Potter Story Web's : โลกเวทมนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ & สัตว์มหัศจรรย์ฯ !!
Newsข้อมูลพิเศษ และ บทความ

100 เรื่องจริงของ “แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter)” ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน!

สำหรับแฟนๆ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ทั้งหนังสือและภาพยนตร์ อาจจะพอทราบมาบ้างแล้วนะครับว่าในส่วนของงานสร้างภาพยนตร์นั้น ไม่ได้ตรงกับสิ่งที่บรรยายไว้หนังสือแบบ 100% แต่นั่นก็ไม่เท่ากับข้อมูลที่น่าสนใจ 100 เรื่องจริงจาก “แฮร์รี่ พอตเตอร์” เหล่านี้ ที่คิดว่าแฟนๆรู้แล้วจะต้องร้องว้าววว์กันเลยทีเดียวครับ ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลย.. ^^//

100 เรื่องจริงของ

แฮร์รี่ พอตเตอร์

1. มีตัวละคร 772 ตัวที่ถูกพูดถึงในนิยายชุดนี้
2. เจ.เค.โรว์ลิ่ง เคยให้สัมภาษณ์ว่า เฟร็ด เป็นตัวละครที่เธอชอบที่สุด เมื่อต้องเขียนฉากเฟร็ดตาย เธอก็เสียใจมากจนร้องไห้ออกมา

เฟร็ด จอร์จ วีสลีย์

3. โรว์ลิ่ง เคยให้สัมภาษณ์ว่า แพนซี่ พาร์กินสัน ไม่มีทางได้แต่งงานกับ เดรโก มัลฟอย แน่นอน เพราะ แพรนซีย์ เป็นตัวแทนของเด็กผู้หญิงที่เคยล้อเลียนโรว์ลิ่งสมัยเด็ก เป็นขั้วตรงข้ามของเฮอร์ไมโอนี่

แพนซี่ พาร์กินสัน

4. ช่วงเวลาเดียวที่ เฟร็ด กับ จอร์จ ได้แก่ไปด้วยกัน คือ ตอนที่พวกเขาใช้ยาโกงอายุเพื่อใส่ชื่อลงแข่งในถ้วยอัคนี ถ้วยเลยปล่อยเวทมนตร์ที่ทำให้พวกเขาแก่สมใจ
5. ในหนัง ฉาก 19 ปีให้หลัง คนที่เล่นเป็นภรรยาของ เดรโก มัลฟอย คือแฟนตัวจริงนอกจอของ ทอม เฟลตัน เอง

เดรโก มัลฟอย

6. โรว์ลิ่งเป็นคนตัดสินใจเลือก แม็กกี้ สมิธ มาแสดงเป็น มักกอนนากัล ด้วยตัวเอง
7. ศาสตราจารย์ ลูปิน คือตัวแทนของผู้ติดเชื้อ HIV ที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เพราะกลัวถูกแบ่งแยก
8. นิตยสาร Forbes ได้จัดให้โรว์ลิ่ง เป็นผู้หญิงที่มีอิทธิพลลำดับที่ 61 ของโลกในปี 2011
9. ก่อนหน้านี้ เนวิลล์ มีนามสกุลสองชื่อ คือ ไซด์บอทท่อม กับ พัฟ
10. ศาสตราจารย์มักกอนนากัล เคยหมั้นกับมักเกิ้ลชื่อ ดูกัล แมกเกรเกอร์
11. เบลลาทริกซ์กับซิเรียส แบล็ก ต่างเสียชีวิตในขณะที่กำลังล้อเลียนคู่ต่อสู้

bellatrix dead

12. ถ้ามีมักเกิ้ลเดินผ่านมาแถวโรงเรียนฮอกวอตส์ พวกเขาจะเห็นเพียงอาคารเก่าๆ พร้อมป้าย “ห้ามเข้า พื้นที่อันตราย”
13. โรว์ลิ่งชอบตอน “กระจกแห่งแอริเซด” ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่มแรกมากที่สุด
14. ก่อนหน้าที่จะเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ เด็กๆตระกูลวีสลีย์ ได้รับการเรียนการสอนจาก มอลลี่
15. ทั้งซิเรียส และ เฟร็ด ผู้สร้างเสียงหัวเราะให้กับชาวฮอกวอตส์ ต่างเสียชีวิตในขณะที่กำลังหัวเราะ
16. โรว์ลิ่งคิดชื่อที่ขึ้นต้นด้วยตัว Q ได้ 5 หน้า ก่อนจะลงเอยที่ชื่อ ควิดดิช


17. เฮอร์ไมโอนี่ เกือบจะมีน้องสาวคนหนึ่งแล้ว แต่โรว์ลิ่งหาที่ลงให้ตัวละครตัวนี้ไม่ได้เสียที
18. เฮอร์ไมโอนี่ เกือบได้นามสกุลว่า “พักเกิ้ล”
19. โรว์ลิ่งเคยพูดติดตลกว่าถ้า ก็อดดริก กริฟฟินดอร์ ยังมีชีวิตอยู่ คงจะปลอมตัวเป็นหมึกยักษ์นั่นแหละ
20. อาการแลบลิ้นแปลกๆ ของบาร์ตี้ เคราช์ จูเนียร์ในหนังไม่ได้มีในเวอร์ชั่นนิยาย แต่นักแสดง เดวิด เทนแนนท์ ด้นสดขึ้นมาเองเพื่อให้ตัวละครดูเป็นชายสติไม่ดีมากขึ้น

บาร์ตี้ เคราช์ จูเนียร์

21. ขณะอยู่กอง ไมเคิล แกมบอน (ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์) จะสวมเสื้อผ้าปกติใต้เสื้อคลุมพ่อมดแล้วเอาบุหรี่ยัดไว้ในถุงเท้า
22. โรเบิร์ต น็อกซ์ (มาร์คัส เบลบี้) ถูกแทงเสียชีวิตวันที่ 24 เมษายน 2008 ก่อนถ่ายทำภาคเจ้าชายเลือดผสม
23. เบลลาทริกซ์ เป็นภาษาละตินแปลว่า “นักรบหญิง”


24. ผู้พิทักษ์ของเฮอร์ไมโอนี่ คือ ตัวนาก ซึ่งเป็นสัตว์ที่โรว์ลิ่งชอบที่สุด และมันยังจัดเป็นสัตว์ตระกูลวีเซิลด้วย (ต้องแต่งเข้าตระกูลวีสลีย์แล้วล่ะ)
25. โรว์ลิ่งบอกว่า ซิเรียส แบล็ก นั้นยุ่งกับการทำตัวขบถจนไม่ได้แต่งงาน

ซิเรียส แบล็ก

26. โรงเรียนฮอกวอตส์ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 993
27. มีพ่อมด 3,000 คนบนเกาะอังกฤษ
28. ผู้จัดการของโรว์ลิ่งต้องติดต่อให้ สนพ.ในเกาะอังกฤษเริ่มจำหน่าย แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ นักโทษแห่งอัซคาบัน หลังโรงเรียนเลิก เพื่อไม่ให้เกิดการหนีโรงเรียนมาซื้อก่อน
29. แฟนหนังสือหลายคนไปถ่ายภาพชานชาลาที่สถานีคิงส์ครอส จนเจ้าหน้าที่จัดทำป้าย ชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 ให้โดยเฉพาะ

The Platform 9

30. นักแสดงแทนของ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ได้ทำหน้าที่แค่ 6 ภาคแรก เนื่องจากระหว่างการซ้อมก่อนถ่ายทำภาค 7 เขาดันเป็นอัมพาตเสียก่อน
31. พวกแฟนๆ ชอบคิดว่า สเนป คือ แวมไพร์ เพราะลักษณะท่าทางของเขามันให้ แต่โรว์ลิ่งก็ช่วยยืนยันให้ว่า “ไม่ใช้จ้ะ”
32. โรเบิร์ต แพททินสันเคยพูดตรงๆ ว่าเขาอยากเล่นเป็น เซดริก ดิกกอรี่ มากกว่า เอ็ดเวิร์ด คัลเลน

เซดริก ดิกกอรี่

33. มักมีคนถามโรว์ลิ่งว่าชื่อ เฮอร์ไมโอนี่ อ่านยังไง เธอเลยเขียนให้ เฮอร์ไมโอนี่ สอน วิกเตอร์ ครัม เรื่องการออกเสียงชื่อเธอ ทุกคนจะได้รู้เสียที
34. ป้าเพ็ททูเนีย อิจฉา ลิลลี่ แม่ของแฮร์รี่ มาก ที่มีความสามารถด้านเวทมนตร์จนถึงกับเขียนจดหมายไปหาศาสตราจารย์ ดัมเบิลดอร์ ขอเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ด้วย
35. ในการสัมภาษณ์ เอ็มมา วัตสัน บอกว่าคนในกองมักเรียกเธอ “วัตสันเทคเดียว” ส่วนแดเนียล แรดคลิฟฟ์ จะถูกเรียกว่า “อีกทีนะแดน” และ รูเพิร์ต กรินท์ ได้ฉายาว่า “เล่นใหม่ รูเพิร์ต”
36. โรว์ลิ่งให้ แฮร์รี่ กับ รอน ช่วย เฮอร์ไมโอนี่ จากโทรลล์ในเล่มแรก เนื่องจากเธอรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างที่ “ยิ่งใหญ่” มากดึงคนสามคนนี้เข้าหากัน
37. หลังจากที่ฮอร์ครักซ์ในตัว แฮร์รี่ ถูกทำลาย เขาก็พูดภาษาพาร์เซลไม่ได้อีกต่อไป
38. หลังจบสงครามที่ฮอกวอตส์ แฮร์รี่ พยายามนำภาพสเนปมาติดที่ห้องอาจารย์ใหญ่ ถึงแม้ว่าสเนปจะเป็นฝ่ายทิ้งตำแหน่งเพื่อไปอยู่ข้างโวลเดอมอร์ก็ตาม

severus snape

39. หมายเลขตู้นิรภัยของ ซิเรียส (711) เป็นหมายเลขหน้าที่มีฉากซิเรียสตายในฉบับอังกฤษของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ภาคีนกฟินิกส์ (บังเอิญหรือไร?)
40. รอนกลัวแมงมุมมากเพราะเฟร็ดเสกให้ตุ๊กตาหมีของเขาเป็นแมงมุมตอนรอน อายุ 3 ขวบ หลังจากที่รอนทำไม้กวาดของเล่นของเฟร็ดหัก แต่แฮร์รี่ คุ้นชินกับแมงมุม เพราะเขาเจอมันบ่อยๆในห้องใต้บันได

แฮร์รี่ พอตเตอร์

41. เฮเลน่า คาร์เตอร์ (เบลลาทริกซ์) สารภาพว่าเคยเผลอฟาดไม้กายสิทธิ์ไปโดนหู แมทธิว ลูอิส (เนวิลล์) ทำให้เขาเลือดออก
42. โรว์ลิ่งให้มอลลี่ เป็นคนฆ่าเบลลาทริกซ์ เพื่อสื่อว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้น มีพลังกว่าความรักที่เน้นการครอบครองของเบลลาทริกซ์
43. คำพูดแรก และ คำพูดสุดท้ายที่เราได้ยินจากเอล์ฟชื่อด๊อบบี้ คือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์”

ด๊อบบี้

44. สตีเฟน คิงยกให้ศาสตราจารย์อัมบริดจ์ เป็นตัวร้ายจอมเสแสร้งที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ ฮันนิบาล เลกเตอร์

dolores umbridge

45. ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคสุดท้าย ฉากที่แฮร์รี่แกล้งตายแล้วในอ้อมแขนแฮกริดแล้วลุกขึ้นมา จอร์จหันไปข้างหลังเพื่อบอกเฟร็ดว่าแฮร์รี่ยังไม่ตาย โดยลืมไปว่า เฟร็ดตายแล้ว

เฟร็ดแฮร์รี่ยังไม่ตาย

46. ในภาคสุดท้ายอีกเช่นกัน โช แชง ควรจะเรียนจบไปแล้ว (เธออายุมากกว่าแฮร์รี่ 1 ปี) แต่ในหนังเราจะได้เห็นเธอสวมชุดคลุมมายืนรวมกลุ่มกับพวกเรเวนคลอเสมือนว่ายังมาเรียนอยู่
47. จอร์จ แต่งงานกับ แองเจลิน่า จอห์นสัน มีลูกสองคน คือ เฟร็ด และ โรซานน์
48. แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นพ่อมดเพียงคนเดียวที่โดนคำสาปโทษผิดสถานเดียวทั้ง 3 คำสาป แล้วยังมีชีวิตรอดมาได้

avada-kedavra

49. โรว์ลิ่งบอกว่า ลิลลี่คงเริ่มชอบสเนปถ้าเขาไม่ไปสายมืดเสียก่อน
50. เกือบตลอดการถ่ายทำหนังชุดนี้ แดเนียลมักจะสวมแว่นกรอบกลมที่ไม่มีเลนส์
51. วินเซนต์ แครบบ์ เปลี่ยนนักแสดงกะทันหัน เนื่องจากนักแสดงคนเดิมโดนจับได้ข้อหาปลูกและขายกัญชา
52. รูเพิร์ต กรินท์ ยอมรับว่าจูบระหว่างเขากับ เอ็มมา วัตสัน เหมือนจูบระหว่างพี่น้องมากกว่า


53. คุณนายนอร์ริส ที่เหมือนจะฉลาด และ มีเซนส์ทางเวทมนตร์สูงจริงๆ แล้วเป็นแค่แมวธรรมดาที่ขี้หงุดหงิดเท่านั้นเอง
54. เบลลาทริกซ์ จริงๆแล้วตกหลุมรักลอร์ดโวลเดอมอร์ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าพวกเขามีลูกด้วยกันคนนึง
55. ทั้งๆ ที่ผีพีฟส์โผล่มาในเวอร์ชั่นหนังสือทุกเล่ม แต่กลับโดนตัดออกไปจากหนังอย่างสิ้นเชิง
56. ตอนที่ เฟร็ด กับ จอร์จ ยิงลูกบอลหิมะใส่ศาสตราจารย์ควีเรลล์ในภาคแรก พวกเขาไม่รู้ว่าได้ปาหิมะอัดหน้าเจ้าแห่งความมืดไปเต็มๆ


57. ทีมงานต้องผลิตไม้กายสิทธิ์ให้ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ กว่า 70 แท่ง เพราะเขาเอามันไปใช้เล่นเป็นไม้ตีกลองจนหัก
58. การตายของเฮ็ดวิก ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการสูญเสียความไร้เดียงสา และก้าวเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวของ แฮร์รี่

แฮร์รี่ พอตเตอร์

59. ทอม เฟลตัน แจกพิซซ่าฟรีให้กับแฟนๆ ที่มารอชมภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาค 7 ที่นิวยอร์ก
60. ปากกาขนนกมหัศจรรย์ จะจับช่วงเวลาการเกิดของพ่อมดแม่มดแต่ละคนเอาไว้ เมื่ออายุครบ 11 ปี ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ก็จะใช้ขนนกนี้เขียนจดหมายเชิญให้มาเรียนที่ฮอกวอตส์
61. มีบันไดทั้งสิ้น 142 แห่งในปราสาทฮอกวอตส์

staircase hogwarts

62. แมทธิว ลูอิส (เนวิลล์) เคยบ่นเรื่องที่เขาต้องใส่ชุดให้ดูอ้วนขึ้นในภาค 3,4,5,6 และใส่ฟันปลอมใน 3,4 เพื่อให้ตัวเองดูน่าเกลียดต่อหน้าเด็กผู้หญิงในกองถ่าย
63. หลังจาก คิงส์ลีย์ ชักเกิลโบลท์ ได้เป็นนายกกระทรวงเวทมนตร์คนใหม่ เขาบอกกับคนที่ร่วมในสงครามฮอกวอตส์ว่า พวกเขาสมัครเป็นมือปราบมารได้โดยไม่ต้องใช้คะแนน ส.พ.บ.ส. เลย
64. บอนนี่ ไรท์ (จินนี่ วีสลีย์) หมั้นกับนักแสดงที่แสดงเป็น กรินเดลวัลด์ ตอนหนุ่ม
65. แฮร์รี่ ในหนังมีตาสีฟ้าเนื่องจาก แดเนียล แรดคลิฟฟ์ แพ้คอนแทคเลนส์
66. รูเพิร์ต กรินท์ เคยชนะการประกวดคนหน้าเหมือน รอน วีสลีย์ ก่อนจะมีการประกาศออดิชั่นเสียอีก
67. เอ็มมา วัตสัน ได้ใส่ฟันปลอมเพื่อให้ฟันหน้าเธอดูเหยินในฉากสุดท้ายของภาคแรก แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่ใส่มันอีกเลย (ภาคแรกถ่ายฉากจบก่อน)

hermione

68. โวลเดอมอร์ ไม่อาจรักใครได้เพราะเขาคือผลผลิตที่เกิดจากการใช้ยาเสน่ห์
69. กระเป๋าเสื้อคลุมของ ทอม เฟลตัน ถูกเย็บปิดตายเพราะเขาชอบแอบเอาขนมเข้ามากินในกองถ่าย
70. แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ภาคีนกฟินิกซ์ เป็นภาคที่เวอร์ชั่นหนังสือยาวที่สุดแต่หนังกลับสั้นที่สุด
71. สเนป เกลียด เนวิลล์ เพราะเนวิลล์อาจจะเป็นคนที่ถูกเลือกอีกคน ถ้าโวลเดอมอร์ตัดสินใจฆ่าเนวิลล์ ลิลลี่ก็ไม่จำเป็นต้องตาย
72. ต่างหูรูปหัวไชเท้าที่ ลูน่า เลิฟกู้ดใส่เข้าฉากนั้น เป็นผลงานของ อีวานนา ลินช์ นักแสดงนั่นเอง

อีวานนา ลินช์

73. ดัมเบิลดอร์ เห็นสิ่งเดียวกับที่แฮร์รี่ เห็นในกระจกแอริเซด คือ ครอบครัวที่พร้อมหน้ากัน
74. ลาเวนเดอร์ บราวน์ ในสี่ภาคแรกแสดงโดยนักแสดงผิวดำที่ไม่มีชื่อในเครดิต จนกระทั่งภาคห้าที่เธอกลายเป็นคนผิวขาว
75. คู่แฝด เฟร็ด กับ จอร์จ เลี้ยงวันเกิดตัวเองในวันเอพริลฟูล
76. รูเพิร์ต กรินท์ สารภาพว่าเคยวาดรูป อลัน ริกแมน (สเนป) ก่อนจะพบว่า อลัน ริกแมน ยืนอยู่ข้างหลังเขานี่เอง
77. เมื่อถูกถามว่า “แฮร์รี่ มอบแผนที่ตัวกวนให้ใคร” โรว์ลิ่งตอบว่า “ฉันคิดว่าเขาไม่ได้ให้ใครเลย แต่เจมส์น้อยคงขโมยมันไปจากแฮร์รี่มากกว่า”

marauder map

78. เฮอร์ไมโอนี่ เป็นคนเดียวที่กลับมาเรียนต่อจนจบปี 7 ในขณะที่ แฮร์รี่ กับ รอน…
79. แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ ได้รับเกียรติให้อยู่ในคอลเลกชั่นการ์ดกบช็อกโกแลต รอนเห็นตรงกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ว่า นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา
80. คำสาป “อะวาดา เคดาฟรา” มาจากวลีในภาษาอาหรับที่ว่า “อบัดดา เคดาบรา” แปลว่า “จงหายไปเช่นคำนี้”
81. ในเครดิตท้ายหนังภาค 4 (ถ้วยอัคนี) เขียนว่า “ไม่มีการทำร้ายมังกรใดๆ ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้”

ไม่มีการทำร้ายมังกรใดๆ

82. ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ภาคแรก แดเนียล แรดคลิฟฟ์ แกล้ง ร็อบบี โคลเทรน (แฮกริด) ด้วยการเปลี่ยนภาษาในมือถือให้เป็นภาษาตุรกี
83. นามปากกา เจ.เค. โรว์ลิ่ง มาจากไอเดียของสำนักพิมพ์ที่อยากให้เธอใช้ชื่อย่อให้ดูเหมือนเป็นผู้ชาย และจะได้ดึงดูดคนอ่านผู้ชายมากกว่านี้ เธอเลยเอา K มาจากชื่อคุณย่าของเธอ แคทลิน
84. โรว์ลิ่งปฏิเสธทฤษฎีที่ว่า “แฮร์รี่ คือ ลูกของโวลเดอมอร์” โดยบอกว่า “พวกคุณดูสตาร์วอร์สมากไปแล้ว”

im your fathe

85. ในหนังสือ แฮกริด สูงกว่ามนุษย์ปกติสองเท่า แต่ในหนัง แฮกริด สูงแค่ 8 ฟุต 6 นิ้ว
86. โรว์ลิ่ง เคยคิดจะให้ ดัดลีย์ มาอยู่ในฉากจบ และมีลูกเป็นพ่อมดด้วย แต่เธอคิดว่ายีนพ่อมดไม่น่าจะรอดได้ถ้าไปเจอยีนของลุงเวอร์นอน

dudley & harry

87. ระหว่างการถ่ายทำฉากห้องอาหารยามเช้าของฮอกวอตส์ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ เริ่มเบื่ออาหารในฉากที่มีแต่เบคอน เลยแอบส่งให้นักแสดงประกอบอายุสิบขวบตอนที่กล้องไม่ได้ถ่ายเขาอยู่
88. รูเพิร์ต กรินท์ มีรถขายไอติมของตัวเอง แต่ขายไม่ได้เพราะไม่ได้ขอใบอนุญาต เขาบอกว่า “ไม่รู้สึกอยากยุ่งกับเรื่องเอกสารเท่าไร” (สมกับเป็นรอน)
89. โรว์ลิ่ง เคยถูกเสนอให้รับบท ลิลลี่ พอตเตอร์ แต่เธอคิดว่าเธอไม่เหมาะกับการแสดงเท่าไร

jk rowling

90. มีวิธีการทำฟาวล์ในการแข่งควิดดิชทั้งหมด 700 วิธี ทั้งหมดถูกใช้ในการแข่งควิดดิชโลกปี 1473
91. ในหนังภาค 3 (นักโทษแห่งอัซคาบัน) จันทร์เจ้า (Moony) สะกดเป็น Mooney เพื่อล้อเลียนทีมงานคนหนึ่งที่มีชื่อนี้พอดี
92. ปาราวตี กับ ปัถมา พาติล ในหนังสืออยู่คนละบ้าน แต่ในหนังอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ เหมือนกัน
93. โรว์ลิ่งบอกว่าถ้าเธออยู่ในโลกพ่อมด เธอคงทำอาชีพเขียนหนังสือสอนเรื่องการใช้เวทมนตร์คาถา
94. เจมส์ เฟลพ์ (เฟร็ด วีสลีย์) บอกว่าการตายของ เฟร็ด เหมือนเป็นการตายของเพื่อนเก่าคนหนึ่ง

fred weasley died

95. มีเด็กกว่า 16,000 คนที่แคสท์บท แฮร์รี่ พอตเตอร์

harry potter casting

96. ทีมงานบอกกับนักแสดงว่าขนมร้านฮันนี่ดุ๊กส์ เคลือบแล็กเกอร์เอาไว้ จะได้ไม่มีใครแอบหยิบกินระหว่างการถ่ายทำ
97. นาตาลี แมกโดนัลด์ ตัวละครจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ อ้วยถัคนี มาจากเด็กที่เสียชีวิตด้วยโรคลูคีเมียที่โรว์ลิ่งเคยคุยด้วย
98. นากินีไม่ใช่งูตัวเดียวที่แฮร์รี่ปล่อยจากสวนสัตว์ในภาคแรก


99. หนังสือ 4 ภาคสุดท้ายในชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้รับการบันทึกว่าขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
100. เอียน แมคคัลเลน ปฏิเสธบท ศาสตราจารย์ ดัมเบิลดอร์ โดยบอกว่า “เป็นตำนานเดียวก็ลำบากยากจะทน ให้สองคงไม่ไหว”

 

Notes and References