หวัดดีค่ะ..
ชื่อ พัช นะค่ะ ^^ ยินดีที่ได้รู้จัก เพื่อนๆ ทุกคน
วันนี้เอา ฟิค ที่แต่ง เรื่องแรกในชีวิต มาลองให้อ่านกัน
ดีไม่ดี ถูกใจหรือไม่ชอบใจ ยังไงบอกได้นะค่ะ พัชจะเอาไปปรับปรุง ^^
ขอกำลังสักนิดนะค่ะ โฮะ โฮะ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อ ^^!
ฟิคเรื่องนี้ เป็นฟิคที่พัชแต่งขึ้นเอง..โดยอ้างอิงชื่อตัวละครจากหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์นะค่ะ
คุยยืดยาวแหละ..ไปอ่านกันเลยดีกว่า ค่ะ ^^!
-------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 1
รุ่งอรุณยามเช้า แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านผ้าม่านสีขาว สาดส่องเข้ามาในห้องนอนสไตล์ยุโรปแนวคลาสสิกที่แลดูหรูหรา ในทุกๆ ด้าน
บรรยากาศยามรุ่งเช้าภายนอกสดใสผิดกับบรรยากาศภายในห้องนอนหรูหราที่ดูอึมครึมและเย็นยะเยือก
ณ เตียงสี่เสาหรูหรา ขนาดใหญ่ มีร่างชายหนุ่มนอนหลับอยู่ แต่เค้าคงไม่ได้นอนหลับฝันดีเป็นแน่ เพราะร่างกายเค้ากระสับกระส่าย
ใบหน้าบ่งบอกถึงความตึงเครียดในฝัน เม็ดเหงื่อซึบออกมาจากผิวหน้าขาวซีด
"ไม่....อย่า....อย่าไป....ไม่!!!!!.....แฮ่ก...แฮ่ก" ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ
ในนัยต์ตาสีเงินเบิกกว้าง หายใจหอบและติดขัด
เค้ายกมือขึ้นปาดเหงื่อบริเวณหน้าผากของตัวเอง พร้อมกับใช้มือบีบบริเวณเบ้าตาเพื่อเรียกสติกลับมา
"ให้ตายสิว่ะ....ฝันแบบนี้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย" เดรโก มัลฟอย นึกบ่นรำคาณตัวเองในใจ เค้าลุกขึ้นนั่งหย่อนเท้าลงข้างเตียง
พลางมองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอน
"อีกวันแล้วสินะ..กับชีวิตไร้ความหมาย.." ไม่แปลกที่ เดรโก จะคิดเช่นนั้น เพราะในทุกๆ วันของชีวิตเค้า ตอนนี้ไม่มีอะไรเลย
ไม่มีความฝัน ไม่มีความหวัง ไม่มีอนาคต และไม่มีกระทั่งความรัก
ชีวิตว่างเปล่า เริ่มต้นตั้งแต่เรียนจบจากฮอกวอตส์ ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เป็นเสมือนแสงสว่างกลางจิตใจเค้า จู่ๆ ก็หายตัวไป ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอไปไหน
แม้แต่เพื่อนคนที่เธอบอกว่า รักมากมาย อย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ เองก็ยังไม่รู้
เป็นเวลา 8 ปีแล้วที่ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ หายตัวไป เดรโกเพียรพยายามตามหาเธอที่สุดเท่าที่ชายคนหนึ่งจะมีความสามารถตามหาหญิงคนรักได้
แต่ก็ว่างเปล่าไม่มีอะไร
แต่เรื่องที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ คุณและคุณนายเกรนเจอร์ ไม่มีแม้แต่ความทรงจำที่เกี่ยวกับลูกสาวพวกเค้า
เดรโกเคยพยายามเข้าไปในความทรงจำของพ่อแม่เฮอร์ไมโอนี่ แต่ก็ไร้ความหมาย
ความทรงจำของพวกเค้าเปลี่ยนแปลงไปหมด กลับกลายเป็นว่า ทั้งสองไม่เคยมีลูกสาวและไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับฮอกวอตส์เลย
เดรโกเคยใช้ศาสตร์มืดขั้นสูงกับแม่ของเฮอร์ไมโอนี่
เผื่อว่า มันอาจสามารถทำให้เธอรื้นฟื้นความทรงจำกลับมาได้...แต่มันก็เปล่าประโยชน์ ซ้ำร้ายอาจทำให้คุณนายเกรนเจอร์เสียสติไปอีก
เพราะความทรงจำที่ถูกเรียกกลับคืน กับ ความทรงจำเดิมที่ถูกเปลี่ยนแปลง มันจะยิ่งทำให้สมองเธอสับสนและเกิดอาการประสาทหลอน
แต่เค้าก็ไม่เคยคิดเลิกพยายามตามหาเธอ
ถึงแม้ว่า จะถูกสายตาเย็นชาที่ทิ่มแทงจะเฉือดเฉือนเค้าตลอดเวลานั้น มองดูด้วยความสมเพชว่า เค้าก็เป็นแค่ ไอ้โง่ ที่ถูกผู้หญิงโสโครกหลอกใช้
และพยายามพูดแกมบังคับให้เค้าเลิกตามหาเธอ
อีกทั้งพยายามขนขวายหาผู้หญิงสูงส่งเลือดบริสุทธิ์ให้แต่งงานกับเค้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ผู้หญิงเหล่านั้นไม่มีใครทนท้านต่อความเจ้าอารมณ์และโมโหร้ายของเค้าได้เลย
แต่นั้น..เป็นเพียงแค่อดีตชีวิตที่น่าเวทนาของเดรโก..ที่เค้าต้องพยายามมีชีวิตอยู่ทั้งๆ ที่อยากตาย เพราะหัวใจเพียงหนึ่งเดียวของเค้าหายไป
อีกทั้งผู้เป็นพ่อยังยัดเหยียดสิ่งที่เค้าเรียกว่าภาระกิจอันสูงส่ง
คือการ "ฆ่าล้างเลือดสีโคลนและผู้คิดต่อต้าน" ให้เค้า แต่นั้นมันก็จบลงไปแล้ว เมื่อ"แม่"ผู้ทำหน้าที่เป็นตัวประกันชั้นยอดที่พ่อใช้ข่มขู่เค้า
มาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เดรโกจึงไม่มีเหตุผลใดที่ต้องทนอยู่ใน
สภาพชีวิตเช่นนั้น เค้าหนีออกมาจากที่นั่น...แต่ก็ไม่พ้นการตามล่าตัวของพ่อเค้า จนในที่สุด
เดรโกจึงตัดสินใจย้ายถิ่นฐานของตัวเองมาอยู่ที่ฝรั่งเศสอย่างเงียบๆ เพื่อให้ห่างไกลจากนรกนั้นมากที่สุด แต่อีกหนึ่งเหตุผลที่เค้ามาที่นี้คือ....
"เดรโก..เดรโก มัลฟอย..ตื่นสิ..มาคุยกันหน่อย" สาวน้อยร่างบอบบาง หัวหยักศกสีน้ำตาลทอง นั่งคุกเข่า พร้อมเขย่าร่างใหญ่ของชายคนรักที่นอนอยู่ข้างๆ
"อืม....อะไรหน่ะ...เฮอร์...มีอะไร" ชายหนุ่มงัวเงียขึ้นมา พยายามเปิดตาขึ้น เค้าใช้มือขยี้หัวตัวเองเบาๆ
ก่อนจะมองหน้าหญิงคนรัก ที่ตอนนี้ ทำตัวน่าโมโหมาก ที่ จู่ๆ ปลุกคนที่กำลังหลับให้ตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อจะคุยเรื่องอะไรก็ไม่รู้
"นี้...ฟังหน่อยสิ...ถ้าสมมุตินะว่า ถ้าเธอแต่งงาน...เธอจะไปฮันนีมูน ที่ไหน" หญิงสาวพูดขึ้นใบหน้ายิ้มกว้าง แววตาเป็นประกาย
เดรโกมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่ ด้วยความ งง สุดขีด และรู้สึกโมโหนิดๆ ที่ จู่ๆ เธอปลุกเค้าให้ตื่นเพื่อจะถามไอ้เรื่องพันธุ์นี้แค่นั้นหน่ะหรือ..
"....ไม่ไป...." เดรโกพูดด้วยน้ำเสียงรำคาณนิดๆ พร้อมกับล้มตัวลงนอนหันหลังให้เฮอร์ไมโอนี่
"อ้าว...ทำไมหล่ะ..บอกหน่อยสิ...." หล่อนยังไม่ยอมหยุดอาการงี่เง่านั้น..พลางเขย่าตัวเดรโกขึ้นมาอีก ด้วยความโมโหและอาการตาสว่าง
ของเค้าเริ่มขึ้นแล้ว เดรโกลุกขึ้น พร้อมผลักตัวหญิงสาวให้นอนลงบนที่นอน ก่อนจะนอนทับร่างเธอ
"ชั้นจะไม่ไปไหนทั้งนั้น...เฮอร์ไมโอนี่...ถ้าชั้นแต่งงานกับเธอ..ชั้นจะกินเธอ..ทั้งวันและทั้งคืน...จนกว่าตัวเธอจะหลอมละลายเข้ามาอยู่ในตัวชั้น"
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงกล่ำ ด้วยความเขินอายกับคำพูดดุดันแต่เย้ายวนนั้น เฮอร์ไมโอนี่หันหน้าออกไปข้างๆ ทำอาการเหมือนเริ่มงอน เดรโกเห็นท่าไม่ดี
จึงถามขึ้น..
"แล้วเธออยากไปไหนหล่ะ..." สิ้นเสียงคำถาม เฮอร์ไมโอนี่หันหน้ามาด้วยท่าทีร่าเริง
"ฝรั่งเศส.." เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยสีหน้ายิ้มร่า แต่เธอคงไม่ทันได้สังเกตุว่า แฟนหนุ่มของเธอ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ด้วยความแปลกใจ ก่อนจะพูดขึ้น..
"ฮ่ะ!!...ฝรั่งเศส..ชั้นคิดว่าเธอ..คงอยากจะไป มัลดีฟส์..ซะอีก เธอชอบทะเลไม่ใช่หรือไง" เดรโกถามขึ้น
"มันก็ใช่..ชั้นชอบทะเล..แต่ชั้นก็อยากไปดูอะไรที่มันสวยงาม มีศิลปะ มีวัฒนธรรม มั้งสิ " หล่อนพูดด้วยสีหน้าแง่งอน ทำเอาเดรโก ถอนหายใจด้วยอาการยอมแพ้
"เฮ้อ~ โอเค..อยากไปไหนก็ไป ชั้นพาไปได้หมดทั้งนั้นแหละ......แต่...ตอนนี้......ชั้นอยากพา..เธอ...ไปสวรรค์กับชั้นมากกว่า..." เดรโกพูดกระซิบข้างหูเธอ..พร้อมขบกัดที่ติ่งหูเบาๆ
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกวูบวาบที่ท้อง ขนลุกชัน นวลหน้าเป็นสีชมพูจัด เดรโกจ้องมองด้วยดวงตาสีเงินลึกซึ้ง "เธอ..ช่างงดงามเหลือเกิน..ยัยเลือดสีโคลน ดวงใจของชั้น" เดรโกพลางคิดและเริ่มลงมือสำรวจเรือนร่างเย้ายวนชวนให้ทรมานนั้น
"ผมยาวเป็นลอนสวยนั่น..ผิวขาวเนียนราวผ้าแพรชั้นดี..นัยย์ตาสีน้ำตาลเปี่ยมด้วยสเหน่ย์หา..ริมฝีปากเรียวบางสีชมพู..ทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเป็นของชั้น...ใช่ เธอเป็นสมบัติของชั้น...." เดรโกตื่นจากภวังค์รักที่แสนหวานของเค้า..
ดวงตาสีเงินบ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่มีในหัวใจ..เค้ายกมือขึ้นบีบเบ้าตาตัวเองทั้ง 2 ข้างเบาๆ น้ำหยดใส ไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น เดรโกตัวสั่นเทา ใบหน้าเริ่มแดง
"เธออยู่ที่ไหนนะ..เฮอร์ไมโอนี่..เธอรู้ไหม..ชั้น..จะตายอยู่แล้ว ชั้นอยากจะตาย เผื่อว่าวิญญาณของชั้นมันอาจจะลอยไปเจอเธอบ้าง" เดรโกคิดคร่ำครวญหาหญิงคนรัก เค้ารู้สึกหนทางที่จะตามหาเธอมันมืดไปหมด
มีครั้งหนึ่งที่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ บอกให้เค้าตัดใจและเริ่มต้นชีวิตใหม่ มันอาจจะเป็นสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ต้องการให้เค้าทำ แต่แฮร์รี่ไม่ได้สัมผัสรับรู้อะไรที่ลึกกว่านั้นเลย..มันจะเป็นไปได้ยังไง..ในเมื่อชีวิตของเดรโกจบสิ้นไปตั้งแต่ที่เฮอร์ไมโอนี่หายตัวไปตั้งนานแล้ว
เค้าไม่หลงเหลือหัวใจให้ใคร ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่อยากจะมีชีวิต
"ให้ตายสิ...แกมันมาสมเพชจริงๆ..เดรโก" เดรโกบ่นสมเพชตัวเองเบาๆ ใช้มือใหญ่ลูบหน้าตัวเอง พลางลุกขึ้นจากเตียง เดินตรงไปที่ห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ทุกชิ้นที่ใส่อยู่ และเริ่มลงมืออาบน้ำ
เดรโกย้ายมาอยู่ฝรั่งเศสได้ราว 4 เดือน ทุกๆ วันชีวิตเค้าจะหมดไปกับการนั่งดูรูปเฮอร์ไมโอนี่เคลื่อนไหวไปมาและยิ้มให้เค้า อ่านจดหมายที่เธอเขียนถึงเค้า เฝ้าระลึกถึงความหลังที่หวานชื่น
เมื่ออาบน้ำและแต่งตัวเสร็จ เดรโกออกไปยืนที่ระเบียงชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสกับสายลมเย็นๆ ในใจก็พลางคิด
"ถ้าตรงนี้....มีเฮอร์ไมโอนี่ ยืนอยู่ด้วยก็ดีน่ะสิ" แค่คิดเพียงเท่านี้จิตใจเค้าก็ตกวูบราวกับมีใครมาผลักมันลงไปยังก้นเหวลึก เพื่อให้รู้สึกดีขึ้นและมีเรี่ยวแรง เค้าตัดสินใจออกไปข้างนอก
เผื่อว่า วันนี้เค้าอาจจะคิดวิธีตามหาเฮอร์ไมโอนี่วิธีใหม่ได้อีก
เดรโก เดินไปตามถนนที่ทอดยาวในกรุงปารีส ในใจก็พลางคิดว่า "ถ้าได้มีโอกาสอีกสักครั้งชั้น..จะพาเธอมาให้ได้..เฮอร์ไมโอนี่" เดรโกเดินเรื่อยเปื่อยจนไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเดินมาไกลเท่าไหร่แล้ว เพราะในใจเค้าก็มั่วแต่เหม่อลอย
คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนมาหยุดที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง บรรยากาศรอบๆ นี้ สดชื่นมาก เค้าสัมผัสได้ถึงลมเย็นและแดดอุ่นๆ เค้าเดินทอดน่องเพื่อผ่อนคลายอารมณ์พร้อมกับชื่นชมทัศนียภาพโดยรอบ
เค้าเดินตามทางเดินสีอิฐเรื่อยๆ จนสายตาเค้าไปสะดุดอยู่ที่เก้าอี้ไม้ยาวริมทางเดิน มีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ผมหยักศกค่อนข้างฟู นั่งอ่านหนังสือที่ดูแล้วไม่ค่อยเหมาะสมกับเธอสักเท่าไหร่ เพราะเล่มมันทั้งใหญ่โตและหนาเหลือเกิน
เมื่อมองดูเด็กคนนี้ มันทำให้เค้าอมยิ้ม พลันคิดถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ผมหยักศกฟูฟ่อง ที่นั่งคร่ำเคร่งอยู่กับหน้าหนังสือ เมื่อหลาย 10 ปีก่อน เด็กที่เค้าเคยเรียกว่า "ยัยเลือดสีโคลนโสโครก" แต่เด็กคนนี้กับเฮอร์ไมโอนี่
ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว...เดรโกสังเกตุเด็กคนนี้ มองดูแล้ว เธอไม่ค่อยเหมือนคนฝรั่งเศสสักเท่าไหร่ ผิวเธอขาวซีดและผมสีบอร์น ถ้าหากเธอผมสีน้ำตาลทองแล้วละก็ เค้าอาจจะคิดว่าเป็นเฮอร์ไมโอนี่ที่โดนกรอกยาพิษทำให้ตัวกลับเป็นเด็กอีกครั้งก็ได้
ตอนนี้เดรโกเริ่มเมื่อยล้าจากการเดินระยะไกลของเค้า เค้าเริ่มมองมาที่นั่งพัก แต่ทว่าเก้าอี้แถวนั้นถูกนั่งเต็มหมดแล้ว เหลือเพียงเก้าอี้ตัวนั้นที่เด็กหญิงผมบอร์น นั่งอยู่
เดรโกจึงเดินไปที่เก้าอี้นั่นพร้อมกับเอ่ยขออนุญาติ..
"เอ่อ..สาวน้อย..ขอชั้นนั่งด้วยได้ไหม" เดรโกพูดพลางยิ้มให้ แต่เมื่อเด็กหญิงเชิดหน้าขึ้นมามองที่ต้นเสียง เดรโกกลับต้องรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเค้าสบสายตากับเด็กคนนี้ "ดวงตาคู่นี้ดูคุ้นตาจัง" เดรโกคิด
แล้วเค้าก็นึกขึ้นได้....มันจะไม่คุ้นตาได้ยังไงในเมื่อ เด็กคนนี้ตาสีเงินเหมือนกันเค้า เดรโกสบตากับเด็กหญิงอยู่สักครู่ เค้าสังเกตุเห็นได้ว่า เด็กคนนี้มีดวงตาสีเงินเป็นประกาย แต่ทว่ากับดูเย็นชา เดรโกพลางคิด สักครู่ เด็กหญิงก็พูดขึ้น
"เชิญ....ค่ะ"น้ำเสียงเรียบเย็น แต่ไม่แข็งกร้าว เดรโกนั่งอยู่ข้างๆ เด็กคนนี้ ในใจก็พลางคิด...
"ผิวขาวซีด ผมบอร์น ตาสีเงิน ....
?....!!!! อ่ะ...ทำไม..เด็กคนนี้ เธอเหมือนเรานักว่ะ..ผิดกันแค่ผมไม่ทิ้งตัวตรง..ถ้าใครไม่รู้คงคิดว่า พ่อ - ลูก กันแน่เลย...อยากเห็นหน้าพ่อแม่ เด็กคนนี้จัง" เดรโกคิดติดตลก
"พ่อแม่เด็กจะหน้าตาเป็นยังไงน่ะ..แต่ดูจากรูปลักษณ์แล้ว..คงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่" เดรโกพลางคิด เด็กคนนี้คงมีพ่อแม่ที่เหมือนกับเค้า คือ รูปลักษณ์ไม่แตกต่างกัน เหมือนถอดพิมพ์เดียวกันมา
เดรโกนั่งอยู่สักครู่ จ้องมองบรรยากาศโดยรอบ ในใจคิดหาวิธีตามหาตัวเฮอร์ไมโอนี่ต่อไป ในขณะที่เดรโกคิดอะไรอยู่เพลินๆ เค้าก็ได้ยินเสียงเด็กน้อยพูดขึ้น..
"คุณ...เชื่อเรื่องเวทมนต์ไหม" เด็กน้อยถามขึ้น พร้อมจ้องมองหน้าเดรโก เหมือนกำลังรอคอยคำตอบ
เดรโก มองหน้าเด็กน้อยอยู่สักครู่ เค้าพินิจพิจารณาอยู่ว่า เด็กคนนี้ อยู่ๆ ถามคำถามแบบนี้ขึ้นมาทำไม หรือเธอจะเป็น แม่มดน้อย หรือเธอแค่สงสัย แต่แล้วเดรโกก็ตอบออกไป..
"มันขึ้นอยู่ที่เราเชื่อว่า มันมี และ ไม่มี แค่ไหน เพราะ เวทมนต์ กับ เกมส์มายากลโง่เง่า สำหรับโลกใบนี้แทบจะแยกกันไม่ออกเลย" เดรโกตอบพลางมองหน้าเด็กน้อยด้วยความสงสัย
"ทำไม......เอ่อ..." เดรโกกำลังจะถามต่อ แต่เค้าไม่รู้จะเรียกเด็กหญิงว่าอะไร..เค้าทำท่าชี้ไปที่เธอ
"หนูชื่อ เดบาร่าห์...เรียก เด็บบี้ ก็ได้" เด็กน้อยตอบ สีหน้าเธอไม่ได้ มีความรู้สึก ยินดี ยินร้ายอะไรเลย แต่ เดรโก ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจ
"โอเค..เด็บบี้..ทำไมหนูถึงถามเกี่ยวกับเวทมนต์ขึ้นมาหล่ะ?" เดรโกถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"แม่..บอกว่า โลกนี้ไม่มีเวทมนต์" สีหน้าและแววตาเด็กน้อยดูเศร้าๆ ลงอย่างบอกไม่ถูก
"หึ..แม่ของเธอ..คงโลกแคบน่าดู นะ..เด็บบี้" เดรโกเอ่ยกับเด็กหญิง ด้วยน้ำเสียงเหยียด ๆ
เด็บบี้หันหน้ากลับมาจ้องมองเค้าด้วยแววตาสีเงินคู่นั้น แสดงอาการเหมือนกับกำลังโกรธที่เค้าประเมินแม่ของเธอต่ำแบบนั้น
"แล้วคุณ..เคยเจอโลกที่มันไม่แคบเหมือนโลกใบนี้หรือไง.." เด็บบี้พูดกับเค้าด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความไม่พอใจอย่างมาก
เดรโกมองหน้าเด็กน้อย พลางยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก
"มันก็ไม่เชิงหรอกนะ..เด็บบี้..ถ้าเธอโตกว่านี้..และเธอได้รับโอกาส..เธอก็จะรู้เองว่า มันมีหรือไม่มี" เดรโกพูดทิ้งไว้ให้เป็นปริศนาค้างใจเด็กหญิง
เค้าสังเกตุเห็นสีหน้าครุ่นคิดของเด็บบี้ ยิ่งทำให้เค้าคิดเฮอร์ไมโอนี่ ขึ้นมาจับใจ "สีหน้าแบบนี้..เหมือน เฮอร์ไมโอนี่ เวลาที่ถูกหลอกเลย"เดรโกคิดขึ้นภายในใจ
ทันใดนั้น จู่ๆ เด็บบี้ ก็กระโดดลงจากเก้าอี้ พลางวิ่งไป 4 - 5 ก้าว
"อ๊ะ..คุณริเน่..มารับแล้ว" เด็บบี้พูดเสียงดังด้วยความดีใจ เธอหันหลังกลับมาเพื่อ จะบอกลา เพื่อนใหม่ของเธอ
"หนูกลับก่อนนะค่ะ..คุณ....อ่าว" เด็บบี้มองดูเก้าอี้ไม้ตัวนั้น มันว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดนั่งอยู่ และบริเวณรอบๆ ก็ไม่มีใครที่กำลังเดินอยู่เลย
เด็บบี้ รู้สึก งุ่นงง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในใจก็คิด "เค้าหายไปไหนแล้ว...ทำไม...เดินเร็วจัง" ขณะที่เด็กน้อยกำลังคิดหาคำตอบให้ตัวเอง ก็มีเสียงเรียกชื่อเธอดังมาจากข้างหลัง
"เด็บบี้..กลับกันได้แล้ว..แม่ของหนูคอยอยู่นะ" หญิงสาวร่างท้วม ผมดำ เรียกเธอ พร้อมกับกวักมือเรียก
เด็บบี้จึงต้องทิ้งความสงสัยตรงนั้นไป และ วิ่งไปหาผู้หญิงที่กำลังกวักมือเรียกเธออยู่
________________________________________________________
เดรโก กลับมาที่บ้าน เค้าใช้คาถาหายตัวกลับมา..เพราะคิดว่าถ้าเดินกลับคงจะไม่ไหวแน่
"ป่านนี้..เฮอร์ไมโอนี่เบอร์ 2..คงกำลัง งง อยู่หล่ะมั้ง..หึหึ" เดรโกคิด พลางนึกตลกตัวเอง ที่ จู่ๆ ก็หายตัวกลับมาเฉยๆ
เค้าเดินขึ้น ชั้น 2 ตรงเข้าไปในห้องนอน เดรโกนั่งลงข้างเตียง พร้อมกับหยิบรูปเฮอร์ไมโอนี่ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมา
รูปของเธอยัง ยิ้มและหยอกล้อกับเค้าอยู่เสมอ มันเป็นรูปที่เค้าถ่ายให้เธอ ตอนไปเที่ยวฮอกส์มี้ดในฤดูหนาว
เดรโกยิ้มให้รูปเธอเบาๆ แต่แววตาเค้า สะท้อนความเศร้าหมองออกมาชัดเจน เค้าลูบภาพถ่ายของเธอเบาๆ ราวกับว่า มันคือ ใบหน้าของเธอ
"เฮอร์ไมโอนี่....ชั้นคิดถึงเธอจัง"