้นจึงขออะไรก็ได้ที่จะพาเขาไปจากที่นั่น โดยที่ไม่ให้ยมทูตติดตามไปได้ ยมทูตจึงมอบผ้าคลุมล่องหนของตนให้ ด้วยความไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
จากนั้นยมทูตก็หลีกทาง ปล่อยให้สามพี่น้องเดินต่อไปได้ พวกเขาเดินทางกันต่อ พลางพูดคุย ถึงการผจญภัยอันน่ามหัสจรรย์ที่เพิ่งประสบมา และ ต่างชื่นชมของขวัญจากยมทูต
เมื่อถึงเวลา สามพี่น้องก็แยกทางกัน แต่ละคนไปตามจุดหมายปลายทางของตนเอง
พี่ชายคนโตเดินต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์ จนถึงหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลแห่งหนึ่ง เขาตามหาพ่อมด ที่เคยมีเรื่องวิวาทด้วย และท้าประลองกัน แน่นอน เมื่อมีไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์เป็นอาวุธ เขาก็เอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย เขาทิ้งศัตรูให้นอนตายอยู่บนพื้น แล้วเดินต่อไปยัง โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ณ ที่นั่น เขาคุยโวเรื่องไม้กายสิทธิ์อันทรงอำนาจที่เขาแย่งชิงมาจากยมทูต และบอกว่ามันทำให้เขาไม่มีวันพ่ายแพ้ คืนนั้นเอง พ่อมดคนหนึ่งแอบย่องไปหาพี่ชายคนโต ขณะที่เขาเมาเหล้าองุ่นนอนหลับอยู่บนเตียง เจ้าขโมยหยิบเอาไม้กายสิทธิ์ไป แถมยังเชือด คอพี่ชายคนโตเสียด้วย
ดังนั้นยมทูตจึงได้พี่ชายคนโตเป็นของตน
พี่ชายคนที่สอเดินทางกลับบ้านของตนเอง เมื่อไปถึง เขาหยิบก้อนหินที่มีอำนาจเรียกคนตาย ออกมา เขาหมุนมันในมือสามครั้ง แล้วก็ต้องประหลาดใจ และ ดีใจ เมื่อเห็นร่างหญิงสาวคนหนึ่ง ปรากฏตรงหน้า เธอคือผู้หญิงที่เขาเคยหวังจะแต่งงายด้วย แต่ตายไปก่อนสมวัยอันควร แต่กระนั้นเธอกลับโศกเศร้าและเย็นชา เหินห่างจากเขาราวกับมีผ้าม่านบางๆขวางกั้น แม้ว่า จะกลับคืนสู่โลกมนุษย์ แต่เธอก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้จริงๆ และ ได้รับทุกเวทนายิ่งนัก ท้ายที่สุด พี่ชายคนรองก็กลายเป็นบ้าเพราะความไม่สมหวัง และฆ่าตัวตายเพื่อไปอยู่ร่วมกับ สาวคนรักอย่างแท้จริง
ดังนั้นยมทูตจึงได้พี่คนรองเป็นของตน
ส่วนน้องคนที่สาม แม้ยมทูตจะเฝ้าค้นหาเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ไม่เคยพบชายผู้นั้นเลย ในที่สุดเมื่อน้องคนสุดท้องถึงกาลขราภาพ เขาจึงถอดผ้าคลุมล่องหนออก และ ส่งมอบให้บุตรชาย จากนั้นเขาก็ต้อนรับยมทูตดั่งเพื่อนเก่า และ เดินทางไปด้วยกันอย่างยินดี
ทั้งสองจากชีวิตนี้ไปในฐานะผู้เสมอกัน