1. การฉีดฮอร์โมนเข้าไปในร่างกาย เพื่อให้มีผลต่อการเผาผลาญพลังงานจากไขมัน นอกจากจะมีราคาแพงแล้ว ยังมีผลข้างเคียงรุนแรงค่อนข้างมาก ถึงขนาดมีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะภายในบางอย่าง
2. การผ่าตัดมัดกระดูกขากรรไกรให้เข้าหากัน ปากของคนนั้นๆ ก็จะไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ กลืนอาหารเหลวได้เท่านั้น คงไม่มีใครคิดอยากจะลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ในเมืองไทย
3. การผ่าตัดเพื่อลดขนาดของกระเพาะ หรือการตัดต่อลำไส้เล็กใหม่ให้สั้นลง เพื่อลดเวลาในการดูดซึมสารอาหาร ในระหว่างผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก นอกจากนี้มีคนทดลองใส่ลูกโป่งเข้าไปในกระเพาะ เพื่อให้มีที่ว่างน้อยลง
4. การผ่าตัดหรือการดูดไขมันหน้าท้องออก ทั้งสองวิธีมีการทำในเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะบางคนโดยเฉพาะ สุภาพสตรี มีไขมันหน้าท้อง ซึ่งทำให้หน้าท้องหย่อนไม่สวยงาม จึงไปพบแพทย์เพื่อผ่าตัดเอาไขมัน และทำให้ หน้าท้อง ตึงขึ้น ส่วนการดูดไขมันออกทางหน้าท้อง ใช้วิธีเจาะช่องหน้าท้องแล้วเอาเครื่องมือสอดเข้าไปในชั้นไขมัน ใต้ผิวหนัง เพื่อดูดเอาไขมันออก
วิธีที่กล่าวมาทั้งหมด คงจะไม่มีวิธีไหนดีไปกว่าการค่อยๆ ลดน้ำหนัก โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหาร และการออกกำลังกาย แต่ถ้าท่านต้องการทำจริงๆ ท่านควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสียก่อนที่ท่านจะตัดสินใจ
วิธีลดน้ำหนัก/วิธีลดความอ้วน
1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่พยามยามลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมัน และไม่ควรงดมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะอาจทำให้คุณรับประทานอาหารมื้อถัดไปมากขึ้น ที่สำคัญควรรับประทานประเภทผักใบเขียว เพราะจะมีใยอาหาร อยู่มาก
2.พยายามดื่มน้ำก่อนอาหาร เพื่อถ่วงกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้ทานอาหารได้น้อยลง หรือเลือกรับประทาน ใยอาหาร ก่อนอาหารประมาณครั้งชั่วโมงแทน
3.เพื่อผลทางจิตวิทยา ควรใช้ภาชนะเล็กลง โดยมีปริมาณอาหารเท่าเดิมเพื่อให้ดูว่ามีอาหารมากขึ้น และควรใช้ ช้อนขนาดเล็กเพื่อจะได้รับประทานช้าลง ที่สำคัญควรฝึกเคี้ยวช้า ๆ จะทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง และรู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้น
4.หาเวลาออกกำลังกายที่เหมาะสมมากขึ้น มักมีความเชื่อผิด ๆ กันว่า การออกกำลังกายมากขึ้นจะทำให้หิวเร็ว และรับประทานอาหารมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่ไม่ได้ออกกำลังกายจะทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย จึงมักขจัด ความเบื่อนี้ด้วยการรับประทาน การออกกำลังกายจึงเป็นวิธีช่วยลดความเบื่อหน่าย และเพิ่มการใช้พลังงาน เพื่อเผาผลาญไขมันสะสมให้ลดน้อยลง
5.สร้างสิ่งจูงใจ หรือทัศนคติดี ๆ ต่อพฤติกรรมใหม่ ๆ เช่น การเขียนข้อความเกี่ยวกับการลดความอ้วน หรือชุดสวย ๆ ในสมัยก่อนที่เคยใส่ได้ เพื่อให้เห็นถึงเป้าหมาย และสามารถกระตุ้นหรือจูงใจให้มีความพยายามมากขึ้น และที่สำคัญ ที่สุด พยายามพักผ่อนให้มาก ๆ ไม่มีประโยชน์เลย ถ้ามีรูปร่างที่สวยงามอย่างที่ต้องการ แต่ต้องอาศัยอยู่ ในโรงพยาบาล เนื่องจากสุขภาพไม่ดี
สูตรลดความอ้วน สูตรพระเทพ
วันที่ 1 เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือ
โยเกิร์ต 1 ถ้วย กลางวัน - ไข่ต้ม 2 ฟอง เย็น - สลัดผัก
วันที่ 2 เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือ
กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย กลางวัน - ไข่ต้ม 2 ฟอง เย็น - โยเกิร์ต 1 ถ้วย
วันที่ 3 เช้า - กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วย กลางวัน - เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม
(เนื้อ, หมู) เย็น - สับปะรด 1 ชิ้น
วันที่ 4 เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือ
กาแฟและขนมปัง 1 แผ่น กลางวัน - สลัดผัก
และไก่ย่าง 1 ชิ้น เย็น - โยเกิร์ต 1 ถ้วย
วันที่ 5 เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย กลางวัน - ส้มตำและไก่ย่าง 1 ชิ้น เย็น - สลัดผัก
วันที่ 6 เช้า - น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย กลางวัน - ปลานึ่ง หรือ ปลาเผาไม่จำกัด เย็น - นมสด 1 แก้ว
วันที่ 7 เช้า - ข้าว 1 ทัพพี และเนื้อ 1 ชิ้น หรือไข่ต้ม 1 ฟอง กลางวัน - เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม
(เนื้อ, หมู) เย็น - สับปะรด 1 ชิ้น
สูตรลดความน้ำหนัก
มื้ออาหาร เมนู 900 กิโลแคลอรี เมนู 1,200 กิโลแคลอรี
รายการอาหาร จำนวน รายการอาหาร จำนวน
มื้อเช้า ขนมปังปิ้ง + นมพร่องมันเนย 2 แผ่น + 250 ซีซี ขนมปังปิ้ง + นมพร่องมันเนย 2 แผ่น+250 ซีซี
ส้มเขียวหวานคั้น 200 ซีซี ส้มเขียวหวานคั้น 200 ซีซี
มื้อกลางวัน แกงจืดเต้าหู้ขาว ข้าวสวย 1 ทัพพีี เกาเหลา ข้าวสวย 2 ทัพพี
ฝรั่ง หรือผลไม้อื่นๆ 2 ชั้น 75 กรัม ฝรั่ง หรือผลไม้อื่นๆ 3 ชิ้น 100 กรัม
มื้อเย็น ก๋วยเตี๋ยวหมู 1 ชาม เล็ก ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ไม่มัน 1 จาน เล็ก
สับปะรด หรือผลไม้อื่นๆ 3 ชิ้น สับปะรด หรือผลไม้อื่นๆ 3 ชิ้น
รับประทานติดต่อกันอย่างน้อย 14 วัน หรือ 2 สัปดาห์ ร่างกายแต่ละคน ใช้พลังงานแตกต่างกัน ปริมาณก็ขึ้นอยู่กับ ถ้าท่านรับประทานอาหารแล้ว น้ำหนักตัวไม่ลด ก็ต้องลดปริมาณลง ไม่รับประทานผลไม้ที่มีรสหวานจัด
www.ecarddesignanimation.com/home/diet_health.php