[hide]ข่าวจริงๆ มันมีอยู่แค่ 2 ข่าวแรกในกระทู้แรกเท่านั้นแหละค่ะ
เพียงแต่ว่านำบทวิเคราะห์ข่าวมาลงอีกที มันก็เลยดูยาวขึ้น
ถึงแม้ว่าข่าวนี้จะเป็นข่าวดี แต่ค่อนข้างจะค้านกับความรู้สึกคนไทยมากพอสมควร
ก็เลยคิดว่าการลงแค่ข่าวอาจจะไม่ชัดเจนว่าทางผู้จัดอันดับเขาเอาอะไรมาเป็นมาตรฐานในการวัด
แต่ถ้าทำความเข้าใจกับบทวิเคราะห์แล้ว หากเขานำความสะดวกมาเป็นประเด็นหลัก
ก็ไม่แปลกใจประเทศไทยจะได้อันดับ 3 ตามที่เราเห็นจากข่าว
ระบบการบริการในหน่วยงานข้าราชการดีขึ้นมากๆ ค่ะ
สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าเดินทาง
โดยส่วนใหญ่แล้วประชาชนสามารถดำเนินธุระปะปังต่างๆ กับทางราชการจนเสร็จได้ภาย 1 วัน
เช่น การต่อทะเบียนรถที่ยังทำเรื่องโอนไม่เสร็จ .. ซึ่งเป็นกรณีที่ประสบเอง
คือ ตรวจสภาพรถเสร็จแล้วก็สามารถนำรถออกได้เลย
เหลือไว้แต่เพียงคนเดินเอกสารให้เท่านั้นที่จ้องลากยาวยันเย็น แต่สามารถโอน + ต่อทะเบียนเสร็จใน 1 วัน
แต่ใน 1 วันที่ว่านี้ก็ต้องไปตั้งแต่เช้า หากจะไปสายก็ไม่ควรเกิน 10 โมงเช้าก็จะดีมากกว่า
เพราะหลายครั้งประชาชนชาวไทยก็นิสัยเสียเอง ไปสายแต่อยากได้บริการเร็วๆ เหอๆ ๆ ๆ
เมื่อระบบราชการดีแล้ว ก็ส่งเสริมให้ข้าราชการมีใจคิดบริการประชาชนมากขึ้น
นี่คงเป็นอีกประเด็นที่คาดกับความรู้สึกของคนไทย
เพราะมันไม่ใช่ว่าจะเกิดกับข้าราชการทุกคน ในทุกหน่วยงาน
ข้าราชการหลายคนยังคิดว่าตัวเองอยู่ในระบอบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราช
คิดว่าประชาชนเป็นบ่าวไพร่ ไม่ได้ดังใจก็ตะคอก ไม่ได้ดังใจก็ว่าเหน็บเจ็บๆ .. พูดภาษาคนแบบปกติไม่ได้
แถมยังพูดดูถูกว่าประชาชนชาวไทยนั้นมันไม่มีการศึกษา ขาดความรอบรู้
ฟังท่านข้าราชการพูดแล้วก็คิดเห็นเหมือนท่านเลย
นี่ขนาดมีการศึกษาระดับสูงแล้ว ยังพูดได้เหมือนกับคนที่ไม่รับการศึกษามาอย่างไงอย่างนั้นเลย
นี่ถ้าพวกท่านเฆี่ยนได้ ท่านคงลงหวายกันหลังลายเลยทีเดียว
และที่สำคัญไปมากกว่านั้น ประชาชนชาวไทยผู้เสียภาษีและทำมาหากินอย่างสุจริตนั้น
ไม่สามารถวิจารณ์การทำงานของข้าราชการเหล่านี้ได้
แม้ไม่ได้เป็นแบบนี้กันทุกคนแต่เป็นแบบนี้กันทุกหน่วยงาน ทุกกรมกอง
และแน่นอนว่าไม่มีชาติที่เป็นประชาธิปไตยชาติใดเป็นได้อย่างชาติเรา (จงภูมิใจกันไว้น่ะค่ะพี่น้อง~)
และที่สุดกับเรื่องนี้ไม่กล่าวถึงไม่ได้ เรื่องรับเงินสินบน
จริงๆ ในทุกประเทศมีการรับเงินสิบบน โกงกินโน้นนี่นั้น
เพียงแต่ในประเทศไทยถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่สามารถเห็นได้ตามท้องถนนเมืองไทย ~[/hide]