โรค Carpal Tunnel Syndrome (CTS)
อาจจะดูน่ากลัวแต่พี่คิดว่าเป็นสิ่งที่น้องๆควรจะรู้ไว้นะจ๊ะ และมีวิธีการบริหารข้อมือด้วยจ่ะซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ใช้ที่ข้อมือ หรือการใช้งานข้อ มือท่าเดิมๆ ทำให้เกิดพังผืดตรงบริเวณช่องเส้น เอ็น ( ตรงข้อมือของคนเราจะมีเส้นเอ็นยึดข้อต่อกระดูกและกล้ามเนื้อ รวมทั้งเส้นประสาทวิ่งผ่าน) จะสังเกตได้ง่ายมากสำหรับคนที่ทำงานกับ คอมพิวเตอร์ทุกคน จะเป็นพังผืดบริเวณข้อมือ เนื่องจากการใช้เมาส์ โดยใช้ ข้อมือเป็นจุดหมุน หรือแม้แต่กด คีย์บอร์ด .......
CTS เกิดจากการที่เส้นประสาทวิ่งผ่าน ท่อนแขนจากข้อศอกไปยังข้อมือ ได้รับแรงกดซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือเกิด จากพังผืดซึ่งคนเรามีเป็นปกติที่บริเวณอุโมงค์ข้อมือหนาตัว ขึ้น จนไปกดทับเส้นประสาทมีเดียน (Median nerve) ซึ่ง เป็นเส้นประสาทที่ลอดใต้พังผืดนี้ผ่านเข้าไปในอุโมงค์ข้อมือ พบได้ในคนที่ต้องใช้มือหรือข้อมือมากๆในชีวิตประจำ วัน ในคนที่มีโรคประจำตัวที่มีผลต่อปลายประสาท เช่น เบาหวาน โรคข้อ อักเสบ ในหญิงตั้งครรภ์ระยะใกล้คลอด รวมไปถึงผู้ที่ใช้ งานมือและข้อมือติดต่อกันเป็นเวลานานๆ แม้จะเป็นงานเบาๆอย่างเช่น การถักนิตติ้ง ก็เสี่ยงต่อการเกิด CTS ได้ และแน่นอน นักท่องเน็ต หรือผู้ที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา ก็พบว่าเป็นกันมากขึ้น เรื่อยๆ กระทั้งเสียวและชาไปทั้งมือ และมันมักจะเป็นตอนนอนหลับกลาง คืน ก่อนจะ รุนแรงถึงขั้นปวดร้าวไปทั้งแขน ส่วนอาการ อื่นที่อาจจะเกิดขึ้นกับอีกหลายคนก็คือ มืออ่อนแรงและกล้ามเนื้อหัว แม่มือลีบ เล็กลงเรื่อยๆ
การ รักษาเมื่อเป็น CTS มีทั้งแบบให้ยาและผ่าตัด ถ้าเพิ่งเริ่ม เป็น แค่อาจจะกินยาแก้ปวดแล้วก็พักข้อมือ หยุดการเคลื่อนไหว อาการก็อาจทุเลาและหายไปได้เอง แต่ถ้าเริ่มปวดมาก ให้กินแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน และแพทย์อาจให้สวมอุปกรณ์ประคองมือ เพื่อลดการเคลื่อนไหวของข้อมือ หรือฉีด corticosteroids เข้า อุโมงค์ข้อมือเพื่อลดการอักเสบโดยตรง ส่วนในรายที่เป็นมานานกว่า 6 เดือน อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อรักษาเท่า นั้น
วิธีการบริหารข้อมือ
วิธีการบริหารมือ
1. วางคอมพิวเตอร์ให้ห่างจากตัวพอดีกับแขน จับเม้าท์และคีย์บอร์ดได้ สบายๆ ไม่เหยียดหรืองอข้อมือ
2. ขณะพิมพ์คีย์บอร์ดให้ทั้งท่อนแขน วางอยู่ในแนวขนานกับพื้น
3. ตอนใช้เม้าท์ คุณ อาจจะหาแผ่นรองข้อมือมาวางก็ยิ่งดีเคยเห็นแผ่นรอง เม้าท์ที่มีเบาะนุ่มๆรองตรงข้อมือน่าจะใช้ ได้เคลื่อนไหวให้ถูกท่า
4. เวลาที่หยิบของให้ ออกแรงทั้งมือและนิ้วมือ
5. เลี่ยงงานอดิเรก หรือกิจกรรมยามว่างที่ต้องใช้งานข้อมือ มาก ๆ ซ้ำๆโดย เฉพาะท่างอเข้าหรือกระดกมือขึ้นอย่างการถักนิตติ้ง
เครดิต :
http://www.pharmacy.msu.ac.th/board/index.php?topic=1791.0