อาหารเช้า เป็นอาหารมื้อสำคัญที่สุดของวัน นอกจากทำให้ร่างกายและสมองสดชื่น
แจ่มใส ไม่ติดๆ ดับๆ ระหว่างวันแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว และช่วยลดความอ้วนด้วย เนื่องจากช่วงเช้าร่างกายดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ได้ดี และร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากอาหารเช้าจึงต้องเป็นอาหารที่อุดมด้วยคุณค่าต่างๆ ดังนี้
- ธัญพืชไม่ขัดขาว ได้แก่ ข้าวกล้อง ถั่วต่างๆ ลูกเดือย ซึ่งจะให้คาร์โบไฮเดรตทำให้
การดูดซึมน้ำตาลเป็นไปอย่างช้าๆ
- โปรตีนชั้นดีและอาหารประเภทใขมันต่า เช่น เนื้อปลา เห็ด ถั่วต่างๆ เต้าหู้
- ผักและผลไม้รสไม่หวานจัด เช่น แอ๊ปเปิ้ลเขียว สัม แตงโม กล้วย หรือให้ละเอียด เมื่อ ร่างกายค่อยๆ ดูดซึมน้ำตาล ตับอ่อนจะทำงานน้อยลง ไม่ต้องหลั่งอินซูลินออกมาในปริมาณ มากๆ บ่อยๆ ทำให้ได้รับความสดชื่นตลอดทั้งวัน ไม่หิวบ่อย ไม่อยากอาหาร หรือดื่ม เครื่องดื่มรสหวาน
หลังจากเปลี่ยนมารับประทานมื้อเช้าน่าจะพบกับความเปลี่ยนแปลงที่ดี เช่น ได้รับ
แรงผลักดันที่ดี ช่วยให้เรากินอาหารที่ดีต่อสุขภาพไปตลอดทั้งวันและทุกวัน นอกจากนี้มื้อเช้ายังช่วยต้านโรคและอาการต่างๆได้ด้วย
- ลดอัตราเสี่ยงต่ออาการของโรคหัวใจ การรับประทานอาหารมื้อเช้าช่วยลดอัตราเสี่ยง การก่อตัวของลิ่มเลือด ทั้งยังทำให้ระดับคอเลสเตอรอลลดลง จึงช่วยไม่ให้เกิดอาการหัวใจ วายและเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองแตกหรืออุดตัน
- ช่วย ลดความอ้วน มือเข้าช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอล มีงานวิจัย ชี้ให้เห็นว่า การกินมื้อเช้าในสัดส่วนที่มากขึ้นอาจช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก และสำหรับผู้ที่กิน อาหารเช้าเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณอาหารทั้งวัน มีแนวโน้มว่าจะมีสัดส่วนรูปร่างที่ ดีกว่าผู้ที่รับประทานหนักในมื้ออื่นๆ
- ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นนิ้วในถุงน้ำดี เนื่องจากการทิ้งช่วงเวลาระหว่างมื้ออาหารเกิน
14 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น เป็นโอกาสให้คอเลสเตอรอลในถุงน้ำดีจับตัวกันเป็นก้อนนิ่ว
อาหารเช้าจึงเป็นตัวช่วยลดความยาวนาน ระหว่างมื้ออาหารเย็นของวันก่อน กับอาหารเช้า
ของวันใหม่ไม่ให้นานเกินไป โดยอาหารเช้าจะเข้าไปกระตุ้นให้ตับปล่อยน้ำดีออกมา ละลาย
คอเลสเตอรอลที่อยู่ในถุงน้ำดีให้เจือจาง จนไม่ทันที่จะจับตัวกันเป็นก้อนนิ่ว
- ช่วยให้มีสมาธิ สามารถทำงานให้ประสบผลสาเร็จได้ดีขึ้น
อาหารมื้อเช้ามีประโยชน์ชนาดนี้ นอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้วยังช่วยใน
เรื่องอื่นๆได้ด้วย มารับประทานอาหารเช้ากันนะ
From:
http://variety.teenee.com/foodforbrain/16736.html