ผู้เขียน หัวข้อ: 08/08/53 :: [รวมบทความ] ไทยคว้าอันดับ 3 ระบบราชการดีในเอเชีย  (อ่าน 3980 ครั้ง)

~OrenjI~

  • εїз PSW Together Forever εїз
  • PSWeb's Staff
  • เจ้าหน้าที่กองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์
  • *
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 6700
  • .:: ชางโจ ... ช่างจน ::.
ไทยคว้าอันดับ 3 ระบบราชการดีในเอเชีย







ผลจากการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ

เพิร์ค บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง
เผยแพร่ รายงานสำรวจประสิทธิภาพระบบราชการ ใน 12 ชาติ และเขตปกครองพิเศษในเอเชีย
ด้วยการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารธุรกิจชาวต่างชาติระดับกลาง และระดับสูง 1,373 คน
ที่เข้ามาทำธุรกิจการค้าใน 12 ประเทศเหล่านี้ ตั้งแต่ต้นปี 2553 มีเกณฑ์คะแนน 1 - 10 ชาติใดได้คะแนนสูง ๆ หมายถึงระบบราชการประเทศนั้น ๆ สร้างปัญหาให้กับประชาชน
รวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของต่างชาติ


สำหรับประเทศสิงคโปร์ ยังคงเป็นเบอร์ 1 ตามเดิม ด้วยคะแนน 2.53 คะแนน ส่วนอันดับ 2 คือ ฮ่องกง 3.49 คะแนน ขณะที่ไทย อยู่อันดับ 3 มี 5.53 คะแนน
ซึ่งนับเป็นลำดับสูงกว่ากลุ่มชาติแถบอาเซียนด้วยกัน ส่วนอันดับอื่น ๆ อันดับ 4 เกาหลีใต้ (6.13) อันดับ 5 ญี่ปุ่น (6.57)
อันดับ 6 ไต้หวัน (6.60) อันดับ 7 มาเลเซีย (6.97) อันดับ 8 จีน (7.93) และอันดับ 9 เวียดนาม (8.13)



ข้อมูลจาก :  Supatsorn @ Voice TV
= = = = = = = = = = = = = =



ไทยอันดับ3 ระบบราชการ


"เพิร์ค" บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ ในฮ่องกง
รายงานผลการสำรวจ ความคิดเห็นของนักธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในประเทศแถบเอเชีย จัดลำดับระบบข้าราชการในภูมิภาค
สิงคโปร์รั้งอันดับ 1 ระบบราชการลื่นไหล ไม่งี่เง่า ฮ่องกงตามมาที่ 2 ส่วนประเทศไทยสร้างเซอร์ไพรส์ ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ขณะที่อินเดียโหล่สุด


เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานถึงผลการจัดอันดับระบบราชการแถบเอเชียว่า
"เพิร์ค" บริษัท ที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ สำนักงานตั้งอยู่ในฮ่องกง
ได้เผยแพร่รายงานสำรวจประสิทธิภาพระบบราชการใน 12 ชาติ รวมถึงเขตปกครองพิเศษในทวีป เอเชีย
ด้วยการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารธุรกิจชาวต่างชาติระดับกลางและระดับสูงจำนวน 1,373 คน
ซึ่งเข้ามาทำธุรกิจการค้าใน 12 ชาติเหล่านี้ ตั้งแต่ปี 2553 โดยมีเกณฑ์ คะแนน 1-10 ชาติใดที่มีคะแนนสูงๆ
หมายถึงระบบราชการ ประเทศนั้นๆ สร้างปัญหาและความยุ่งเหยิงให้กับพลเมือง รวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของชาวต่างชาติ


รายงานของเพิร์คระบุว่า สิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของภูมิภาคนี้ ยังรั้งตำแหน่งแชมป์เหมือนเดิม ด้วยคะแนน 2.53 คะแนน
ส่วนอันดับ 2 คือ ฮ่องกง 3.49 คะแนน โดยก่อนหน้านี้ ฮ่องกงติดอันดับ 3 ของรายงานการสำรวจประเทศซึ่งมีขั้นตอนการทำธุรกิจสะดวกรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก
ในกลุ่ม 183 ประเทศทั่วโลกของธนาคารโลก


ขณะที่ไทยสร้างความประหลาดใจจากการจัดอันดับ เมื่อขึ้นมาอยู่ที่ 3 มี 5.53 คะแนน ซึ่งนับเป็นลำดับสูงกว่ากลุ่มชาติแถบอาเซียนอื่นๆด้วยกัน ยกเว้นแต่สิงคโปร์
ส่วนอันดับอื่นๆ ได้แก่ อันดับ 4 เกาหลีใต้ (6.13 คะแนน) อันดับ 5 ญี่ปุ่น (6.57) อันดับ 6 ใต้หวัน (6.60)
อันดับ 7 มาเลเซีย (6.97) อันดับ 8 จีน (7.93) และอันดับ 9 เวียดนาม (8.13)
ในส่วนกลุ่ม 3 อันดับ สุดท้ายของตาราง ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ อันดับ 10 (8.37) อันดับ 11 คือ อินโดนีเซีย (8.59)
และอันดับท้ายสุด อันดับ 12 คือ อินเดีย มี 9.41 คะแนน


สำหรับอินเดีย รายงานของเพิร์คระบุว่าแม้เหล่านักการเมือง มักให้คำมั่นสัญญาเข้ามาปฏิรูปและยกเครื่องระบบราชการ แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ
เนื่องจากระบบราชการ พลเรือนของอินเดีย มีลักษณะเป็น "ศูนย์กลางระบบอำนาจ" ของประเทศ จึงต้านทานความพยายามเข้ามาปฏิรูปได้เป็นอย่างดี
การติดต่อระบบราชการในอินเดียถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์แห่งความยุ่งยากและหัวเสียวุ่นวายสำหรับชาวอินเดียทุกคน ไม่เว้นแม้แต่นักลงทุนต่างชาติ
แต่เมื่อเทียบกับจีน เพิร์คระบุว่าปัญหาความมีระเบียบและขั้นตอนยุ่งยากของระบบราชการในจีนและอินเดียถือว่าอยู่ ในขั้นเป็นปัญหาใหญ่เท่ากัน
แต่ด้วยความแตกต่างด้านระบบ ทางการเมืองทำให้อินเดียมีปัญหาด้านนี้มากกว่าจีน


กรณีของอินโดนีเซีย แม้ประธานาธิบดีสูสิโล บัมบัง ยูโดโยโนชนะเลือกตั้งเข้ามาด้วยเสียงสนับสนุนล้นหลาม
แต่ยังขาดอำนาจเพื่อการปฏิรูปและยกระดับระบบราชการของประเทศ
ส่วนฟิลิปปินส์ แม้รัฐบาลรับทราบปัญหาขั้นตอนยุ่งยากของระบบราชการ แต่ยังไม่ดำเนินมาตรการแก้ไขอะไร
และมักมีผู้อาศัยช่องโหว่ ทำตัวเป็น "มือประสาน" อาสาเป็นตัวช่วยติดต่องานกับหน่วยงานรัฐแลกกับค่าจ้างและมักทำโดยความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐผู้ ทุจริตคดโกง



ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ + thairecent


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 สิงหาคม 2010, 10:46:35 am โดย ~OrenjI~ »


:  <กติกาการใช้บอร์ด PSWeb's>  : :  <CREDIT>  : :  <HOTLINK>  :
:   <Hogwarts School>   : :  <Signature & Photo>  : :  <HP>  : :  <PM>  :
  ~ คำคมลุง : ถ้าคุณไม่ชอบผมหรือสิ่งที่ผมทำ ก็ไม่ต้องมาดูการแสดงของผมหรือเข้าเว็บไซต์ของผม ~

~OrenjI~

  • εїз PSW Together Forever εїз
  • PSWeb's Staff
  • เจ้าหน้าที่กองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์
  • *
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 6700
  • .:: ชางโจ ... ช่างจน ::.
Re: 08/08/53 :: ไทยคว้าอันดับ 3 ระบบราชการดีในเอเชีย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2010, 10:35:45 am »
โพลชี้ระบบราชการไทยห่วยอันดับ 3 เอเชีย "หัวขบวนกลุ่มประเทศสอบตก"






แม้ที่ผ่านมา บ้านเมืองจะอยู่ในช่วงวิกฤตเพียงใดก็ตาม แต่สำหรับเมืองไทยแล้วก็ยังมีเรื่องน่ายินดีอยู่เสมอ


อย่างล่าสุด เพิร์ค (Political and Economic Risk Consultancy - PERC)
องค์กรระดับสากลที่ให้คำปรึกษาด้านข้อมูลทางธุรกิจและการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์สำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศแถบเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้
ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจการค้าใน 12 ประเทศ จำนวน 1,274 คน


โดยมีเกณฑ์คะแนนตั้งแต่ 1-10 ซึ่งคะแนนที่สูงขึ้น หมายถึงระบบราชการของประเทศนั้นได้สร้างปัญหา
และความยุ่งเหยิงให้แก่พลเมือง รวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของชาวต่างชาติอีกด้วย
แต่หากคะแนนต่ำ แสดงว่าระบบราชการของประเทศนั้นน่าพอใจ และเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะความสะดวกรวดเร็ว


และผลที่ออกมาก็คือ ประเทศไทย ได้คะแนน 5.53 เป็นรองจากแค่สิงคโปร์ที่ได้ 2.53 คะแนน กับฮ่องกงที่ได้ 3.49 เท่านั้น
หรือพูดง่ายๆ ก็คือเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย เหนือประเทศพัฒนาแล้วยังญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้เสียอีก


ได้ยินเช่นนี้ หลายคนคงทำหน้าแปลกใจกันแล้วใช่ไหม เพราะคำพูดที่ได้ยินกรอกหูทุกวันว่า
ระบบราชการไทยทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ดูจะไม่จริง ใน พ.ศ.นี้เสียแล้วล่ะมั้ง






(เขาบอกว่า) พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
       
“นี่คือความสำเร็จอีกครั้งของความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงและพัฒนาระบบราชการอย่างจริงจังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดระยะเวลาและขั้นตอนการให้บริหาร
นอกจากนี้ ขีดความสามารถของข้าราชการไทยก็ถือว่าสูงขึ้น เห็นได้จากการที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนได้ตามปกติอย่างมีประสิทธิภาพ
แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤตปัญหาบ้านเมือง”



นั่นคือสุ้มเสียงของ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
ที่อธิบายความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ อย่างภาคภูมิใจ
คงเป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้ว่า จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของระบบราชการไทย
ก็คือการปฏิรูป กระทรวง ทบวง กรม ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2546


ในตอนนั้น มีการแบ่งแยกหน่วยราชการออกเป็น 20 กระทรวง พร้อมกับมีการตั้ง ก.พ.ร. ขึ้นมา เพื่อเป็นศูนย์กลางในการจัดระบบราชการให้มีประสิทธิภาพ
โดยมีนโยบายสำคัญอยู่ที่การให้หน่วยงานของรัฐลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการลงร้อยละ 30-50
เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างมีคุณภาพ และไม่เสียเวลามาก


พร้อมกับมีการตั้งศูนย์บริการร่วมขึ้นมาหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการร่วมด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน หรือศูนย์บริหารร่วมรูปแบบเคาน์เตอร์บริการประชาชน
ทั้งในระดับกระทรวงและระดับจังหวัด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องความความสะดวกรวดเร็วที่ดีกว่าเมื่อก่อนมาก


จากสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนนี้เอง ในที่สุดกลายเป็นเครื่องผลักดันสำคัญ
จนระบบราชการไทยได้รับการยอมรับจากนักลงทุนต่างชาติ และได้รับการจัดอันดับจากเพิร์คให้เป็นที่ 3 ของเอเชียถึง 2 ครั้งซ้อน







เชื่อดี-ไม่เชื่อดี


ทันทีที่ผลสำรวจนี้ออกสู่สาธารณชน ก็กลายเป็นข้อถกเถียงขึ้นมาโดยพลันว่า
สรุปแล้วผลสำรวจนี้เชื่อถือได้หรือเปล่าหนอ แน่นอนแต่ละคนก็มีความคิดที่หลากหลาย บ้างก็เชื่อ บ้างก็ไม่เชื่อ
และอีกไม่น้อยที่เชื่อ แต่มีข้อสงสัย ตามเหตุผลที่แตกต่างกันไป


อย่างข้าราชการจากศาลปกครอง วิลัยวรรณ ทุนกาศ ที่พอได้ยินคำถามก็เอาแต่ส่ายหน้าลูกเดียว
พร้อมกับชี้แนะในฐานะที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมว่า ความรวดเร็วอาจจะได้ แต่ความโปร่งใสถือว่าติดลบ


“เราว่าทุกวันนี้การคอร์รัปชั่นยังมีอยู่ แต่อาจจะละเอียดและซับซ้อนกว่าเดิม และเมื่อมันยังมีอยู่ ก็ไม่อาจจะพูดได้ว่ามันดีขึ้น
แต่ถ้าในมุมเรื่องการบริการประชาชน ก็ต้องยอมรับว่าดีขึ้นจริงๆ เพราะเดี๋ยวนี้ ไปติดต่อราชการที่ที่ดินหรืออำเภอก็สะดวกขึ้นมาก”



ส่วน สุรินทร์ พิมพา จากกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กล่าวในเชิงวิพากษ์ว่า
ที่ผ่านมาข้าราชการมีกระตือรือร้นในการให้บริการประชาชนน้อยมาก ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็คือน่าจะอยู่ที่ 70 ต่อ 30 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งผลพวงน่าจะมาจากระบบราชการ เงินเดือนไม่สูง แถมแรงขับในเรื่องประสิทธิภาพยังต่ำ ยิ่งเมื่อเทียบเอกชนที่หากทำไม่ดีก็ถูกปลดออกเลย
แต่อย่างว่า การที่เมืองไทยได้ที่ 3 ก็คงไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เพราะจริงๆ เขาก็ไม่รู้หรอกว่าประเทศที่ได้อันดับต่ำกว่านั้นมีบริการเป็นเช่นไร


ขณะที่ ร่มไทร ศักดาเดช ครีเอทีฟรายการทีวีสะท้อนความเห็นของคนใช้บริการราชการบ่อยๆ เลยว่า
หากเป็นบริการออนไลน์ก็ถือว่าสะดวก แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ๆ ก็คงต้องมีค่าน้ำร้อนน้ำชาให้ถึงจะได้รับความสะดวกสบาย


“เรื่องทั่วไปอาจสะดวก แต่เรื่องใหญ่ๆ ก็ถือว่ายังยากอยู่ จำได้ว่าเคยไปที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง
คุยกับเจ้าหน้าที่ที่นั่นไปเรื่อยเปื่อย พอดีมีพนักงานทำความสะอาดเดินมา
เจ้าหน้าที่คนนั้นก็บอกว่ารู้ไหมว่าคนทำความสะอาดที่นี่เงินเดินเป็นหมื่นเลยนะ เพราะทำงานมานาน
แถมยังรวมตัวกันเหนียวแน่น สั่งให้ทำอะไรก็ไม่ค่อยจะทำ นี่มันเป็นเรื่องตัวอย่างเท่านั้นนะ มันยังมีระบบโดยรวมที่ไม่โอเคเท่าไหร่”



เห็นคนไม่เชื่อเยอะขนาดนี้ ก็อย่าเพิ่งเหมารวมไปว่า ทุกคนจะคิดแบบนี้กันหมดล่ะ
เพราะเอาเข้าจริง ก็บางคนเห็นด้วยกับผลสำรวจนี้เหมือนกัน
อย่าง โกเมน ฮอยซ์ พนักงานบริษัทเอกชนที่ขอยืนยันจากประสบการณ์ส่วนตัวว่า ระบบราชการไทยนั้นดีขึ้นมากจริงๆ


“ผมว่าระบบราชไทยในแง่การบริการประชาชน ไม่ค่อยบกพร่องเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องเซอร์วิสที่สั้นๆ ซึ่งสามารถจบภายใน 1 วัน
เช่นไปแจ้งความ ไปทำทะเบียนรถ ฯลฯ แต่กับเรื่องยาวๆ นี่เรายังไม่มีประสบการณ์สักเท่าไร”



ขณะที่ข้าราชการจากกระทรวงวัฒนธรรม สมลักษณ์ คล่องแคล่ว ชี้ให้เห็นชัดๆ เลยว่าทุกวันนี้
ราชการไทยมีการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้เยอะมาก ทำให้อะไรๆ สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ดูง่ายๆ อย่างการต่อทะเบียนรถ
ถ้าเป็นสมัยก่อนต้องใช้เวลาครึ่งวัน แต่ทุกวันนี้ไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้ว


ฟังความเห็นมาหลายคนแล้ว คราวนี้ถึงเวลาที่ทุกคนต้องลองหันมาพูดคุยกับตัวเองกันบ้างว่า
สรุปแล้วคุณเชื่อหรือไม่ว่า ระบบราชการไทยนั่นสุดยอดอันดับ 3 แห่งเอเชีย


นี่ก็ 'ท็อป' เหมือนกัน

       
สุ่มเสี่ยงที่ดูไปในแนวทางไม่เชื่อ อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรนักสำหรับระบบราชการไทย
เพราะหากว่าไปแล้ว การตั้งคำถามว่า เชื่อมั่นเพียงใด โดยทั่วไปแล้ว
ผู้ตอบคำถามคงไม่ได้มองเนื้อหาแบ่งแยกส่วนดังที่เพิร์คกำลังมองอยู่
แต่น่าจะมองระบบในองค์รวมซึ่งในที่นี่ โดยเฉพาะหลักธรรมาภิบาล ซึ่งกำลังมีปัญหาอย่างหนัก


เห็นได้จากการที่เพิร์คจัดให้ไทยอยู่ในอันดับ 2 ของประเทศที่มีการเสี่ยงที่จะเกิดคอร์รัปชันสูงสุดในเอเชีย
ซึ่ง เลขาธิการ ก.พ.ร. ก็ยอมรับโดยดุษณีว่ามีปัญหานี้อยู่จริง และคงต้องรีบแก้ไข


จากเรื่องนี้เอง รศ.สมชัย จึงได้เสนอแนวทางในการปฏิรูประบบราชการ โดยมีจุดใหญ่ๆ ที่ต้องรีบจัดการอย่างเร่งด่วน
ก็คือการเมืองต้องมีธรรมาภิบาล ไม่ลงไปแทรกแซงหรือใช้กลไกราชการเป็นฐานอำนาจ


ต่อมาก็คือผู้นำหน่วยงานจะต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งทัศนคติของข้าราชการที่มีต่อประชาชน


 ที่สำคัญหน่วยงานที่ดูแลการปฏิรูประบบราชการ อย่าง ก.พ.ร. ต้องพยายามแสวงหาเครื่องมือทางการบริหารต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
แล้วนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะหากมีการปรับเปลี่ยนจริง ในอนาคตประชาชนเองก็น่าจะเริ่มมีทัศนคติที่ดีต่อระบบราชการไทยมากยิ่งขึ้น
       


ที่ 1 ของประเทศสอบตก

       

ผลที่ออกมาจะดีเกินคาด จนใครๆ หลายคนอมยิ้มไปหลายวัน
แต่หากถามความรู้สึกของผู้คนแล้ว ก็มีไม่น้อยที่ อดรู้สึกงงงวยไม่ได้ว่า อะไรกันหนอที่ทำให้ตัวเลขของไทย มันพุ่งปรู๊ดขนาดนี้


อย่างคำถามของ เคียร่า ลินน์ แอนเดรีย คอสเตรโล เลิศชัย เจ้าของกิจการส่วนตัวที่บอกแกมสงสัยว่า
เธอไม่เข้าใจจริงว่าอันดับ 3 ที่ได้มานั้น เพิร์คใช้หลักเกณฑ์อะไรพิจารณา


“ที่ 3 นี้ วัดจากความสะดวกสบายของตัวข้าราชการเองหรือเปล่า คือถ้าจะเทียบกับประเทศอื่นๆ เราก็ไม่เคยได้ไปใช้บริการทั้งหมดทุกประเทศ
แต่บ้านเรานี่ เห็นได้ว่า ถ้าเกิดมีเงิน เรื่องก็จะเดินได้เร็วขึ้น มันก็คงไม่น่าพอใจเท่าไหร่”



หรือแม้แต่เจ้าของแผงเช่าพระเครื่อง อย่าง ณัฐวัตร บริคุต ที่ตกตะลึงไม่หายพอได้ว่าไทยได้อันดับ 3 พร้อมกับกล่าวสำทับว่า สงสัยเพิร์คจะไปสำรวจแต่ที่ดีๆ แล้วละมั้ง
ส่วนที่บริการไม่ดี ไม่สำรวจ


ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐแท้ๆ อย่าง สุรางคนางค์ พ่วงแผน ก็ยังทำท่าแปลกใจ พร้อมกับสำทับมาว่า เป็นไปไม่ได้
เพราะขนาดเธอเป็นกลไกหนึ่งในระบบราชการแท้ๆ ยังรับรู้ถึง ความยุ่งยากซับซ้อนเลย
       

จากเรื่องนี้เอง รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่า
ผลที่ออกมาเป็นเพียงมองในมิติของความสะดวกสบายอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่าง ธรรมาภิบาลหรือปัญหาการเมือง เพิร์คไม่ได้หยิบนำขึ้นมาพิจารณาเลย


“มันเป็นการประเมินเพียงมิติเดียว คือ ด้านประสิทธิภาพในการทำงาน ความรวดเร็ว ความสามารถในการสนองตอบความต้องการของภาคเอกชนได้ค่อนข้างสูง
เหตุผลที่เขามองก็คือ แม้ประเทศไทยในเชิงการเมืองจะมีปัญหา แต่ตัวระบบราชการก็ยังสามารถต่อไปได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบ
ดังนั้นหากเราเอาเรื่องนี้มาเป็นสิ่งภาคภูมิใจแล้วทำให้เราเข้าใจผิดไป ก็อาจจะไม่เหมาะสม”



ที่สำคัญหากพักเรื่องอันดับเอาไว้ก่อน และสนใจแต่คะแนนจริงๆ 5.53 แต้มถือว่าเกินครึ่งเสียอีก พูดง่ายๆ ก็คือ ประเทศเป็นหัวขบวนของกลุ่มประเทศที่สอบตกนั่นเอง


ไม่เพียงแค่นั้น อาจารย์ด้านบริหารรัฐกิจคนเดิม ยังเล่าต่ออีกว่า แม้ที่ผ่านมา ประสิทธิภาพและคุณภาพการบริการของระบบราชการไทยจะถือว่าดีขึ้น
แต่สิ่งที่ยังคงเป็นปัญหาสำคัญของราชการไทยก็คือ ทัศนคติแบบเป็นนายเหนือประชาชน ซึ่งยังคุกรุ่นอยู่ในหมู่ข้าราชการบางคน
และตรงนี้เองถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้การพัฒนาเกิดได้ไม่เต็มที่


“ผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่เติบโตมาในสังคมแบบเดิม และไม่ได้รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงให้ระบบราชการมีความทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็น
ซึ่งปัญหาก็คือถ้าผู้บริหารไม่ทำตัวเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงก็ยากที่อะไรๆ จะเปลี่ยนแปลงตาม
กรมบางกรมเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเกิดจากผู้นำของหน่วยงานนั้นทั้งสิ้น ยกตัวอย่าง กรมราชทัณฑ์ถือว่ามีความทันสมัยมาก”



อันดับที่ดูดี หรือคะแนนที่ดูเยี่ยม อาจจะไม่สำคัญเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับความรู้สึกของประชาชนที่เข้าไปใช้บริการจากราชการ


แน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนคงต้องรีบสะสาง อาจไม่ใช่เพียงแค่ความรวดเร็วและความสะดวกสบายเท่านั้น
แต่สิ่งที่อยู่รอบข้าง อย่างอัธยาศัยของผู้ให้บริการ และความโปร่งใสของระบบก็ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นไม่แพ้กัน
เพราะหากขาดตรงนี้ไป ต่อให้ระบบจะรวดเร็วแค่ไหน ก็คงเป็นไปได้ยากที่จะได้ใจจากประชาชน



ที่มา : ผู้จัดการ + Anurak @ khanpak



เป็นข่าวเก่าตั้งแต่เดือนมิถุนาฯ ค่ะ
แต่พี่เองก็เพิ่งทราบตอนดูในรายการของพี่  "จอนห์ วิญญู น่ะฮัฟ~"  ในยูทูป  5 5 5 +

ปล. ขออนุญาตวิบัติค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 สิงหาคม 2010, 11:14:59 am โดย ~OrenjI~ »


:  <กติกาการใช้บอร์ด PSWeb's>  : :  <CREDIT>  : :  <HOTLINK>  :
:   <Hogwarts School>   : :  <Signature & Photo>  : :  <HP>  : :  <PM>  :
  ~ คำคมลุง : ถ้าคุณไม่ชอบผมหรือสิ่งที่ผมทำ ก็ไม่ต้องมาดูการแสดงของผมหรือเข้าเว็บไซต์ของผม ~

~Merina Vickins~

  • บุคคลทั่วไป
 ::) ::)

ขอบคุณค่ะสำหรับข่าวดีๆๆค่ะ

ถึงมันจะเป็นข่าวนานมาแล้ว
แต่ก็ยังน่าสนใจ  และน่าภูมิใจกับข้าราชการไทยนะคะ


แต่ข่าวของพี่ย้าวยาว  กว่าจะอ่านจบก็ใช้เวลาตั้งนานแน่ะ
แต่ถึงยาวก็ต้องอ่าน  เพราะเป็นข่าวที่น่าสนมากค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้บุคคลที่รับราชการนะคะ
โดยเฉพาะข้าราชการครูน่ะค่ะ
สู้ต่อไปนะคะ

 :-[ :-[
ขอบคุณอีกคร้งค่ะ  ^^
 :)



~OrenjI~

  • εїз PSW Together Forever εїз
  • PSWeb's Staff
  • เจ้าหน้าที่กองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์
  • *
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 6700
  • .:: ชางโจ ... ช่างจน ::.
[hide]ข่าวจริงๆ มันมีอยู่แค่ 2 ข่าวแรกในกระทู้แรกเท่านั้นแหละค่ะ
เพียงแต่ว่านำบทวิเคราะห์ข่าวมาลงอีกที  มันก็เลยดูยาวขึ้น
ถึงแม้ว่าข่าวนี้จะเป็นข่าวดี  แต่ค่อนข้างจะค้านกับความรู้สึกคนไทยมากพอสมควร
ก็เลยคิดว่าการลงแค่ข่าวอาจจะไม่ชัดเจนว่าทางผู้จัดอันดับเขาเอาอะไรมาเป็นมาตรฐานในการวัด
แต่ถ้าทำความเข้าใจกับบทวิเคราะห์แล้ว  หากเขานำความสะดวกมาเป็นประเด็นหลัก
ก็ไม่แปลกใจประเทศไทยจะได้อันดับ 3  ตามที่เราเห็นจากข่าว

ระบบการบริการในหน่วยงานข้าราชการดีขึ้นมากๆ ค่ะ
สะดวก  รวดเร็ว  ประหยัดเวลาและค่าเดินทาง
โดยส่วนใหญ่แล้วประชาชนสามารถดำเนินธุระปะปังต่างๆ กับทางราชการจนเสร็จได้ภาย 1 วัน
เช่น  การต่อทะเบียนรถที่ยังทำเรื่องโอนไม่เสร็จ  ..  ซึ่งเป็นกรณีที่ประสบเอง 
คือ  ตรวจสภาพรถเสร็จแล้วก็สามารถนำรถออกได้เลย
เหลือไว้แต่เพียงคนเดินเอกสารให้เท่านั้นที่จ้องลากยาวยันเย็น  แต่สามารถโอน + ต่อทะเบียนเสร็จใน 1 วัน 
แต่ใน 1 วันที่ว่านี้ก็ต้องไปตั้งแต่เช้า  หากจะไปสายก็ไม่ควรเกิน 10 โมงเช้าก็จะดีมากกว่า
เพราะหลายครั้งประชาชนชาวไทยก็นิสัยเสียเอง  ไปสายแต่อยากได้บริการเร็วๆ  เหอๆ ๆ ๆ

เมื่อระบบราชการดีแล้ว  ก็ส่งเสริมให้ข้าราชการมีใจคิดบริการประชาชนมากขึ้น
นี่คงเป็นอีกประเด็นที่คาดกับความรู้สึกของคนไทย
เพราะมันไม่ใช่ว่าจะเกิดกับข้าราชการทุกคน  ในทุกหน่วยงาน
ข้าราชการหลายคนยังคิดว่าตัวเองอยู่ในระบอบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราช
คิดว่าประชาชนเป็นบ่าวไพร่  ไม่ได้ดังใจก็ตะคอก  ไม่ได้ดังใจก็ว่าเหน็บเจ็บๆ  ..  พูดภาษาคนแบบปกติไม่ได้
แถมยังพูดดูถูกว่าประชาชนชาวไทยนั้นมันไม่มีการศึกษา  ขาดความรอบรู้
ฟังท่านข้าราชการพูดแล้วก็คิดเห็นเหมือนท่านเลย
นี่ขนาดมีการศึกษาระดับสูงแล้ว  ยังพูดได้เหมือนกับคนที่ไม่รับการศึกษามาอย่างไงอย่างนั้นเลย
นี่ถ้าพวกท่านเฆี่ยนได้  ท่านคงลงหวายกันหลังลายเลยทีเดียว
และที่สำคัญไปมากกว่านั้น  ประชาชนชาวไทยผู้เสียภาษีและทำมาหากินอย่างสุจริตนั้น 
ไม่สามารถวิจารณ์การทำงานของข้าราชการเหล่านี้ได้
แม้ไม่ได้เป็นแบบนี้กันทุกคนแต่เป็นแบบนี้กันทุกหน่วยงาน  ทุกกรมกอง
และแน่นอนว่าไม่มีชาติที่เป็นประชาธิปไตยชาติใดเป็นได้อย่างชาติเรา (จงภูมิใจกันไว้น่ะค่ะพี่น้อง~)

และที่สุดกับเรื่องนี้ไม่กล่าวถึงไม่ได้  เรื่องรับเงินสินบน
จริงๆ ในทุกประเทศมีการรับเงินสิบบน  โกงกินโน้นนี่นั้น
เพียงแต่ในประเทศไทยถือว่าเป็นเรื่องปกติ  ที่สามารถเห็นได้ตามท้องถนนเมืองไทย ~
[/hide]


:  <กติกาการใช้บอร์ด PSWeb's>  : :  <CREDIT>  : :  <HOTLINK>  :
:   <Hogwarts School>   : :  <Signature & Photo>  : :  <HP>  : :  <PM>  :
  ~ คำคมลุง : ถ้าคุณไม่ชอบผมหรือสิ่งที่ผมทำ ก็ไม่ต้องมาดูการแสดงของผมหรือเข้าเว็บไซต์ของผม ~

snippa

  • คนโง่ย่อมเป็นเยื่อของคนฉลาด คนฉลาดย่อมเป็นเหยื่อของ...คนฉลาดที่แกล้งโง่
  • ผู้วิเศษเลือดสีโคลน
  • ***
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 132
  • จงตื่นตัวอยู่เสมอ
ระบบ อาจจะดี แต่การปฎิบัติก็สมควรที่จะเป็นไปตามระบบด้วยนะครับ
เรื่องความรวดเร็วในกรบริหารนั้น ผมคิดว่า เอ่อ เค้าไปเอาข้อมูลมาจากไหนกันแน่ครับ
โรงเรียนผมทำเรื่องเบิกงบประมาณสำหรับโครงการห้อเรียนพิเศษเรื่องซื้ออุปกรณ์การเรียนน่ะครับมาเป็นปีแล้วยังไม่มีคำตอบจากกระทรวง



ก้อนะครับแต่บางเรื่องก้อดีจริงๆอันนี้ชื่นชมครับ
เรารัก แฮร์รี่[/font]

ARIANA

  • นักเรียนโรงเรียนเวทมนตร์ปี 3
  • ********
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 687
  • GOD SAVE THE KING
น่าภูมิใจนะครับ
ALLIEAEK
LOVE YOU EVERYDAY AND TWICE ON SUNDAY

teera

  • บุคคลทั่วไป
"คนไทย ถ้าจะทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก" ชัวร์

★oGazettEo★

  • นักกีฬาควิดดิชทีมชาติ ตำแหน่งบีตเตอร์
  • *********
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1693
Re: 08/08/53 :: [รวมบทความ] ไทยคว้าอันดับ 3 ระบบราชการดีในเอเชีย
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2010, 05:46:35 am »
ได้ไงวะ  :-X
เบื่อประเทศไทยจัง~

pompampotter

  • บุคคลทั่วไป
Re: 08/08/53 :: [รวมบทความ] ไทยคว้าอันดับ 3 ระบบราชการดีในเอเชีย
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2010, 04:41:26 am »
เก่งเหมือนกันนะเนี๊ย

ไทยเรา

 :D

l3allzii

  • บุคคลทั่วไป
ไทยไม่เเพ้ชาติ ใด ใน โลก :D

voyza

  • Tonight
  • ผู้วิเศษเลือดสีโคลน
  • ***
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 115
  • สตูเปฟาย
Re: 08/08/53 :: [รวมบทความ] ไทยคว้าอันดับ 3 ระบบราชการดีในเอเชีย
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2011, 01:46:19 pm »
สุดยอดเลยค่ะ

พอดีพ่อก็เป็นราชการ

 :D :D :D

 

SMF spam blocked by CleanTalk