ถ้าเคยอ่านแล้วก็ขอโทษนะคะ เรื่องนี้แต่งนานแล้วก็จริงแต่ไม่เคยเอามาลงที่นี่น่ะค่ะ
โรมิโอกับจูเลียต [ เวอร์ชั่นเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอย ]
ใครหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการมีชีวิตที่เหมือนในนิยายนั้นเป็นเรื่องดี แต่พวกคุณไม่รู้หรอกว่า การมีชีวิตของเราเองโดยไม่ต้องไปเหมือนกับหนังสือเรื่องไหนเลยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าเรื่องราวของคุณจะบังเอิญไปเหมือนนิยายที่ถูกเขียนขึ้นโดยนักประพันธ์ชื่อดังก็ตาม
*************************************************
นั่นเธอกำลังอ่านอะไรอยู่น่ะ เฮอร์ไมโอนี่ เสียงของรอน วีสลีย์ดังขึ้นแข่งกับเสียงของรถจักรไอน้ำสีแดงที่กำลังแล่นผ่านทุ่งหญ้าด้วยความเร็ว
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองรอน ส่วนแฮร์รี่กำลังนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งข้าง ๆ เขา เด็กทั้งสามกำลังจะเดินทางไปสู่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทย์มนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ด้วยรถไฟคันนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
โรมิโอกับจูเลียต เฮอร์ไมโอนี่ตอบเรียบ ๆ
โรมิโอกับจูเลียต รอนทวนคำอย่างงง ๆ เขานึกว่าเฮอร์ไมโอนี่กำลังอ่านตำราคาถามาตรฐานของปีเจ็ดเสียอีก
ใช่ เด็กสาวพูดและหันไปสนใจหนังสืออีกครั้ง
ไม่นึกว่าเธอจะอ่านนิยายกับเขาด้วย รอนพูดอย่างสงสัย เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นจากหนังสืออีกครั้ง
มันไม่ใช่นิยายนะรอน! เธอร้อง แต่มันเป็นบทประพันธ์ที่แต่งโดยนักประพันธ์ชื่อก้องโลกอย่างวิลเลี่ยม เชคสเปียร์เชียวนะ เฮอร์ไมโอนี่พูด
เหรอ ฉันไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเขาเลย รอนพูดสบาย ๆ และยกขายาว ๆ ของเขาขึ้นพาดเบาะฝั่งที่ว่าง
เธอคงไม่เคยได้ยินหรอก ก็เพราะว่าเธอไม่ได้ลงเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษานี่ เฮอร์ไมโอนี่สวน รอนขมวดคิ้ว
อย่าบอกนะว่าปีนี้เธอลงวิชามักเกิ้ลศึกษาด้วยน่ะ รอนพูดดักคอ เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง
ใช่แล้ว ฉันลง เธอยอมรับ
แต่ตารางของเธอเต็มไปแล้วไม่ใช่เหรอ ก็เธอลงวิชาอื่น ๆ อีกตั้งเยอะนี่ แฮร์รี่แทรกขึ้นมา
ใช่ แฮร์รี่
แล้วเธอจะทำยังไง กลับไปใช้นาฬิกาย้อนเวลาแบบเดิมน่ะหรือ รอนถามถึงนาฬิกาย้อนเวลาที่เคยช่วยให้เฮอร์ไมโอนี่เข้าเรียนได้ครบทุกวิชาเมื่อตอนปีสาม
เปล่า ฉันจะไม่ใช้มัน แต่ฉันตกลงกับอาจารย์ไว้แล้วว่าฉันจะไม่ต้องเข้าเรียนวิชานี้ แต่ฉันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ และทำงานมาส่งอาจารย์ เฮอร์ไมโอนี่พูดยาวเหยียด
และที่ฉันได้รับสิทธิพิเศษนี้ก็เพราะว่าฉันทำข้อสอบวิชานี้ได้เกินสามร้อยเปอร์เซ็นต์ตอนปีสาม เธออธิบาย แฮร์รี่และรอนนิ่งเงียบไปชั่วขณะ
ฉันล่ะเชื่อเธอเลย เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะไปหาเรื่องเรียนมันทำไมในเมื่อเธอก็รู้เรื่องมักเกิ้ลหมดทุกอย่างแล้ว รอนพูดอย่างไม่เข้าใจ
ที่ฉันลงเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษาในปีนี้ก็เพราะว่าฉันต้องการมีสิทธิ์เข้าสอบส.พ.บ.ส.น่ะสิ เธอรู้ไหมว่าในการทำงานบางอย่างคะแนนวิชานี้ก็สำคัญพอ ๆ กับวิชาหลัก ๆ วิชาอื่นเชียวนะ เฮอร์ไมโอนี่เริ่มอธิบายเกี่ยวกับเรื่องคะแนนส.พ.บ.ส. และเรื่องอาชีพการงานอย่างไม่มีสิ้นสุด แฮร์รี่และรอนสังเกตเห็นสัญญาณอันตรายได้อย่างชัดเจน
และมันคงจะแย่มาก ๆ แน่ ถ้าฉันต้องพลาดงานดี ๆ ไปหลายงานเพราะไม่มีคะแนนวิชานี้... เฮอร์ไมโอนี่พูด และมันคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่ถ้าแฮร์รี่ไม่มาขัดจังหวะเธอเสียก่อน
เอ่อ เธอไม่ต้องไปพบศาสตราจารย์มักกอนนากัลหรือ เฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่ถามขึ้น เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งโหยงราวกับเพิ่งนึกได้
ตายจริง ฉันลืมไปได้ไงเนี่ย เธอร้อง และดีดตัวจากเก้าอี้
เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งถูกแต่งตั้งให้เป็นประธานนักเรียนหญิงของโรงเรียนเมื่อไม่นานมานี้ เธอดูตื่นเต้นและดีใจมากกับหน้าที่ที่ได้รับ แต่แฮร์รี่กับรอนนั้นรู้อยู่แล้วว่าตำแหน่งนี้ต้องตกเป็นของเธอ
แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าใครได้เป็นประธานนักเรียนชาย แฮร์รี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า
คงไม่ใช่มัลฟอยหรอกนะ รอนพูดพลางทำท่าสยองขวัญ
ฉันว่าคนอย่างมัลฟอยคงไม่ได้เป็นประธานหรอก รอน ตราบใดที่ดัมเบิลดอร์ยังสติดีอยู่น่ะ เฮอร์ไมโอนี่พูดไปตามเนื้อผ้า แต่ในใจหนึ่งเธอก็นึกกลัวอยู่เหมือนกันว่าเธอต้องทำงานร่วมกับเขา
ฉันไปดีกว่า ถ้าฉันคุยธุระกับอาจารย์เสร็จแล้วฉันจะแวะมาหานะ เฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนจะออกจากตู้ไป
เธอเดินไปที่ขบวนแรกซึ่งเป็นตู้ของพวกประธานนักเรียนและพรีเฟ็ค แต่เธอก็ไม่ได้เห็นศาสตราจารย์มักกอนนากัลอยู่ที่นั่น เด็กสาวจึงตัดสินใจเข้าไปนั่งรอในตู้ประธาน
ภายในตู้ประธานนั้นกว้างขวางและหรูหรากว่าตู้ของนักเรียนปรกติ เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงบนเบาะสีแดงเข้มอันใหญ่และหยิบหนังสือที่ติดมือมาอ่าน เวลาผ่านไปไม่นานนัก เสียงเปิดประตูดังครืดก็ดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าไปมอง และเธอก็เห็นเด็กหนุ่มผมบลอนด์คนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เดรโก มัลฟอยนั่นเอง !
มัลฟอยมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่อย่างแปลกใจไม่น้อย เช่นเดียวกับเธอ
นายเข้ามาทำไมที่นี่ เธอถาม มัลฟอยทำหน้างง ๆ
ถามแปลก ๆ ถ้าฉันไม่ได้มีตำแหน่งฉันจะเข้ามาที่นี่หาสวรรค์อะไรล่ะ เขาตอบ
เฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นตราสีเงินที่มีตัวอักษร ป.น. กลัดอยู่บนอกเขาและอ้าปากค้าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดัมเบิลดอร์ยังสติดีอยู่หรือเปล่า มัลฟอยเดินเข้ามานั่งที่เบาะตรงข้ามเฮอร์ไมโอนี่และมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าของเด็กสาวเป็นสีชมพู
พวกอาจารย์คิดอะไรอยู่นะถึงให้ฉันมาทำงานร่วมกับเธอ เขาพูด
ฉันก็คิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมพวกอาจารย์ถึงเอาคนที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมมารับตำแหน่งนี้ เฮอร์ไมโอนี่สวนทันควัน
เธอว่าฉันหรือเกรนเจอร์ มัลฟอยพูด เขาลุกขึ้นยืนทันที เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าทีสบาย ๆ ราวกับว่าเธอไม่รู้เรื่องรู้ราว แม้ว่าตอนนี้มัลฟอยจะตัวสูงกว่าเธอเกือบฟุต และดูแข็งแรงพอที่จะหักข้อมือเล็ก ๆ ของเธอได้ด้วยมือเปล่าของเขาก็ตาม
อย่าคิดว่าฉันจะอยากทำงานร่วมกับเธอนะยายเลือดสีโคลน! เขาพูด แค่ต้องมาทนสูดอากาศร่วมโลกกับคนอย่างเธอฉันก็แทบหายใจไม่ออกแล้ว! เฮอร์ไมโอนี่จ้องเขาอย่างโมโห เธอลุกจากเบาะขึ้นมาประชันหน้ากับเขา
ถึงฉันจะไม่ได้มีสายเลือดบริสุทธิ์อย่างนายนะมัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันพูด แต่ฉันก็ไม่ได้มีพ่อเป็นนักโทษอัซคาบัน! เฮอร์ไมโอนี่แผดเสียงดังลั่น มัลฟอยชะงัก ใบหน้าเขาขาวซีดด้วยความโกรธ
ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เกรนเจอร์ เขาตวาด ผลักเฮอร์ไมโอนี่ลงไปเบาะสีแดง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยโทสะ
ก็ที่ฉันพูดมันเป็นความจริงไม่ใช่หรือ เธอพูดอย่างไม่เกรงกลัว แต่เธอก็แทบอยากตบปากตัวเองเมื่อเห็นสีหน้าต่อไปของมัลฟอย ใบหน้าของเขาขาวซีดกว่าเดิม ดวงตาสีซีดกำลังลุกเป็นไฟ
อย่ามาอวดเก่งกับฉันเกรนเจอร์ กับใครก็ได้แต่ยกเว้นกับฉัน มัลฟอยคำราม กดร่างของเธอเข้ากับเบาะ มือของเฮอร์ไมโอนี่ควานหาไม้กายสิทธิ์อย่างร้อนรน แต่เด็กสาวก็แทบช็อคเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมหยิบมันมาจากตู้!
เป็นอะไรไปเกรนเจอร์ เกิดกลัวขึ้นมาหรือไง มัลฟอยพูดเยาะ ๆ เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของเฮอร์ไมโอนี่ เด็กสาวเชิดหน้า
ฉันไม่เคยกลัวนายเลย สักนิดเดียว เธอพูดอย่างท้าทาย แม้ในใจจะนึกกลัวอยู่มากก็ตาม
โอ้ อย่างนั้นรึ ถ้าอย่างนั้นเรามาลองดูกันหน่อยดีไหมว่าเธอจะกล้าอย่างที่พูดจริง ๆ หรือเปล่า มัลฟอยยิ้มและหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา เมื่อฉันสาปเธอเป็นคางคกน่าเกลียดน่ะ เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีดเผือด
เธอไม่อยากสาปฉันหรอกมัลฟอย เธอพูดเสียงเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความเด็ดเดี่ยว
แน่นอนว่าฉันอยาก เสียใจด้วยนะ เขาตอบ
แล้วถ้ามีใครผ่านมาเห็นล่ะ เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเป็นต่อ มัลฟอยชะงัก ถ้ามีใครมาเห็นนายสาปฉันแล้วเรื่องไปถึงหูอาจารย์ล่ะก็..... เธอแกล้งลากเสียง
บางทีนายอาจจะโดนปลดจากตำแหน่งตั้งแต่ยังไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่ก็ได้นะ เฮอร์ไมโอนี่ว่า
เธอขู่ฉันหรือเกรนเจอร์ มัลฟอยพูดรอดไรฟัน
หรือที่ฉันพูดมันไม่จริง เธอโต้ มัลฟอยมีท่าทีครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วเขาก็แสยะยิ้มที่มุมปาก
ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องเปลี่ยนมาทำอย่างอื่นแทนน่ะสินะ อย่างอื่นที่ฉันไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็น มัลฟอยพูดอย่างเจ้าเล่ห์ เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว แต่ก่อนที่เธอจะได้มีโอกาสรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป มัลฟอยก็ดึงร่างของเธอเข้าไปใกล้และจูบเธอ
อื้อ...............! เฮอร์ไมโอนี่ร้อง เธอดิ้นรนในขณะที่อ้อมแขนของมัลฟอยบีบรัดร่างของเธอไว้ เด็กหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างพอใจ เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขาจนกระทั่งมัลฟอยเป็นฝ่ายปล่อยเธอออกมา
นายทำอย่างนี้ทำไมกัน เธอร้อง เอาหลังมือเช็ดริมฝีปาก
อย่าคิดว่าฉันอยากจะทำแบบนี้กับคนอย่างเธอเกรนเจอร์ มัลฟอยพูดอย่างถือตัว แต่ที่ฉันทำแบบนี้เพราะว่ามันเป็นทางเดียวที่จะหยุดความอวดเก่งของเธอได้! เขาบอกเธอ
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง เธอรู้สึกโกรธอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเมื่อเธอรู้สึกตัวฝ่ามือของเธอก็เหวี่ยงไปกระทบใบหน้าของมัลฟอยเต็ม ๆ
เพี๊ยะ! หน้าของมัลฟอยหันตามแรงตบ เด็กหนุ่มดูงงงวยปนตกใจ
คำว่าเลวอาจจะน้อยไปสำหรับนายมัลฟอย! เด็กสาวพูด น้ำตาคลอเบ้าด้วยความโกรธ ก่อนเธอจะหันหลังและเดินออกจากตู้ ตามด้วยเสียงปิดประตูดังโครม
มัลฟอยเอามือลูบแก้มข้างที่โดนตบด้วยท่าทีกึ่งโกรธกึ่งตกใจ แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะที่เด็กหนุ่มมองแผ่นหลังของเฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ ลับตาไป
เฮอร์ไมโอนี่เดินจากไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าเธอลืมหนังสือเล่มสำคัญไว้ !
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่เดินออกจากตู้ประธานโดยไม่แม้แต่จะหันมามองข้างหลังเลย เธอกระแทกเท้าปึงปังไปตลอดทางจนกระทั่งถึงตู้ที่เพื่อนทั้งสองนั่งอยู่ เด็กสาวกระชากประตูออก และปิดมันอย่างแรงก่อนจะนั่งลงบนเบาะซึ่งครุกแชงค์นอนอยู่พอดี เจ้าแมวสีส้มส่งเสียงร้องอย่างไม่พอใจและกระโดดหนีไปทางแฮร์รี่
แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีท่าทีจะสนใจเจ้าแมวขนดกสีส้มแม้แต่น้อย เด็กสาวกอดอก ใบหน้าบูดบึ้ง แฮร์รี่กับรอนหันมาสบตากัน
เธอเป็นอะไรไปหรือเฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่ถามอย่างหวาด ๆ
ก็มัลฟอย... เธอเกือบจะพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ออกมา แต่เด็กสาวกลับหยุดปากตัวเองไว้ทัน ถึงอย่างไรเธอก็คงไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองรู้เรื่องที่มัลฟอยได้ทำกับเธอ แม้ว่าแฮร์รี่กับรอนจะขยี้เขาให้เป็นปุยผงหลังจากรู้เรื่องนั้นแล้วก็ตาม
มัลฟอยทำไมเหรอ มันมาหาเรื่องเธองั้นรึ รอนถามด้วยท่าทีเป็นห่วง แต่น้ำเสียงของเขากลับดูเคียดแค้น เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลาย
เปล่า มัลฟอยเขา.... เธออึกอัก มัลฟอยเขาเพิ่งถูกแต่งตั้งให้เป็นประธานนักเรียนน่ะ
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้กลับไปที่ตู้ประธานอีกเลยตลอดการเดินทางที่เหลือ จนกระทั่งการเดินทางสิ้นสุดลง นักเรียนทุกคนเข้าไปในห้องโถงก่อนการคัดสรรจะเริ่มขึ้นเหมือนทุก ๆ ปีที่ผ่านมา หลังจากที่หมวกคัดสรรได้ร้องเพลงที่แต่งขึ้นใหม่สำหรับปีนี้ ( เกี่ยวกับมิตรภาพและความผูกพันระหว่างบ้านทั้งสี่ ) มันก็ได้จัดการส่งเด็กปีหนึ่งเข้าบ้านที่เหมาะสมกับพวกเขาทีละคน จนกระทั่งหมวกคัดสรรได้ส่งเด็กคนสุดท้ายเข้าบ้านของเขา ( สลิธีริน ) ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็จัดแจงเก็บหมวกคัดสรรและแป้นสูงไป รอนแปลกใจว่าทำไมจานทองจึงยังว่างเปล่า แต่แล้วศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็ลุกขึ้น
ฉันขอกล่าวอะไรสักหน่อยก่อนพวกเธอจะได้อิ่มหนำกับอาหารชั้นเลิศของเรา ดัมเบิลดอร์พูด รอนทำหน้ามุ่ย ฉันคงต้องแจ้งพวกเธอว่าปีนี้จะเป็นปีที่พิเศษว่าเดิมเล็กน้อย
จะมีควิดดิชเวิล์ดคัพมาแข่งที่โรงเรียนรึไง รอนประชดเสียงดัง จนเมื่อดัมเบิลดอร์มองมาทางเขาผ่านลอดแว่นรูปจันทร์เสี้ยว รอนก็หยุดพูดทันที เมื่อเป็นเช่นนั้นดัมเบิลดอร์ก็กระแอมน้อย ๆ แล้วเริ่มพูดอีกครั้ง
เพราะว่าปีนี้ทางโรงเรียนจะจัดงานเลี้ยงเต้นรำขึ้นอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานหลายปี ในวันฮาโลวีนนี้ ดัมเบิลดอร์กล่าว รอนอ้าปากค้าง ( ไม่นะ! ) และก็เกิดเสียงพึมพำดังขึ้นทั่วทั้งห้องโถง
เอาล่ะ เงียบ ๆ หน่อย เสียงของศาสตราจารย์มักกอนนากัลดังขึ้น เสียงซุบซิบเงียบลงทันที
ทางโรงเรียนคิดว่าคงจะดีถ้าเรามีการจัดการเลี้ยงเล็ก ๆ ขึ้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนต่างบ้าน ดัมเบิลดอร์เริ่มอธิบาย เพราะฉะนั้นงานเลี้ยงที่จะมีขึ้นนี้จะเป็นงานที่ต้องแต่งกายแฟนซี และนักเรียนไม่จำเป็นต้องหาคู่ไปงาน แต่เราต้องการให้พวกเธอได้รู้จักเพื่อน ๆ ในงานภายใต้หน้ากากที่เธอไม่รู้ว่าเป็นใคร เขาพูด ดวงตาของดัมเบิลดอร์มีแววสนุกสนาน
จนกระทั่งเที่ยงคืน เราถึงจะอนุญาติให้ถอดหน้ากากออกได้ พอเขาพูดจบก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าพวกนักเรียนหญิงจะตื่นเต้นเป็นพิเศษกับงานเลี้ยงที่กำลังจะมาถึง ส่วนพวกผู้ชายต่างทำหน้าสยดสยองไปตาม ๆ กัน
ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ของงานนั้นฉันจะแจ้งให้พวกเธอทราบทีหลัง เพราะตอนนี้ฉันได้ยินเสียงครวญครางของกระเพาะของพวกเธอหลายคนกำลังดังอย่างมโหฬารทีเดียวล่ะ เอาล่ะ ลงมือทานได้ เขาส่งยิ้มให้รอน และเมื่อดัมเบิลดอร์พูดจบก็มีเสียงเฮดังลั่นพร้อมกับเสียงส้อมกับมีดกระทบกันทั่วห้องโถง
*************************************************
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์หลังจากวันเปิดเรียน ทุกคนยังคงพูดถึงงานเลี้ยงเต้นรำที่จะมีขึ้นในสิ้นเดือนหน้าอย่างไม่หยุด นักเรียนหญิงบางคนต่างกระซิบกระซาบกันเรื่องชุดที่จะใส่ไปงาน แต่บางคนก็ปิดเป็นความลับ เพราะว่าการแต่งกายแฟนซีนั้นถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์อย่างหนึ่งทีเดียว
เธอจะแต่งเป็นอะไรเฮอร์ไมโอนี่ รอนถามขึ้นขณะที่พวกเขาทั้งสามกำลังอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมที่มีผู้คนคับคั่ง
ไม่รู้ เธอตอบห้วน ๆ เพราะกำลังวุ่นอยู่กับหนังสือกองโตตรงหน้า
ฉันว่าจะแต่งเป็นมัมมี่ดีไหม จะได้ไปหลอกปาราวตี รอนหันไปปรึกษาแฮร์รี่ เขายังจำได้ว่าบ็อกการ์ตเปลี่ยนเป็นมัมมี่เมื่อเจอเธอ
ถ้างั้นฉันแต่งเป็นแมงมุมแล้วกัน แฮร์รี่แหย่ รอนทำหน้าประมาณว่า ฉันฆ่านายแน่ถ้านายทำอย่างนั้น
เธอเห็นโรมิโอกับจูเลียตของฉันไหม เธอถามเพื่อนทั้งสอง รอนกับแฮร์รี่ส่ายหน้า
เราไม่เห็นนิยายของเธอเลย รอนตอบพลางมองกองหนังสือตรงหน้าของเธอด้วยสีหน้าสยดสยอง
ฉันต้องเอามันไว้ที่ไหนสักแห่งนี่นา อ้อ แล้วมันก็ไม่ใช่นิยายนะรอน เฮอร์ไมโอนี่พูดและลองรื้อกองหนังสือที่อยู่บนโต๊ะดู
ในสายตาของเพื่อนทั้งสองนั้นเฮอร์ไมโอนี่ดูวุ่นวายมากทีเดียว ความจริงเธอวุ่นมาตั้งแต่ตอนเปิดเทอมแล้ว นั่นก็เพราะเฮอร์ไมโอนี่เป็นประธานนักเรียนหญิงของโรงเรียน เธอต้องเดินตรวจบริเวณและปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ มากกว่าคนอื่น เธอต้องนอนดึกและตื่นเช้ากว่าทุกคน เฮอร์ไมโอนี่ลงเรียนเก้าวิชา และต้องเรียนด้วยตัวเองอีกหนึ่ง นอกจากนี้เธอยังคร่ำเคร่งอ่านหนังสือสอบส.พ.บ.ส.ที่กำลังจะมีขึ้นในเจ็ดเดือนข้างหน้าอีกด้วย
รู้ไหมความจริงเธอน่าจะขอยืมนาฬิกาย้อนเวลามาอีกครั้งนะ เฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่แนะเมื่อเห็นว่าเด็กสาวแทบไม่มีเวลาได้กินได้นอน แต่จู่ ๆ เฮอร์ไมโอนี่ก็ชะงัก
นี่กี่โมงแล้ว เธอพูดเสียงดังจนเพื่อนทั้งสองสะดุ้ง
สองทุ่มครึ่ง รอนตอบ
ตายล่ะ ฉันลืมไปพบศาสตราจารย์มักกอนนากัล! เธอโพล่งและรีบผลุนผันออกจากห้องนั่งเล่นรวมไป รอนกับแฮร์รี่มองเธองง ๆ ก่อนที่จะหันมาสบตากัน
เธอน่าจะหาเวลาว่างบ้างจริงไหม รอนพูดกับแฮร์รี่
เฮอร์ไมโอนี่เดินไปตามทางเดินอย่างรีบร้อน ศาสตราจารย์มักกอนนากัลนัดเธอมาพบเพื่อปรึกษาเรื่องงานเลี้ยงเต้นรำตอนสองทุ่ม และตอนนี้เธอกำลังทำให้อาจารย์รอ เด็กสาวหยุดอยู่ที่ประตูห้องทำงานของอาจารย์และเปิดมันออก ภาพที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นเป็นอย่างแรกก็คือมัลฟอย เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของศาสตราจาร์มักกอนนากัล
นั่งลงสิมิสเกรนเจอร์ เธอมาสายไปหน่อยนะ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเตือนเธอด้วยน้ำเสียงเฉียบคม
ขอโทษค่ะ เฮอร์ไมโอนี่พูด และเลื่อนเก้าอี้ข้าง ๆ มัลฟอยออกแล้วจึงนั่งลง
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลได้มอบหน้าที่สำคัญในงานให้กับประธานนักเรียนทั้งสองและบอกพวกเขาถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับงานเลี้ยงเต้นรำ เธอบอกว่าอาจารย์ใหญ่ได้จ้างโครงกระดูกเต้นรำ ฝูงค้างคาว และมัมมี่จากอียิปต์มาจัดการแสดงด้วย ซึ่งศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็ไม่ลืมที่จะชวนบรรดาผีของฮอกวอตส์มาร่วมงาน แต่พวกผีกลับปฏิเสธเพราะว่าเขาต้องไปงานเลี้ยงวันตายของนิกหัวเกือบขาดในวันเดียวกัน ( ซึ่งดูเหมือนปีนี้นิกจะไม่ยอมชวนกลุ่มนักรบหัวขาดมาร่วมงานแล้ว ) ดัมเบิลดอร์จึงเสนอให้นิกมาจัดงานรวมกับงานเลี้ยงของโรงเรียนด้วยเลย โดยตัวเขาสัญญาว่าจะประกาศให้นักเรียนทุกคนทราบว่าวันนี้เป็นวันที่สำคัญยิ่งสำหรับผีประจำบ้านกริฟฟินดอร์อย่างไร
หลังจากหมดธุระศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็ปล่อยเด็กทั้งสองกลับหอนอน เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาที่ระเบียงพร้อมกับมัลฟอย เธอแทบไม่ได้พูดกับเขาเลยตั้งแต่เกิดเรื่องบนรถไฟยกเว้นแค่ตอนที่ต้องทำงานด้วยกันเท่านั้น และมัลฟอยเองก็ไม่ได้มาหาเรื่องเธอและเพื่อนทั้งสองอีกเลยนับตั้งแต่เปิดเทอมมา
ทำไมฉันต้องมาทำงานงี่เง่านี่ด้วยนะ มัลฟอยบ่นขณะเขาเดินอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่
มันไม่ใช่งานงี่เง่านะมัลฟอย แต่มันเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของนักเรียนต่างบ้านต่างหากล่ะ เฮอร์ไมโอนี่อธิบาย เด็กหนุ่มไหวไหล่
ใครสนกันล่ะ ฉันไม่ต้องการสร้างสัมพันธ์งี่เง่านั่นหรอกนะ เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ
แต่เธอต้องทำ อย่าลืมสิว่าเธอเป็นประธานนักเรียน! เฮอร์ไมโอนี่เตือน
อ้อ เธอคงดีใจมากสินะที่อาจารย์จัดงานนี้ขึ้นน่ะ มัลฟอยพูด
เธอจะไปแต่งตัวสวย ๆ แล้วก็ไปเต้นรำกับผู้ชายโง่ ๆ ที่ไม่รู้ว่าคนที่เขากำลังเต้นรำอยู่ด้วยเป็นพวกเลือดสีโคลน! มัลฟอยว่า เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงด้วยความโกรธ
อย่าดีแต่ว่าคนอื่นเขามัลฟอย! เธอพูดเสียงเขียว แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ฟัง
แต่ฉันว่าอย่างเธอน่าจะแต่งเป็นเจ้าหญิงก็ดีนะ แล้วให้พอตตี้กับวีเซิ่ลเป็นองค์รักษ์ของเธอ ใช่ไหม เจ้าหญิงมักเกิ้ล มัลฟอยพูดราวกับมันเป็นเรื่องสนุกสนาน เฮอร์ไมโอนี่จ้องเขาอย่างโกรธเคือง
แล้วทำไมถึงไม่บอกให้แพนซี่แม่หวานใจของนายแต่งเป็นปีศาจแบนชีล่ะ ฉันว่าเหมาะกับเธอดีออก เฮอร์ไมโอนี่สวน มัลฟอยมีสีหน้างงงวย
เธอพูดอะไรของเธอน่ะเกรนเจอร์ เขาถาม
เธอก็ได้ยินแล้วนี่มัลฟอย ฉันบอกว่าให้เธอไปบอกแม่แพนซี่สุดที่รักของเธอว่า...
ใครบอกเธอว่าแพนซี่เป็นสุดที่รักของฉันกัน มัลฟอยพูดอย่างสงสัย
แล้วไม่ใช่รึ เฮอร์ไมโอนี่โต้
ไม่ใช่ แพนซี่ไม่ใช่หวานใจฉัน ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนกันเกรนเจอร์ มัลฟอยหัวเราะกับเรื่องที่เด็กสาวพูด เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเสียหน้า แต่เธอพยายามทำท่าทีเรียบเฉย
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนี่ เธอพูดเพื่อกลบเกลื่อนความอาย และกำลังจะเดินหนีเขาไป แต่มัลฟอยรั้งแขนของเธอไว้ก่อน
จะรีบไปไหนเหรอ เขาพูด เฮอร์ไมโอนี่สะบัดแขน
ปล่อยฉันนะ! เธอร้อง นายไม่กลัวตัวของนายจะเปื้อนโคลนหรือไง เธอประชด
โอ้... จริงสิ ฉันลืมไปได้ไงนะ มัลฟอยพูดด้วยท่าทียียวน และปล่อยมือเธอ
นาย...! เฮอร์ไมโอนี่ร้อง
ฉันคิดว่าเธอยังไม่อยากไปไหนหรอกจริงไหม มัลฟอยพูด
แน่นอนว่าฉันอยากไป ไปที่ไหนก็ได้ที่ไกลจากนาย! เธอกระแทกเสียง มัลฟอยแกล้งทำสีหน้าเจ็บปวด
ถ้าเธอทำอย่างนั้น งั้นเธอก็คงไม่ต้องการสิ่งนี้อีกแล้วสินะ เขาพูด แล้วชูหนังสือเรื่องโรมิโอกับจูเลียตของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมา หนังสือที่เธอลืมไว้บนรถไฟที่ตู้ประธาน!
หนังสือของฉันนี่ เอาคืนมานะ! เธอร้องและกำลังจะคว้ามันไปจากมือของเขา แต่มัลฟอยกลับไม่ยอมคืนให้เธอ เขายกหนังสือไว้สูงเหนือหัว
ของเธองั้นหรือ เขาถาม
ก็ใช่น่ะสิ เอาคืนมานะ มัลฟอย ฉันต้องใช้มันทำงานส่งอาจารย์ เฮอร์ไมโอนี่พูด
มันคงสำคัญมากสินะ เขาพูดและเอาหนังสือมาพิจารณา ถ้าอย่างนั้นฉันก็ยิ่งคืนให้เธอไม่ได้
นาย! เฮอร์ไมโอนี่ร้อง
เธอไม่น่าหลุดปากบอกมัลฟอยไปเลยว่ามันเป็นของสำคัญ แน่นอนว่ามันสำคัญ เพราะมันเป็นหนังสือที่ไม่มีในห้องสมุด เฮอร์ไมโอนี่ซื้อมันมาจากร้านหนังสือแถวบ้านของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ต้องใช้มันทำรายงานเรื่องวรรณกรรมคลาสสิกของมักเกิ้ลส่งอาจารย์ เพราะว่าเธอไม่ได้เข้าเรียนจึงต้องทำงานส่งแทน และถ้าไม่มีมันเธอก็ไม่สามารถทำงานนั้นได้
ฉันควรจะทำอย่างไรดีนะ ควรจะทำอย่างไรดี เขาพูดและแสร้งทำท่าทีใช้ความคิด เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง
คืนมันมาให้ฉันมัลฟอย ไม่อย่างนั้นฉันจะไปฟ้องอาจารย์ เธอขู่ฟ่อ
งั้นก็ดี ฉันจะได้โยนมันทิ้งเสียเดี๋ยวนี้เลย เขาพูด แต่เธอคงไม่อยากให้ฉันทำหรอกใช่ไหม เขาพูดอย่างถือไพ่เหนือกว่า
นายจะให้ฉันทำยังไง เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างจนหนทาง มัลฟอยเลิกคิ้ว
ขอร้องฉันสิเกรนเจอร์ แล้วฉันจะคืนหนังสือให้เธอ มัลฟอยพูดอย่างเป็นต่อ
ได้โปรดคืนหนังสือให้ฉันด้วย มัลฟอย เขาดัดเสียงเลียนแบบเสียงของเธอ เฮอร์ไมโอนี่โกรธจัด
ไม่มีทาง! เธอตอบอย่างหนักแน่น
เหรอ งั้นก็ดี มัลฟอยพูด เขาหันออกไปทางระเบียง แล้วโยนหนังสือออกไปอย่างสุดแรง หนังสือของเฮอร์ไมโอนี่ลอยออกไปเหนือบริเวณสนามก่อนจะตกลงไปในพุ่มไม้
นาย! นายโยนมันทำไมน่ะ! เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตกใจ
ก็เธอไม่ยอมพูดเองนี่ เขาพูดอย่างไม่ยี่หระที่ได้เห็นสีหน้าตระหนกตกใจของเด็กสาว แต่เฮอร์ไมโอนี่มองเขาด้วยสายตาเกลียดชังเป็นแวบแรก มัลฟอยถึงกับชะงักไปชั่วครู่
นายมันทุ เรศที่สุด นายจงใจแกล้งฉัน นายมันชั่วร้าย! เธอด่าเขาเสียงดังก่อนจะวิ่งลงบันไดไป
เธอจะไปไหนน่ะ เกรนเจอร์ มัลฟอยตะโกน แต่เด็กสาวกลับไม่ฟัง เธอกระโจนลงบันไดไปสู่สนามเบื้องล่างก่อนที่เขาจะทันรั้งตัวเธอไว้ทัน
*************************************************
เฮอร์ไมโอนี่กลับมาที่หอพักในเวลาต่อมาด้วยความผิดหวัง เธอลงไปหาหนังสือในความมืด แต่เธอหามันไม่เจอแม้แต่เงา เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันไปตกอยู่ที่พุ่มไม้ตรงไหน หลังจากที่แฮร์รี่และรอนเห็นเธอกลับมาในสภาพที่มีเศษใบไม้ติดผมและเสื้อผ้า ทั้งสองก็ซักถามเธอเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าครั้งนี้เธอบอกพวกเขาทั้งสองจนหมดว่ามัลฟอยทำอะไรลงไปบ้าง
ไอ้คนทุเรศ ฉันจะไปจัดการกับมัน! รอนร้องและเตรียมพุ่งออกจากห้องนั่งเล่นรวม
อย่ารอน ใจเย็น ๆ ! แฮร์รี่เตือนและรั้งเขาไว้ก่อนที่จะหันไปพูดกับเฮอร์ไมโอนี่
ทำไมเธอถึงไม่ใช้ไม้กายสิทธิ์เรียกมันออกมาล่ะ แฮร์รี่ถาม ในขณะที่มือหนึ่งของเขาต้องคอยยึดเสื้อคลุมของรอนไว้ ไม่ให้เขาไปหาเรื่องมัลฟอย
ฉันลืมหยิบไปจากหอ เธอพูดเสียงเศร้า และฉันต้องใช้มันทำรายงานแฮร์รี่ ฉันอาจจะไม่ผ่านวิชานี้ก็ได้ถ้าฉันไม่ได้มันกลับมา เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้เข้าเรียนด้วย
เธอต้องหามันเจอ เฮอร์ไมโอนี่ พรุ่งนี้พวกเราจะไปช่วยเธอหามันกันดีไหม แฮร์รี่พูดอย่างปลอบโยน เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มและรู้สึกขอบคุณเขาเป็นอย่างมาก
*************************************************
แต่พอถึงวันรุ่งขึ้นทั้งสามกลับไม่ต้องไปตามหาหนังสือของเฮอร์ไมโอนี่อีกต่อไป เพราะว่าในตอนเช้าเมื่อมีไปรษณีย์นกฮูกมาส่ง นกฮูกนาของโรงเรียนตัวหนึ่งก็หย่อนพัสดุชิ้นหนึ่งลงบนตักของเฮอร์ไมโอนี่ และเมื่อเธอเปิดมันเธอก็พบว่ามันเป็นหนังสือของเธอที่มัลฟอยโยนทิ้งไป
ใครเป็นคนส่งมากันนี่ เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างดีใจ มีโน๊ตอันหนึ่งหล่นมาจากหนังสือ
ผมเก็บหนังสือของคุณได้ และคิดว่าคุณคงต้องการมันคืน รักษามันให้ดีด้วยล่ะ
โน๊ตของใครน่ะ แฮร์รี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่ส่ายศีรษะ
ไม่ได้ลงชื่อไว้ เธอพูดพอเธอเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษโน๊ต สายตาของเธอสบเข้ากับสายตาของมัลฟอยที่มองมาจากโต๊ะสลิธีรินพอดี แต่ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็แสร้งทำเป็นมองไปทางอื่น
เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าใครก็ตามที่เก็บหนังสือของเธอได้และส่งกลับมาให้เธอต้องรู้ว่ามันตกอยู่ที่ไหน เพราะคงไม่มีใครบังเอิญไปเจอหนังสือในพุ่มไม้ภายในช่วงเวลาข้ามคืนที่เธอทำมันหายแน่ และอีกอย่างเขาก็ต้องรู้ด้วยว่าใครเป็นเจ้าของ ๆ มัน
ซึ่งคนที่เป็นเช่นนั้นก็มีเพียงคนเดียวก็คือ มัลฟอย
ไม่ใช่หรอก เฮอร์ไมโอนี่คิด ไม่มีทางจะเป็นเขาไปได้ ไม่มีทางหรอก
*************************************************
งานเลี้ยงเต้นรำวันฮาโลวีนใกล้เข้ามา นักเรียนต่างพูดถึงแต่เรื่องงานนี้ นักเรียนหญิงมักจะคุยกันแต่เรื่องชุด และก็มีหลายคนที่ยังหาชุดแต่งตัวไปงานไม่ได้ เช่นเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่
ฉันได้ข่าวว่าร้านเช่าชุดที่ฮอกมี้ดส์น่ะเอาชุดให้นักเรียนเช่าหมดแล้ว และร้านตัดชุดร้านอื่นก็รับออร์เดอร์เข้ามาจนแทบตัดไม่ทันเชียว ลาเวนเดอร์พูดกับปาราวตีที่โต๊ะอาหารตอนเช้า
แล้วเธอจะแต่งเป็นอะไรล่ะ ปาราวตีถาม ลาเวนเดอร์ส่ายหน้า
ไม่รู้สิ แต่แม่ฉันบอกให้แต่งเป็นเงือกล่ะ เพราะเรามีชุดอยู่ที่บ้านแล้ว เธอตอบ
แล้วเธอล่ะ เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะแต่งเป็นอะไร รอนถามเธออีกครั้ง
ไม่รู้ เฮอร์ไมโอนี่ขณะกำลังอ่านโรมิโอกับจูเลียตให้จบเป็นรอบที่สาม
แต่เธอต้องรู้ได้แล้วสิ นี่ใกล้จะถึงวันงานแล้วนะ รอนร้อง แม้ว่าตัวเขาเองก็ยังไม่รู้จะแต่งเป็นอะไรก็เถอะ
ก็ฉันไม่รู้จริง ๆ นี่รอน ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย และถ้าเธอไม่ว่าอะไรนะช่วยหยุดกวนใจฉันสักประเดี๋ยวเถอะ! เฮอร์ไมโอนี่เหวก่อนที่จะกระแทกหนังสือปิดอย่างหงุดหงิด สักครู่เด็กสาวก็เก็บของเข้ากระเป๋าและเอาสายกระเป๋าขึ้นคล้องบ่า
ฉันมีเรียนอักษรรูนตอนเช้า แล้วเจอกันนะ เธอพูดและเดินออกจากห้องโถงไป รอนกับแฮร์รี่มองหน้ากันงง ๆ
ฉันว่าเธอต้องแต่งเป็นหนังสือแหง ๆ เลย รอนพูดขณะกำลังเคี้ยวเบคอนอยู่
หลายวันต่อมา เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังหาชุดไปงานไม่ได้ และเธอก็ไม่ได้มีความพยายามที่จะหามันเท่าไหร่นัก เพราะเธอมีเรื่องอื่นที่ต้องทำมากกว่า เธอมีการบ้านจำนวนมากที่ต้องทำ ในขณะเดียวกันเธอก็พยายามอย่างไม่ลดละที่จะอ่านหนังสือสำหรับสอบส.พ.บ.ส.และทำเลคเชอร์ไว้ รอนเริ่มล้อเธอเรื่องเธอกำลังจะกลายร่างเป็นหนังสือเดินได้ ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ก็อารมณ์เสียใส่ทุกคนที่มากวนใจเธอ
จนกระทั่งเช้าวันอาทิตย์ หนึ่งสัปดาห์ก่อนวันงานนกฮูกนาสองสามตัวช่วยกันแบกห่อพัสดุขนาดเท่าหนังสือเล่มใหญ่ ๆ หลายเล่มมา และส่งมันให้เฮอร์ไมโอนี่
นี่เธอสั่งหนังสือมาอ่านอีกหรือไง รอนแขวะ ขณะมองพัสดุที่น่าจะบรรจุหนังสือแปลงร่างเล่มยักษ์ได้สักสองสามเล่มอย่างทึ่ง ๆ
ฉันเปล่าสั่งมันมาเสียหน่อย เธอพูดอย่างงง ๆ และหยิบโน๊ตที่แปะอยู่ที่กล่องขึ้นมาดู
อย่าเปิดที่โต๊ะอาหาร
ผมเป็นคนที่เคยส่งหนังสือให้คุณคราวก่อน คราวนี้ผมอยากให้คุณตอบแทนผมบ้าง โดยการใส่ชุดที่ผมส่งมาให้และมาเจอผมที่หน้างานตอนสองทุ่มตรง
ใครส่งมาน่ะ รอนถามอย่างอยากรู้
ไม่มีอะไร เฮอร์ไมโอนี่รีบพูด เธอหนีบพัสดุไว้ในอ้อมแขนและลุกจากโต๊ะ
เธออิ่มแล้วหรือ เฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่ถาม
อื้อ เจอกันที่ห้องนั่งเล่นรวมนะ เธอพูดกับเพื่อนทั้งสองและตรงกลับห้องไป
เฮอร์ไมโอนี่กลับขึ้นหอนอนและไปเปิดพัสดุที่นั่น เมื่อเธอแกะมันออกเธอตะลึงเมื่อรู้ว่ามันเป็นอะไร มันเป