PSW.HPT 070711 - Harry Potter and the Deathly Hallows Part.II [กระทู้พูดคุย]

[ลม ฟ้า พายุ ...]

      กลับมากันอีกแล้วเด้อครับ  กับกระทู้เม้าท์กันฟันเหยิน น น น น~  ^^
      ซึ่งจากคราวที่แล้วตอน ภ.แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เครื่องรางยมทูต ภาค 1 เข้าฉายเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน
      ก็ได้มีกระทู้พูดคุย & แชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวหนัง & เริ่มนับถอยหลังรอวันหนังเข้าฉาย

      คราวนี้ก็อีกเช่นกันเด้อครับที่ ภ.แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เครื่องรางยมทูต ภาค 2 จะเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 14 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้
      ซึ่งหากนับถอยหลังก็จะเหลือแค่ 7 วันเท่านั้นเอง (ตื่นเต้น ๆ ๆ 55+)
      เพื่อให้บอร์ดมีสีสัน + คึกคักขึ้นมาอีกหน่อย ก็เลยสร้างกระทู้รองรับความคิดเห็น ความรู้สึก ความประทับใจ & เริ่มนับถอยหลังสู่ภาพยนตร์ชิ้นสุดท้ายไปในตัวซะเลย หุหุ ^^

      และในระหว่างรอหนังฉายนี้ ก็มีกิจกรรมที่เป็นอีกหนึ่งสีสันครับ คือ "กิจกรรมตอบคำถามเพื่อรับบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษ"
      ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง Warner Bros. Pictures กับ Potter Story Web ที่ชวนให้แฟน ๆ แฮร์รี่ พอตเตอร์
      ร่วมตอบคำถามชิงรางวัลบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษ เวลา 20.00 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคม 2554
      ซึ่งคำถามก็ง่ายนิดเดียวครับ เพียงตอบว่า สืบเนื่องแฮร์รี่เสียไม้กายสิทธิ์ฮอลลี่ซึ่งหักตอนหนีจากก็อดดริกส์โฮลโล่
      และหลังจากถูกจับตัวไปที่คฤหาสน์มัลฟอยแล้ว  แฮร์รี่ก็ได้ไม้กายสิทธิ์อันใหม่มาใช้ชั่วคราว ... ถามว่า "ไม้กายสิทธิ์ที่แฮร์รี่นำมาใช้นั้นเป็นของใคร?"
      สามารถร่วมกิจกรรมได้ ที่นี่ ครับ ^^

      นอกจากนี้หากใครสนใจอยากไปร่วมมีทบอร์ดและดูหนังกับ PSW ก็สามารถลงชื่อได้ที่กระทู้นี้นะครับ
      ** PSW's MEETING ON MUGGLE WORLD !!! **

      และเพื่อเพิ่มดีกรีความตื่นเต้นระหว่างรอดูหนังเข้าไปอีก .. ใครที่พลาดชมรายการ 'แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เครื่องรางยมทูต ภาค 2 ทีวีสเปเชียล'
      ซึ่งออกอากาศทางช่อง 3 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา .. สามารถชมย้อนหลังได้ที่กระทู้นี้ครับ
      PSW.HPT 030711 - ชมรายการ Harry Potter 7.2 TV Special ย้อนหลัง



      เฮ้ออออ~ (ขอถอนหายใจยาว ๆ 1 ครั้ง)  และแล้วก็เหลือแค่ 7 วันเท่านั้น ที่จะปิดตำนานของพ่อมดน้อยที่โลดแล่นบนแผ่นฟิล์ม (แต่ทว่าเขาก็จะยังอยู่ในใจของแฟน ๆ ตลอดไป  )
      เพื่อน ๆ น้อง ๆ มีความรู้สึกอย่างไร อยากแชร์ อยากระบาย  ก็ขอเชิญชวนโพสต์ในกระทู้นี้ได้เลยนะครับ ^^


ป.ล. ขออนุญาตวิบัติ และขอให้สนุกกับกิจกรรม + ภาพยนตร์นะฮ้าฟฟฟ~ 

[guitar love harry potter]

อยากดู Herry Potter 7.2 vjt

[ลม ฟ้า พายุ ...]

      เย้~ ออกจากโรงหนังแล้วฮะ พร้อมกับอาการอารมณ์ค้าง + สะลืมสะลือได้ที่
      รวบรวมสติสตังค์ได้เมื่อไร เดี๋ยวค่อยมาระบายให้ฟังนะฮะ ...
      แต่บอกได้คำเดียวว่า "สวดยอดไปเลยนะฮ้าฟฟฟ~" 


ป.ล. ขออนุญาตวิบัติฮับ ^^

[~OrenjI~]

ปักป้ายรอตั้งแต่เย็นแล้วฮ่ะ ~

(May the Spoil be with you)
~ ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน ~

[ลม ฟ้า พายุ ...]

อ่าาา~ ... เริ่มยังไงดี คือ แบบว่ายังมีอาการง่วง + มึน & บลา ๆ ๆ ม๊ากมาก ถึงมากที่สุดฮะ ^^!
เริ่มดูภาคแรกตอน 21.35 น. ของวันที่ 12 ... จนมาจบ 7.2 ตอน 22.10 ของวันที่ 13
กว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน อาบน้ำอาบท่า เข้านอน แค่ล้มตัวลงนอนได้เท่านั้น ก็แทบจะสลบสไลไปเลยทีเดียวเชียว ...

สำหรับกิจกรรมดูหนังมาราธอนและต่อด้วย 7.2 นี้  ก็ต้องขอกล่าวคำขอบคุณต่อผู้จัดกิจกรรมและผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่งด้วยนะฮะ ^^
เป็นประวัติศาสตร์ ความประทับใจ และประสบการณ์ที่ดีที่ควรค่าแก่การจดจำมาก ๆ เลย
และขอบอกว่าตัวแทนจาก PSW (เท่าที่จะรวมกลุ่มกันได้) ทั้ง 8 คน  สามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ถึงงานจบกันทุกคนฮะ ^^


และต่อไปนี้จะเป็นการรีวิวหนัง 7.2 (3D) ซึ่งอาจมีสปอล์ยกระจายนะฮะ ^^



หนังเปิดตัวด้วยเพลง Lily's Theme และเริ่มต้นต่อเนื่องจากจุดที่ 7.1 ทิ้งท้ายเอาไว้ คือ โวลเดมอร์ปล้นสุสานดัมเบิลดอร์ชิงไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์
ต่อเนื่องด้วยสเนปซึ่งได้เป็นอาจารย์ใหญ่  ผู้เสพความตายเข้ามาเป็นอาจารย์ในฮอกวอตส์  กลุ่มนักเรียนที่ถูกเดินเข้าแถวเหมือนอย่างกับกองพันทหารซึ่งแสดงให้เห็นว่าฮอกวอตส์ถูกควบคุมแล้ว
และเหล่าผู้คุมวิญญาณเข้าล้อมปราสาทฮอกวอตส์ ...

จากนั้นหนังจะเล่าถึงบท "กระท่อมเปลือกหอย" และ "ช่างทำไม้กายสิทธิ์" แบบรวบรัด คือ ทรีโอพยายามหาวิธีเข้าธนาคารกริงกอตส์
โดยเฮอร์ไมโอนี่แสดงเส้นผมที่ติดตัวมาหลังจากหนีออกจากคฤหาสน์มัลฟอยให้แฮร์รี่กับรอนดู และมั่นใจว่ามันคือผมของเบลลาทริกซ์
และจากการพยายามคาดคั้นของเบลลาทริกซ์ ทำให้ต้องสงสัยว่าอาจมีฮอร์ครักซ์ซ่อนอยู่ในห้องนิรภัยของตระกูลเลสแตรงจ์
แฮร์รี่จึงปรึกษาเรื่องบุกกริงกอตส์กับกริ๊บฮุก (ก๊อบลินที่พาหนีมาด้วยกัน) โดยอีกฝ่ายยื่นข้อเสนอว่าต้องการดาบกริฟฟินดอร์เพื่อแลกกับความช่วยเหลือ
จากนั้นแฮร์รี่ได้ปรึกษานายโอลลิแวนเดอร์เกี่ยวกับเรื่องไม้กายสิทธิ์สองอันที่ชิงมาได้ (ไม้วอลนัตของเบลลาทริกซ์กับไม้ฮอว์ทอร์นของเดรโก) กับเรื่องไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์
และความสวามิภักดิ์ของไม้กายสิทธิ์ที่มีต่อนายคนใหม่ที่เอาชนะนายคนเดิมได้

ในบท "กริงกอตส์" ... ทรีโอและก๊อบลินหายตัวจากกระท่อมเปลือกหอยไปยังตรอกไดแอกอน สถานที่ตั้งของอาคารสูงสีขาว ... ธนาคารกริงกอตส์
โดยเฮอร์ไมโอนี่ดื่มน้ำยาสรรพรสปลอมตัวเป็นเบลลาทริกซ์  รอนถูกเฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนเครื่องหน้าเติมหนวดเติมเครา และแฮร์รี่มีกริ๊บฮุกขี่หลังอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน
แต่การบุกเข้าไปนั้นไม่ง่าย  แม้ว่าจะไม่เจอกับเครื่องหยั่งความซื่อสัตย์ แต่ผู้บุกรุกทั้งสี่ต้องจะเจอกับปัญหาแรก เมื่อก๊อบลินของธนาคารได้รับคำเตือนว่าอาจมีคนบุกรุก
ขณะที่กำลังจะถูกจับได้นั่นเอง แฮร์รี่จึงเสกคำสาปสะกดใจใส่บ็อกร็อดให้พาลงไปยังห้องนิรภัยของเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์

ซีนในห้องนิรภัยค่อนข้างไปแบบเร็วฮะ ... แป๊บเดียวก็หา "ถ้วยฮัฟเฟิลพัฟ" เจอแล้ว
ส่วนคำสาปที่เสกไว้กับสมบัติในห้องก็มีแค่คาถาเจมิโน ที่ทำให้วัตถุเพิ่มจำนวนเมื่อถูกสัมผัส (ไม่มีคำสาปพลาแกรนเตที่ทำให้วัตถุร้อน)
ได้ถ้วยมาแล้วก็รีบหนี ด้วยการเกาะหลังมังกร (พันธุ์ยูเครนกระเพาะเหล็ก ... หน้าตาเหมือนไก่เอามาก ๆ ) ออกมา
(ซีนมังกรสูดอากาศแห่งอิสระภาพก่อนโผบิน อันนี้เก็บรายละเอียดได้ดี  ดูแล้วเหมือนว่าเจ้ามังกรขาดอิสระภาพมานานจริง ๆ )

เมื่อหนีออกมาได้และรอดพ้นจากมังกร ด้วยการกระโดดลงน้ำแล้ว (บท "ที่ซ่อนสุดท้าย") แฮร์รี่ก็เชื่อมโยงความคิดกับโวลเดอมอร์
ทำให้รู้ว่าโวลเดอมอร์รู้ตัวว่าแฮร์รี่กำลังตามหาฮอร์ครักซ์ + ชิ้นไหนถูกทำลายไปแล้ว
(ตามหนังสือ โวลเดอมอร์จะต้องออกเดินทางไปตามที่ซ่อนแต่ละแห่งเพื่อตรวจดูว่าฮอร์ครักซ์ยังปลอดภัยหรือไม่ ... แต่การทำให้โวลเดอมอร์รู้ตัวได้เอง อันนี้ก็ดีไปอีกแบบในแง่ของการเดินเรื่องได้เร็วดี)
แฮร์รี่รู้ว่านากินีก็เป็นฮอร์ครักซ์และยังมีอีกชิ้นหนึ่งซ่อนอยู่ในฮอกวอตส์ รู้แต่เพียงว่าเกี่ยวข้องกับโรวีน่า เรเวนคลอ
ทรีโอจึงไปฮอกส์มี้ดเพื่อหาทางเข้าปราสาท แต่เจอกับคาถาแมวครวญซะก่อน  และได้รับความช่วยเหลือจากอาเบอร์ฟอร์ธ ดัมเบิลดอร์ (บท "กระจกเงาที่หายไป")
ถึงตรงนี้จะเป็นจุดเฉลยว่าใครเป็นคนส่งด๊อบบี้ไปช่วยแฮร์รี่ ... แต่กลับไม่ได้ให้คำตอบเรื่องที่มาของเศษกระจกส่วนที่แตกที่อยู่กับแฮร์รี่
คือ ดูเหมือนว่ากระจกเงานั้นมีอยู่บานเดียว คืออยู่กับอาเบอร์ฟอร์ธซึ่งบอกว่าได้มาจากมันดังกัสซึ่งขโมยไปจากซิเรียส
และชิ้นส่วนที่อยู่กับแฮร์รี่ คือ ส่วนที่แตกออกจากกระจกบานนั้นนั่นเอง ... แล้วแฮร์รี่ได้เศษกระจกมายังไงล่ะ?
และด้วยทางลับของห้องต้องประสงค์ที่เชื่อมกับภาพของแอรีอานน่าที่อยู่ในร้านหัวหมู และการนำทางของเนวิลล์
ทรีโอจึงสามารถเข้ามาถึงห้องต้องประสงค์ และพบว่าในห้องนั้นเต็มไปด้วยกลุ่มนักเรียนที่ต่อต้านสเนป
มีการส่งข่าวถึงสมาชิก ก.ด. และภาคีนกฟีนิกซ์ และจาการสอบถามเด็กนักเรียนบ้านเรเวนคลอ แฮร์รี่ก็ทราบว่าฮอร์ครักซ์ชิ้นที่ซ่อนในฮอกวอตส์อาจเป็น "รัดเกล้าที่สาบสูญ"

ในบท "เซเวอร์รัส สเนป ถูกไล่ออก" ... สเนปเรียกประชุมนักเรียนกลางดึก เนื่องจากได้รับข่าวว่ามีคนพบเห็นพวกแฮร์รี่ในฮอกส์มี้ด
มักกอนนากัลดวลกับสเนปในห้องโถงใหญ่ และเมื่อสเนปหนีไป  กองกำลังฝ่ายฮอกวอตส์จึงเริ่มเตรียมตัวรับการโจมตี
มีการเสกคาถาป้องกันบริเวณโรงเรียน และกองทัพอัศวินของมักกอนนากัล (เพลงประกอบช่วงนี้เร้าใจมาก ^^)
ขณะที่สงครามกำลังจะปะทุ แฮร์รี่ซึ่งได้รับคำบอกเล่าจากโช แชง ว่าสิ่งที่เขาตามหาอยู่นั้น อาจจะเป็นรัดเกล้าที่สาบสูญ ซึ่งไม่มีใครที่ยังมีชีวิตอยู่สามารถบอกได้ว่ามันอยู่ที่ไหน
ด้วยคำแนะนำจากลูน่า เลิฟกู๊ด  แฮร์รี่จึงสอบถามจากเฮเลนน่า ผีประจำบ้านเรเวนคลอ และได้รับคำตอบว่ามันซ่อนอยู่ในห้องต้องประสงค์
ขณะเดียวกันเฮอร์ไมโอนี่กับรอนก็ลงไปยังห้องแห่งความลับ และใช้เขี้ยวบาซิลิสก์ทำลายถ้วยฮัฟเฟิลพัฟได้สำเร็จ
(คำถามที่ว่ารอนสามารถเปิดห้องแห่งความลับได้ยังไง ... เฉลยออกมาด้วยคำพูดติดตลกของรอนว่าเขาได้ยินตอนแฮร์รี่พูดตอนนอนหลับ)
จากนั้นทั้งสองจึงตามหาแฮร์รี่ (แผนที่ตัวกวน ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อันเก่านะ) พบว่าเขาอยู่ในห้องต้องประสงค์
เมื่อหารัดเกล้าเจอแล้ว แฮร์รี่กลับต้องพบกับเดรโก แครบ ซาบินี่ ซึ่งแอบตามเข้ามา และต้องผจญกับเพลิงปีศาจของแครบ
และเมื่อออกจากห้องต้องประสงค์ได้แล้ว แฮร์รี่จึงทำลายรัดเกล้าด้วยเขี้ยวบาซิลิสก์ตรงที่หน้าห้องนั้นเอง (ข้อมูลในหนังสือ รัดเกล้าถูกทำลายด้วยเพลิงปีศาจของแครบ)

ด้านโวลเดอมอร์เองก็รู้ว่าถ้วยฮัฟเฟิลพัฟและรัดเกล้าถูกทำลายแล้ว
ซึ่ง ราฟฟ์ ไฟนส์ ก็ได้แสดงให้เราเห็นว่าโวลเดอมอร์เริ่มตระหนักว่าตัวเองเริ่มเปราะบาง และหวาดกลัวความตายมากแค่ไหน
เขามีเพียงนากินีที่เป็นฮอร์ครักซ์ชิ้นสุดท้าย จึงเสกคาถาคุ้มครอง (ไม่ได้ขังไว้ในกรงเวทมนตร์) และพยายามพามันติดตัวไปด้วยทุกที่
โวลเดอมอร์แสดงความเป็นอันตรายต่อคนรอบข้างมากขึ้น สามารถฆ่าคนได้โดยไร้เหตุผล
และเมื่อเขาทำลายเกราะคาถาป้องกันปราสาทลงได้ โวลเดอมอร์ก็พบว่าไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ไม่ได้ทำงานได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น จึงถอยห่างจากแนวรบและสั่งลูเซียส มัลฟอย ให้ตามสเนปมาพบตน
แฮร์รี่ซึ่งใช้การเชื่อมโยงความคิดพบว่าโวลเดอมอร์อยู่ที่โรงเก็บเรือด้านหลังปราสาท (ในหนังสือคือเพิงโหยหวน) จึงตามไป และแอบฟังการสนทนาของโวลเดอมอร์กับสเนป
โวลเดอมอร์สั่งนากินีฆ่าสเนป เนื่องจากเข้าใจว่าสเนปเป็นคนลงมือสังหารดัมเบิลดอร์ซึ่งเป็นเจ้าของไม้เอลเดอร์คนเดิม ... หากสเนปตาย ตนจะได้เป็นเจ้าของไม้เอลเดอร์ที่แท้จริง
ก่อนตายสเนปได้มอบความทรงจำ (หยดน้ำตา) ให้แฮร์รี่และขอให้แฮร์รี่สบตาเขา เพียงเพื่อที่เขาจะได้เห็นดวงตาของลิลี่เป็นครั้งสุดท้าย TT^TT

แฮร์รี่กลับไปยังปราสาทซึ่งอยู่ในช่วงพักรบ ... ภายในห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน ทั้งที่บาดเจ็บ และเสียชีวิต
ภาพเบื้องหน้าที่แฮร์รี่ได้เห็น คือ ครอบครัววีสลีย์ที่รายล้อมร่างไร้ลมหายใจของชายหนุ่มผมแดงคนหนึ่ง ... เฟร็ด (ซับไตเติ้ลพิมพ์ผิด)
และร่างของลูปินกับท็องส์ที่พยายามจับมือกันไว้จนถึงวาระสุดท้าย ...

เรื่องราวใน บท "เรื่องเล่าของเจ้าชาย"  ได้ถ่ายทอดความทรงจำของสเนปผ่านทางเพนซิฟ  ซึ่งแม้ว่าจะไม่ครบทั้ง 20 เรื่อง แต่ก็ถ่ายทอดความรักของชายคนหนึ่งออกมาได้อย่างดี
มีการนำภาพเหตุการณ์ของซีนที่ถ่ายทำใหม่ มาร้อยเรียงกับบางซีนจากภาค 1, 5 และ 7.1
พร้อมกับเพลง Severus and Lily และเพลง Dumbledore's Farewell จากภาค 6 มาเสริมตอนท้าย ซึ่งช่วยบีบอารมณ์ขึ้นไปอีก
ความทรงจำที่พอจะดูทัน + จำได้ มีดังนี้ (อาจเป็นเพราะง่วงจนตาล้า ดูไม่ทัน ^^')
      - เริ่มต้นจากสเนปเป็นเพื่อนกับลิลี่ในวัยเด็ก (สเนปหน้าตาเหมือนผู้หญิงมาก!!~)
      - ทั้งสองถูกคัดสรรเข้าไปอยู่กันคนละบ้าน ที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ลิลี่ได้พบกับเจมส์ ซึ่งภายหลังได้แต่งงานกัน
      - สเนปแอบได้ยินคำพยากรณ์ของ ศจ.ทรีลอว์นีย์ แต่การได้ยินไม่ครบถ้วนนี้นำความตายมาสู่หญิงที่รัก
      - สเนปกลับใจและขอให้ดัมเบิลดอร์ช่วยปกป้องลิลี่
      - ดัมเบิลดอร์ขอให้สเนปปกป้องแฮร์รี่ และมีซีนจากภาคแรกตอนแฮร์รี่ผ่านพิธีคัดสรร
      - สนเปช่วยรักษาอาการของดัมเบิลดอร์ที่เกิดจากการทำลายแหวนตระกูลก๊อนท์
      - สเนปเสกผู้พิทักษ์เป็นกวางตัวเมีย (เหมือนของลิลี่) ทำให้ดัมเบิลดอร์รู้ว่าสเนปยังคงรักลิลี่ และเฉลยว่าใครเป็นคนส่งมอบดาบกริฟฟินดอร์ให้แฮร์รี่
      - ดัมเบิลดอร์รู้ว่าโวลเดอมอร์ต้องการให้เดรโกมาฆ่า (มีเสียงเดรโกเสกคาถาเปิดตู้อันตรธานด้วย) และผลของคำสาปทำให้ตัวเองมีชีวิตได้ไม่เกิน 1 ปี จึงวางแผนให้สเนปสังหารตนเอง
      - ดัมเบิลดอร์สงสัยว่าอาจมีวิญญาณของโวลเดอมอร์อยู่ในตัวแฮร์รี่ ทำให้แฮร์รี่กลายเป็นฮอร์ครักซ์อีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าแฮร์รี่จะต้องตาย

พอไล่เรียงดูแล้ว ... เหมือนจะตัดความทรงจำของสเนปออกไม่กี่อัน เช่น ตอนปรับความทรงจำมันดังกัส
ตอนยิงคาถาเซ็กตรัมเซมปร้าพลาดไปโดนหูของจอร์จ ... ไม่มีซีนภาพเหมือนของฟินีแอสบอกสเนปว่าพวกแฮร์รี่อยู่ในป่าดีน
และไม่กล่าวถึงว่าสเนปโดนกระทำอย่างไร จึงจงเกลียดจงชังเจมส์ (คงให้ดูเอาจากภาค 5 มั้ง)


หลังจากรู้ว่าตัวเองเป็นฮอร์ครักซ์และต้องตายแล้ว แฮร์รี่จึงสั่งเพื่อนทั้งสองว่าให้หาโอกาสฆ่างูนากินี
และตัวเขาเองก็เข้าไปในป่าต้องห้ามเพียงลำพังเพื่อพบกับโวลเดอมอร์ (บท "คืนสู่ป่า")
ระหว่างทางแฮร์รี่พยายามยอมรับความตาย ... เมื่อตระหนักใจดีแล้วจึงเปิดลูกสนิชออก และพบว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ในนั้นคือ หินชุบวิญญาณ
ภาพครอบครัวและบุคลลอันเป็นที่รักปรากฏรายล้อมแฮร์รี่ ทั้งเจมส์ ลิลี่ ซิเรียส ลูปิน ... และพวกเขาจะยังอยู่ในใจแฮร์รี่ตลอดไป

เผชิญหน้ากันอีกครั้งในป่าต้องห้าม ...
โวลเดอมอร์ยิงคำสาปพิฆาตใส่แฮร์รี่ ซึ่งอีกฝ่ายยอมรับคำสาปโดยไม่ขัดขืน ... แล้วทุกอย่างก็สว่างไปหมด
และเรื่องราวในบท "คิงส์ครอส" ถูกนำมาถ่ายทอดต่อจากนี้ ...
เมื่อแฮร์รี่พบกับร่างพิกลพิการของวิญญาณโวลเดอมอร์ และการพบกันอีกครั้งกับดัมเบิลดอร์ ซึ่งอธิบายว่าแฮร์รี่เป็นฮอร์ครักซ์อีกชิ้นหนึ่งได้อย่างไร

หลังจากฉากคิงส์ครอส ... เรื่องก็ดำเนินถึงบทสุดท้ายของหนังสือ "บทไม่เป็นไปตามแผน"
กลับคืนสู่ป่าต้องห้าม  โวลเดอมอร์ฟื้นคืนสติอีกครั้งหลังจากตัวเองก็ได้รับผลกระทบจากการทำลายฮอร์ครักซ์ในตัวแฮร์รี่
และเมื่อนาร์ซิสซายืนยันว่าแฮร์รี่ตายแล้ว โวลเดอมอร์กับกองกำลังผู้เสพความตายจึงเคลื่อนย้ายเข้าปราสาทเพื่อประกาศชัยชนะด้วยการนำศพแฮร์รี่ไปให้คนในปราสาทดู และเกลี้ยกล่อมให้ฝ่ายฮอกวอตส์ยอมแพ้
เนวิลล์แสดงความกล้าหาญอย่างยิ่งยวดในการต่อต้านโวลเดอมอร์ และเมื่อสบโอกาสแฮร์รี่ที่แสร้งตายจึงผละลงจากอ้อมแขนของแฮกริด และพยายามล่อโวลเดอมอร์ออกจากฝูงชน ...
การปะทะกันจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง และครอบครัวมัลฟอย + ผู้เสพความตายบางส่วน ละทิ้งการต่อสู้
การเผชิญหน้ากัน บางส่วนเกิดขึ้นในห้องโถงใหญ่ ... นางวีสลีย์ดวลกับเบลลาทริกซ์ และสามารถปราบฝ่ายหลังลงได้ สิ้นทหารเอกคนสุดท้ายของโวลเดอมอร์ (ผู้ชมในโรงปรบมือกันกราว ... แต่ผมกลับนึกใจหาย)
แฮร์รี่กับโวลเดอมอร์เปลี่ยนที่ดวลกันตั้งแต่ชานบันไดหินอ่อน  ระเบียงใต้เชิงเทิน และสุดท้ายที่สนามนอกตัวปราสาท
ส่วนนากินีถูกเฮอร์ไมโอนี่ล่อไว้อีกทาง จึงทำให้มันอยู่ห่างจากโวลเดอมอร์มากยิ่งขึ้น
ขณะที่งูกำลังจะทำร้ายเฮอร์ไมโอนี่ รอนก็เข้าปกป้องอย่างที่สุด ... และสบโอกาสเนวิลล์ก็หวดใบดาบกริฟฟินดอร์ฟันฉับเข้าที่คองู (ผู้ชมปรบมือชอบใจอีกครั้ง ... และผมก็ใจหายอีกครั้งเช่นกัน)
เมื่อนากินีตายซึ่งโวลเดอมอร์ก็รับรู้ได้ว่าตัวเองไม่มีฮอร์ครักซ์เหลืออยู่แล้ว  วาระสุดท้ายของโวลเดอมอร์ก็มาถึง
ขณะที่ทั้งสองกำลังยิงคาถาต้านกันอยู่นั้น เมื่อนากินีตาย โวลเดอมอร์หยุดชะงัก และเมื่อกลับมายิงคาถาใส่กันอีกครั้ง ... คาถาจากไม้เอลเดอร์ในมือโวลเดอมอร์กลับถดถอยลง เนื่องจากไม้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้านายที่แท้จริง
และเมื่อแฮร์รี่ใช้คาถาปลดอาวุธ คำสาปจึงสะท้อนกลับไปหาตัวโวลเดอมอร์เอง
และนี่คือวาระสุดท้ายของเจ้าแห่งศาสตร์มืดที่ค่อย ๆ สลายร่างไป พร้อมกับเพลง Voldemort's End ...
(ตอนนี้ผู้ชมในโรงพากันเงียบกริบ ซึ่งไม่รู้ว่าจะรู้สึกเหมือนตัวเองหรือเปล่า คือ รู้สึกโหวง ๆ และขนลุก เมื่อเห็นตัวละครที่ชอบมากที่สุดตายลง
คงไม่ว่ากันนะฮะ ที่จะสงสารและไม่อยากให้โวลเดอมอร์ตาย TT^TT)

จุดสุดท้ายของเรื่องราวทั้งหมด ... แฮร์รี่อธิบายให้เพื่อนทั้งสองว่าแท้จริงแล้วตัวเขาเองเป็นฮอร์ครักซ์
และทำไมคาถาจากไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์จึงไม่ทำร้ายตน ... จากนั้นจึงหักไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์แล้วโยนมันทิ้งไป

ซีนสุดท้าย คือ บทส่งท้ายของหนังสือ "19 ปีต่อมา"
เมื่อแฮร์รี่และจินนี่พาลูก ๆ ทั้งสามคนไปยังชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ เพื่อส่งเจมส์ และอัลบัสซึ่งจะเริ่มปีแรกที่ฮอกวอตส์
พร้อมกันนั้นรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ก็มาส่งลูกสาว ... รวมถึงเดรโกที่มาส่งลูกชาย (แต่เราไม่ได้เห็นหน้าเจ้าหนูสกอร์เปียส)
ก่อนขึ้นรถไฟอัลบัสถามพ่อว่า จะคิดอย่างไรถ้าตนถูกคัดสรรไปอยู่บ้านสลิธีริน ... ซึ่งผู้เป็นพ่อให้คำตอบแก่ลูกชายได้ดีทีเดียว
และซีนสุดท้าย มิตรภาพระหว่างเพื่อนตั้งแต่เด็ก เราจะได้เห็นแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ ในวัยผู้ใหญ่ยืนเคียงคู่กันอีกครั้งและเฝ้ามองขบวนรถไฟที่แล่นออกไป ...



แล้วทุกอย่างก็จบลง พร้อมกับเสียงปรบมือสนั่นโรงภาพยนตร์จากผู้ชมกว่า 100 ชีวิตที่ชมกันแบบมาราธอนข้ามวัน ข้ามคืน
แต่ทว่าความประทับใจจะยังคงอยู่ตลอดไป ...




ความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับหนังภาคสุดท้ายนี้ คือ "อลังการ" และ "สุดยอดมาก" ฮะ ในเรื่องของการเก็บเนื้อหาส่วนใหญ่ (ย้ำว่าส่วนใหญ่) และดัดแปลงได้ค่อนข้างลงตัว
ซึ่งถ้าว่ากันตามเนื้อหาของหนังสือ ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้สมบูรณ์กว่าทุก ๆ ภาค และเป็นการปิดฉากเรื่องราวได้ดี
ฉากสำคัญของเรื่องที่อยากดูและก็ได้ดูแล้วก็คือ "เรื่องเล่าของเจ้าชาย" ที่เกือบจะน้ำตาไหลพราก (แค่คลอ ๆ)
และ "คิงส์ครอส" ที่ทำออกมาได้ตามหนังสือเป๊ะ แทบทุกประโยคคำพูด (เห็นดัมเบิลดอร์แวบแรก ชวนให้นึกถึงพ่อมดแกนดัลฟ์เลยทีเดียวเชียว 55+)

สิ่งที่อยากเห็นเพิ่มเติมก็คือ ครีเชอร์ที่นำเหล่าเอลฟ์ประจำโรงเรียนออกมาช่วยต่อสู้ ...
ภาพเอลฟ์ชราถือมีดวิ่งออกมาพร้อมกับฮอร์ครักซ์ปลอมกระเด้งกระดอนอยู่บนอกคงน่ารักทีเดียว
รวมถึงเหล่าเซ็นทอร์และบัคบีคที่นำพวกเธสตรอลเข้ามาช่วยสู้กับยักษ์ คงทำให้สงครามดูยิ่งใหญ่ไม่น้อย
เพราะสงครามครั้งนี้ไม่เพียงแต่เดิมพันด้วยชะตาของผู้วิเศษ  แต่มันหมายถึงความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ด้วย

และที่ผิดหวังเล็ก ๆ ก็คือ เหมือนถูกหนังตัวอย่างหลอกยังไงไม่รู้ = ='
คือ จะมีซีนนึงที่โวลเดอมอร์ปล่อยผ้ามาพันตัวแฮร์รี่ไว้ (ขอเรียกว่าซีนนางพญางูขาวละกัน ^^)
โวลเดอมอร์จะบีบหน้าแฮร์รี่ไว้แล้วถามว่า "Why do you live" (ทำไมแกถึงไม่ตาย อะไรประมาณนี้)
แล้วแฮร์รี่ตอบประมาณว่าเขามีค่าเพียงพอที่จะมีชีวิตอยู่ ... จากนั้นโวลเดอมอร์ถึงผลักแฮร์รี่กระเด็น
คิดว่าซีนนี้คงจะดุเดือดและสำคัญดีไม่น้อย ... ซึ่งน่าจะเอามาใส่ไว้ด้วยน่ะฮะ



ส่วนความคลุมเครือในเนื้อหาบางส่วนที่หาคำตอบหรือที่มาที่ไป และที่แตกต่างจากหนังสือก็คือ
      - แฮร์รี่ได้เศษกระจกเงามาอย่างไร? ถ้าในเมื่อมันเป็นส่วนที่แตกออกจากกระจกชิ้นใหญ่ที่อยู่กับอาเบอร์ฟอร์ธ
      - หางหนอนตายหรือไม่? เพราะครั้งสุดท้ายหางหนอนโดนคาถาที่ด๊อบบี้เสก แล้วล้มลงที่คุกใต้ดินของคฤหาสน์มัลฟอย
      - มีซีนกริ๊บฮุกบอกว่าสเนปเป็นคนนำดาบปลอมไปเก็บไว้ในห้องนิรภัยของเบลลาทริกซ์  แต่ความทรงจำของสเนปไม่มีซีนภาพเหมือนของฟินีแอสมาแจ้งที่อยู่ของพวกแฮร์รี่ ... แล้วสเนปหาพวกแฮร์รี่เจอและมอบดาบได้ยังไง?

      - โวลเดอมอร์ซึ่งจริง ๆ แล้วจะไม่รู้สึกเลยตอนฮอร์ครักซ์แต่ละชิ้นถูกทำลายและจะต้องออกเดินทางไปตรวจดูที่ซ่อนแต่ละแห่ง ...
แต่หนังทำออกมากลายเป็นโวลเดอมอร์สามารถรับรู้ได้ว่าฮอร์ครักซ์ชิ้นไหนถูกทำลายและชิ้นไหนปลอดภัย และคิดถึงชิ้นที่อยู่ที่ฮอกวอตส์
ตรงนี้ค่อนข้างโอเคฮะ เพราะมันช่วยร่นระยะเวลาและทำให้คนดูเข้าใจได้ง่ายขึ้น

      - กระท่อมเปลือกหอย เป็นเรือนหอของบิลกับเฟลอร์ ... แต่บิลบอกว่ามันเป็นบ้านของป้า
      - ตอนแฮร์รี่พูดกับลูปินในป่าต้องห้าม ... แฮร์รี่รู้ได้อย่างไรว่าลูปินมีลูกชายกับท็องส์?

      - คาถาที่เหล่าอาจารย์ + นางวีสลีย์เสกคุ้มครองปราสาท มีอยู่คาถานึงที่ท่องว่า "รีเพลโล อิมินีคัม"
ดูเหมือนว่าจะเอาสองคาถามารวมกัน คือ คาถาไล่มักเกิ้ล (รีเพลโล มักเกิลตัม) กับ คาถาคาเว อิมินีคัม

      - แฮร์รี่หักไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ทิ้ง!!~  นี่สรุปว่าซ่อมไม้ฮอลลี่แล้วเหรอ? หรือว่าจะใช้ไม้ฮอว์ทอร์นต่อไป เลยไม่ซ่อมไม้ฮอลลี่

      - มีการเปลี่ยนที่เสียชีวิตของสเนปมาเป็นโรงเก็บเรือหลังปราสาท (ซึ่ง เจ.ค. เห็นชอบด้วย)
อันนี้ไม่แน่ใจว่าคงจะให้สอดคล้องกับคำพูดของเนวิลล์ที่บอกว่าเส้นทางลับทั้ง 7 ถูกปิดตายหมดแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทางเชื่อมจากต้นวิลโลว์จอมหวดไปเพิงโหยหวน หรือเปล่า?
 แต่คิดว่าเพิงโหยหวนเหมาะกว่าเยอะฮะ ...

      - ซีนโวลเดอมอร์เดินผ่านศพในคฤหาสน์มัลฟอยซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ของกริงกอตส์และก๊อบลิน อันนี้ตรงกับหนังสือตอนที่กริงกอตส์ไปส่งข่าวเรื่องห้องนิรภัยของเบลลาทริกซ์
แต่กริ๊บฮุกนี่เขาหนีรอดไปได้นะ ... ส่วนหนังทำให้คิดได้ว่ากริ๊บฮุกคงถูกจับได้ แล้วถูกพาตัวไปหาโวลเดอมอร์

      - รอนที่สามารถเปิดห้องแห่งความลับได้ และพูดติดตลกว่าได้ยินบ่อยตอนแฮร์รี่ละเมอ ... อันนี้คาดไม่ถึงจริง ๆ แฮะ ...
      - แฮกริดโดนจับได้ยังไง? ... ตามหนังสือรู้สึกว่าตอนพวกแมงมุมมาร่วมรบแฮกริดจะโดนพวกมันลากเข้าป่าต้องห้ามไป ... แต่นี่อยู่ ๆ แฮกริดก็ถูกมัดไว้แล้ว
      - ชาลีไม่ได้มาร่วมรบ ... และไม่มีการอพยพนักเรียนที่ไม่สามารถสู้ได้ เช่น พวกปี 1 ออกจากปราสาท
      - ลาเวนเดอร์ บราวน์ ถูกเกรย์แบ็กกัดตาย ... ซึ่งในหนังสือเธอแค่อ่อนเปลี้ยเท่านั้นเอง
      - ขณะคุยกันอยู่ในร้านหัวหมู ... อาเบอร์ฟอร์ธรู้ได้ยังไงว่าดัมเบิลดอร์มอบหมายภารกิจให้แฮร์รี่ตามล่าฮอร์ครักซ์
      - โครงกระดูกบาซิลิสก์เหมือนอย่างกับซากฟอสซิลไดโนเสาร์แน่ะ ... จริง ๆ แล้วบาซิลิสก์ก็ตายได้แค่ 5       - 6 ปีเอง มันก็น่าจะเหลือเศษเนื้อหนังอยู่บ้างล่ะน่า ...
      - ดูเหมือนว่าคำทำนายของทรีลอว์นีย์ที่สเนปได้ยินนั้นไม่ใช้คำทำนายเกี่ยวกับผู้ปราบโวลเดอมอร์ ... แต่พูดถึงการที่ทาสรับใช้ (หางหนอน) จะหาโวลเดอมอร์พบ และพากลับมาอีกครั้ง
      - โวลเดอมอร์ไม่ได้เสกกรงมนตราขังนากินีไว้ ... แต่ใช้การเสกคาถาป้องกันไว้แทน (เดาจากแฮร์รี่และรอนยิงคาถาใส่งู แต่คาถากลับลื่นไถลออกไป)


นอกจากนี้ยังมีอะไรบางอย่างแปลก ๆ พิกลด้วย เช่น ...

      - คนที่เสกไฟนรกในห้องต้องประสงค์ แท้จริงแล้วคือ แครบ และนักแสดงที่รับบทเป็นแครบนั้นเราก็คุ้นหน้ากันมาตั้งแต่ภาค 1 ...
แต่ใน 7.2 กลายเป็นว่าเขาชื่อ กอยล์ ซะงั้น = =! (End Credit ระบุว่าเป็นตัวละครชื่อ Gregory Goyle)

      - ลูน่า เลิฟกู๊ด ที่มาอยู่ในห้องต้องประสงค์ ... ซึ่งที่จริงแล้วเธอถูกส่งกลับจากกระท่อมเปลือกหอย และกลับมายังฮอกวอตส์ภายหลังจากการเรียกรวมตัว

      - โช แชง รวมถึงแคตี้ เบลล์ และลีแอนน์ เพื่อนของเธอ เรียนซ้ำชั้นเหรอ? เพราะเธอทั้งสามคนใส่ชุดนักเรียนในและอยู่ในห้องต้องประสงค์รวมกับนักเรียนอื่น ๆ
ทั้งที่สามคนนี้อายุมากกว่าแฮร์รี่ 1 ปี และจะต้องจบการศึกษาไปตั้งแต่จบภาค 6 แล้ว ... และพวกเธอจะกลับมาอีกครั้งเมื่อถูกเรียกตัวต่างหาก

      - จินนี่เปลี่ยนชุดเร็วมาก!!~ ... ตอนเจอแฮร์รี่ในห้องต้องประสงค์ จินนี่ใส่ชุดปกติ ... แต่พอสเนปเรียกประชุม จินนี่ใส่ชุดนักเรียนเรียบร้อยยืนอยู่ข้างเชมัส
และหลังจากสเนปหนีไป ... แพนซี่ พาร์กินสันจะจับตัวแฮร์รี่ จินนี่ก็ออกมายืนกันแฮร์รี่ไว้  แต่เธอกลับเปลี่ยนไปใส่ชุดเดิมที่ใส่ในห้องต้องประสงค์อีกครั้ง


      - แผลของคุณฟิลช์ก็หายได้เร็วมากเช่นกัน ... ตอนแฮร์รี่กลับจากโรงเก็บเรือ ในห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บและศพคนตาย
ในตอนนั้น จะเห็นว่าคุณฟิลช์มีแผลที่ไหล่ซ้ายและซลักฮอร์นกำลังรักษาแผลให้ ... แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง สงครามจบคุณฟิลช์กลับถือแปลงขัดพื้นขึ้นมากวาดเศษหินได้เหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น
ขนาดรอนค้างครึ่งหลังจากหนีออกจากระทรวงยังต้องเอาแขนแขวนคออยู่ตั้งนาน ... แต่คุณฟิลช์กลับหายได้ในไม่กี่ชั่วโมง


      - การหายตัวในฮอกวอตส์นั้นไม่สามารถทำได้ ... แต่เดรโกสามารถหายตัวตอนรั้งคอเสื้อแครบกับซาบินี่ ... และโวลเดอมอร์เองก็หายตัวจากตีนบันไดขึ้นไปชั้นบนตอนดวลกับแฮร์รี่

      - กฏการใช้งานห้องต้องประสงค์ คนนอกจะเข้าห้องไม่ได้ ถ้ายังมีคนอยู่ข้างใน ... แต่จินนี่เข้าห้องได้ตอนแฮร์รี่มาถึงและมีนักเรียนอยู่เต็มห้อง (มีเสียงประตูปิด)
รวมถึงตอนแฮร์รี่กลับเข้าห้องต้องประสงค์ไปหารัดเกล้า ตอนนั้นประตูปิดไปแล้ว แต่เดรโกกับผองเพื่อนก็เข้าห้องได้ แถมรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ยังตามเข้าไปได้อีก

      - การมอบความทรงจำ จากภาคก่อน ๆ จะเห็นว่าเป็นเส้นใยสีเงินที่ดึงออกมาจากขมับ ... ส่วนกรณีของสเนปหนังสือบอกว่าเส้นใยสีเงินไหลรินออกจากปาก หู ตา
ซึ่งหนังทำออกมาเป็นน้ำตาสีขุ่น ๆ  อันนี้เข้าใจได้ ... แต่แฮร์รี่น่าจะใช้ไม้กายสิทธิ์แตะแล้วช้อนมันขึ้นมา เพราะมันดูนุ่มนวลกว่าเอาขวดแก้วไปจ่อตาสเนปเยอะเลย (เหมือนอย่างตอนกุมมือซลักฮอร์นในภาค 6)



ด้านการแสดง เราจะได้เห็นมักกอนนากัลเปลี่ยนคาร์แรคเตอร์มายิงมุกตลก ตอนใช้คาถา ปีเอร์โททัม โลโคมอเตอร์ ... (แบบว่าแกอยากทำอย่างนี้มานานแล้ว ^^)
และตอนจัดวางกำลัง ให้เนวิลล์ปรึกษาเชมัสเรื่องระเบิด อันนี้สมกับความเป็นอาจารย์ของเธอจริง ๆ ที่จดจำพฤติกรรมของนักเรียนได้  แล้วก็ตอนเธอทำเสียง บู้มมมมม~ นั่นอีก 55+
(ในที่สุดที่เชมัสหน้าดำตั้งแต่ตอนเสกคาถาวิงการ์เดียมใส่ขนนกกับตอนเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้ารัมในภาค 1 และตอนหม้อปรุงยาระเบิดในภาค 6 ก็ไม่เสียเปล่า ^^)

เฮเลนน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ ฉีกบทเบลลาทริกซ์จอมโหด มาเล่นตลกได้น่ารักดีฮะ ... ตั้งแต่ตอนเธอไม่มั่นใจก่อนหายตัวไปกริงกอตส์ และเมื่อเบลลาทริกซ์มีปัญหากับส้นรองเท้า ^^

ราฟฟ์ ไฟนส์ กับบทบาทโวลเดอมอร์ ที่ดูร้ายและอันตรายกว่าภาคก่อน ๆ ... แล้วก็แสดงให้เห็นว่าโวลเดอมอร์เริ่มเปราะบางและหวาดกลัวมากแค่ไหน

และอีกคนสำคัญ คือ อลัน ริคแมน หรือสเนปที่ตีบทแตกกระจายในซีนมอบความทรงจำให้แฮร์รี่ และตอนทรุดตัวหลังจากพบศพหญิงคนรัก ...



ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ... มีที่เพราะและออกเศร้าหลายเพลงฮะ และส่วนใหญ่เป็นธีมที่คล้าย ๆ กัน เช่น
      - Lily's theme  ตอนหนังเปิดตัว
      - Dragon Flight  ตอนหลบหนีออกมากับมังกร
      - Statues  ตอนมักกอนนากัลเสกคาถาปลุกรูปปั้นและเตรียมการป้องกันฮอกวอตส์  อันนี้ระทึกใจดี
      - Snape's demise  ซีนสเนปตาย
      - Severus and Lily  ซีนแฮร์รี่ดูความทรงจำของสเนป และช่วงท้าย ๆ ความทรงจำมีการนำเพลง Dumbledore's Farewell จากภาค 6 มาใช้ ... ซึ่งเพลงนี้บีบอารมณ์แบบสุด ๆ
      - Harry's sacrifice  ในตอนแฮร์รี่คิดสละชีพ (ซึ่งฟังคล้าย ๆ เพลง Obliviate ใน 7.1)
      - The resurrection stone  ในซีนพบครอบครัวในป่าต้องห้าม
      - Harry surrenders  ตอนแฮร์ยอมรับความตายแล้วเดินไปหาโวลเดอมอร์
      - Voldemort's end  ตอนโวลเดอมอร์สลายร่าง (3D สวย + เพลงประกอบชวนขนลุกมาก)
นอกจากนี้เราจะยังได้ยินเพลงหลักอย่าง Hegwig's theme ด้วย


ส่วนของ 3D ... เฉย ๆ ฮะ
มีแล้วช่วยให้ภาพสวยขึ้น อันนี้จริง แต่เป็นบางฉาก เช่น ฉากเปิดความทรงจำของสเนปที่ลิลี่กับสเนปนอนคุยกันใต้ต้นไม้ริมน้ำ,
ฉากโวลเดอมอร์สลายร่าง (คิดว่าเป็นฉากเดียวที่ภาพนูนออกมานอกจอ) และฉากปะทะคาถากัน
แต่นอกจากนั้นออกจะดูธรรมดามาก โดยเฉพาะช่วงตอนที่อยู่ในกระท่อมเปลือกหอย
และฉากที่ต่อสู้กันตอนกลางคืน เป็นอะไรที่มืดมาก ตัวละครแทบจะกลืนไปความมืดไปเลยทีเดียว (ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นที่แว่นสามมิติหรือเปล่า)
สรุปคือ 3D มีแล้วภาพสวยจริง ... แต่จำเป็นไหม? ส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นฮะ ...


ความรู้สึกหลังจากดูจบ ... ตอนแรกคือตื่นตาตื่นใจดี ...
แต่ว่าหลังจากนั้น ความรู้สึกเหมือนตอนหนังสือเล่ม 7 จบ ไม่มีผิด ... คือรู้สึกเหมือนใครสักคนที่เรารู้จัก แต่จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว TT^TT


อืมม~ ยาวดีแท้ (ไม่ได้เขียนกระทู้ยาวแบบนี้มานานแล้วนะเนี่ย ^^!)
ยังไงนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งจากความเห็นและที่ได้สัมผัสมานะฮะ ... อาจจะขาด ๆ เกิน ๆ หรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ 55+
ถ้ามีโอกาส ก็ขอเชิญชวนให้ไปชมกันเยอะ ๆ นะฮะ  เรามาร่วมปิดตำนานไปด้วยกัน

คำพูดสุดท้ายก่อนจบ ก็คือ "หนังสือจบไปแล้ว  หนังก็จบตามไป ... แต่ที่ยังคงอยู่ก็คือ เรื่องราวและความประทับของ 'แฮร์รี่ พอตเตอร์' ที่จะยังคงโลดแล่นอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป" ... จริงมั้ย? ^^

[Tarariw]

เพิ่งไปดูมา รอบแรก 3D บอกได้คำเดียวว่า "สุดยอดดดดดดดด" จบได้แบบ ประทับใจมาก
เฮ้อ~ ตอนนี้คิดแล้วใจหาย จะไม่มีพ่อมดน้อยแฮร์รี่แล้วเหรอ

[จินนี่พอตเตอร์]

สนุกมากกกกกกกกกก จริง ๆ ค่ะ 
แต่ ... โคตรจะใจหายเลย ต่อไปนี้ไม่มีอีกแล้ว
นั่งดุหนังไป นั่งร้องไป คิด ๆ แล้วมันเศร้ามากน่ะ ที่ต้องจบ
แต่ก้รู้ .. ขนาดงานเลี้ยงยังมีวันเลิกราเลย

แต่ที่รู้ ๆ แฮร์รี่ตอนไม่ใส่แว่นในเรื่อง หล่อมาก ถึงมากที่สุด ฮ่าๆ
แล้วลูกแฮร์รี่ที่ชื่อ  อัลบัส เซเวอร์รัส พอตเตอร์ น่ารักมาก หุหุ แอบปลื้มเลย


สรุป ก้สนุก ประทับใจมากนะคะ ><

[littleprince]

  สนุกมาก ชอบภาคสุดท้ายนี่ที่สุดเลย ยิ่งใหญ่สมการรอคอย

[kattay123]

เสียดาย ที่ตรังไม่มีระบบ 3D

[~OrenjI~]

กลับมาถึงบ้านแล้ว  ..  ก็ล้มตัวลงนอน  กอดหมอนน้ำตาพรั่งพรู  (ไอ้อันหลังนี่ไม่เกี่ยวมั้ง)

กลับมาแล้วค่ะ  กลับมาจากงานมีทติ้งเล็กๆ ของครอบครัว PSW  เรียบร้อยแล้วค่ะ
กลับมาพร้อมกับความรู้สึกอันหลากหลายเหลือเกิน
ดังนั้น!!  ตั้งแต่บรรทัดต่อไปคงมีการสปอย์เป็นระยะๆ  ใครที่ไม่อยากเสียอัธรสในการรับชม HP7.2 ก็อย่าอ่านน่ะค่ะ



[hide]
นับตั้งแต่นาทีแรกที่ได้อ่านคอมเมนท์จากสมาชิกในพันธ์ทิพย์ที่ได้ดู HP7.2  (ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนที่เข้าร่วมดูหนังมาราธอน)
และคอมเมนท์ใน FB หลังจากการเข้าฉายวันแรก
บอกตามตรงว่าตื่นเต้นมากถึงมากที่สุด  ซึ่งมันมาพร้อมกับความคาดหวังอย่างยิ่งยวด
และเป็นสัจธรรมของทุกสรรพสิ่งที่คาดหวังแล้วย่อมผิดหวัง  5 5 5 +
เนื้อเรื่องโดยรวมแล้วค่อนข้างจะผิดหวังกับเก็บรายละเอียดโน้นนี่นั้น
ตัวละครหลายตัวหายไปอย่างไรร่้องรอย  และเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นกันตัวละครสำคัญอย่างแฮรกริดก็ไร้เนื้อหาสนับสนุนที่ชัดเจน
หรือแม้แต่ซีนสะบัดบ๊อบแล้วจากของเดรโก และครอบครัวมัลฟอย  ...  แบบว่าจากกันง่ายๆ กันแบบนี้เลยทีเดียว
ทำให้เกิดคำถามว่าท่านผู้กำกับแบ่งพาร์ททำไม ?
ถ้าไม่แบ่งพาร์ทแล้วทำหนังยาวไปเลย  มันจะช่วยให้เข้าใจ  และอินมากกว่านี้
เลยกลายเป็นว่า  HP7.2 เป็นส่วนเกินที่ยัดไม่ลงอะไรแบบนั้นไปเลย
หรือเก็บไว้ทำเป็น 3D, 4D, 5D  ในภายหลัง  เหอๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
โดยภาพรวมของเนื้อหาแล้วประทับใจ HP7.1  มากกว่านิดนึง 

จริงๆ ถ้าไม่มีป๋าเนบมาช่วยเนี่ยะ   ...  ประเด็นการเก็บรายละเอียด HP7.1 จะนำไปเยอะกว่านี้
จะบอกว่าซีนของสเนปน่ะร้องไห้มากกว่าซีนด็อบบี้เยอะมากที่เดียว  คือ  ร้องไห้เลย  ไม่ใช่แค่น้ำตาไหลเฉยๆ อ่ะค่ะ
ร้องไห้มาตั้งแต่ตอนอ่านหนังสือแล้วค่ะ  ประทับใจความมั่นคงในความรักของป๋าแกมากๆ ในโลกจะมีคนแบบนี้เจอสักกี่คน
แค่เพียงประโยคเดียวของปู่ดัม    "แกมีดวงตาเหมือนแม่"    (จำเป๊ะๆ ไม่ได้)  ...  แค่นั้นเอง ~
แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ใครคนนึงกลับตัวกลับใจ  และพร้อมที่จะปกป้องลูกชายอันเป็นที่รักของคนที่ตัวเองรักจนสุดชีวิต
ซึนที่ป๋าเนปแกกอดศพลิลี่แล้วร้องไห้ และซีนที่ป๋าเนปพูดกับปู่ดัมว่า  "ปกป้องแกเพื่อให้มาตายทีหลัง"  (จำแบบเป๊ะๆ ไม่ได้อีกแล้ว)
เป็นอะไรที่กระชากใจมาก  ทรมานใจเป็นเพื่อนป๋ามากมายค่ะ  ...  ถ้าป๋าไม่เป็นคนดีหลบในแบบนี้คงมีคนสรรเสริญป๋ามากกว่านี้เยอะเลย
แต่ยังไงหนูก็คิดว่าป๋าเป็นคนดีมากตั้งแต่ภาคหนึ่งแล้วน่ะฮร้า ~

อีกประเด็นที่เข้ามาช่วย HP7.2 ได้เป็นอย่างดี  คือ special effect   ...   สวดยอดดดดดด~
อลังการมาก  และสวยมากจริงๆ  ...  แถมสีหนังก็สวยได้อีก  สวดยอดดดดดดดด~ (อีกที)


แม้เนื้อเรื่องโดยรวมไม่โดนใจเท่าไหร่   ...  แต่แอบมีซีนประทับใจเหมือนนะตะเอง
ซึ่งซีนแรกคงต้องยกให้  "ซีนความทรงจำของสเนป"    ...  เอาไปเลย  1,000,006  เต็ม  10  (ไม่ลำเอียงสัดนิด !!)

ซึนต่อสู้ระหว่างท่านลอร์ด กับ แฮร์รี่ พอตเตอร์  ..  special effect  สุดยอดดีค่ะ
แม้จะรู้สึกว่าช่วงที่ยกพลเข้าโรงเรียนแอบคล้าย LOTR นิดนึงก็ตาม

ต่อมาก็เป็นซีนน่ารักๆ อย่างตอนที่เนวิลล์บอกรักลูน่าผ่านแฮร์รี่  ..  หรือหลังจากที่ต่อสู้ภายในประสาทกับเสร็จ  แล้วทั้งคู่มานั่งกันที่ขึ้ันบันได
ืถือว่าเป็นซีนที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นแต่ก็ได้เห็น  ...  และก้รู้สึกดีกว่าที่จะไม่ได้เห็นซ่ะเลย  งงกันไหมคะ ?   5 5 5 +

ซีนที่น้องเฮอร์แปลงเป็นเบลลาทริกซ์  แล้วมีปัญหากับร้องเท้าส้นสูง
เป็นเครื่องยืนยันว่าถึงตัวจริงป็าแกจะเพี้ยนไม่แตกต่างตากเบลลาฯ ใน HP  ...  แต่แกเป็นนักแสดงจริงๆ น่ะเธอว์ ~

ซีนที่ ศจ. มักฯ  เสกคาถาอะไรสักอย่าง  แล้วมีทหารหินกระโดดลงมา
แล้วหันไปบอกกับมอลลี่ว่าเป็นคาถาที่ตัวเองอยากใช้มาตั้งนานแล้ว
ก็เลยคิดว่า ศจ. มักฯ  แกน่าจะใช้ตั้งแต่ป้าอัมฯ เข้าโรงเรียนซ่ะเลย  (เดี้ยนยังคงหมั่นไส้อีป้าอยู่)

ซีนที่คุณฟิลช์เธอกำลังกวาดพื้นหลังจากเสร็จสิ้นกันต่อสู้
ปกติไม่เคยประทับใจอะไรตาคนนี้เลยสักครั้ง
อ่ะ! ไม่จิ  มีครั้งเดียวที่ประมับใจปนฮา คือ ตอนที่คุณแกใส่สูทช่วงที่ป้าอัมฯ เข้าโรงเรียน
คุณฟิลช์อาจจะไม่ใช่คิดดี  แต่เขารักโรงเรียนของเขา  รักงานของเขาจริงๆ น่ะ

ซีน 16 ปี แห่งฟามหลังงงงง~
ไม่ใช่ซักหน่อย  ....  วอน (มารัก) แล้วไง 
ซีน 19 ปีค่ะ   ลูกๆ น่ารักมาก   ..  จริงๆ เคยเห็นภาพดาราเด็กที่มาเล่นเป็นลูกอยู่ก่อนแล้วเหมือนกัน  แต่เห็นอีกทีก็กรี๊ดอีกที  และหลายที
โดยเฉพาะพ่อหนูอัลบัส เซเวอร์รัส พอตเตอร์    แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย~   
ถ้าพ่อรอนเขาห่วงลูกสาวไม่อยากให้ดองกับครอบครัวมัลฟอยนัก
น้องสกอฯ ค่ะ   ...  หนูอัลบัสฯ เธอว่างมากถึงมากที่สุด  (แล้วแกรู้ได้ไง (ว่ะ) ค่ะ)

และตามธรรมเนียมสาววาย  ...  มันต้องด้วยซีนที่ชวนให้จิ้นอย่างยิ่งยวด (คนอื่นๆ อาจไม่จิ้น  แต่เดี้ยนไปไกลแล้วค่ะพี่น้อง)
ซีนที่แฮร์รี่ย้อนกลับไปช่วยเดรโกนั่นแหละ
ความรัก (แบบวายๆ) มันช่างงดงามเสมอค่ะพี่น้อง    [/hide]



ความรู้สึกหลังจากที่ดูจบเป็นอย่างไร
บอกตามตรงว่ารู้สึกเฉยมากๆ  ทั้งที่ยังร้องไห้ตามเอ่มม่าในวันเปิดพาร์ทสุดท้ายที่ลอนดอนอยู่เลย
กลายเป็นว่าความรู้สึกผูกพันธ์มาตกอยู่ที่ PSW และสมาชิก PSW ซ่ะแทน  ...  อยากจะบอกว่า 

"ยินดีที่ได้รู้จักกับน้องๆ และพี่ๆ ทุกคน และขอบคุณมากๆ สำหรับบ้านหลังนี้ที่ไม่ยิ่งใหญ่เท่าใคร
แต่ก็ทำให้เสียน้ำตาไปไม่น้อย  พร้อมๆ กับที่ได้เรียนรู้ธรรมชาติของมนุษย์ไปด้วย
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียนรู้เรื่องต่างๆ ผ่านสัมผัสทั้ง 5   ..  ไม่ใช่อย่างใดอย่างนึง
และยิ่งถ้าเราต้องการที่จะสร้างมิตรภาพที่ดี สร้างครอบครัวที่ดีด้วยแล้วยังต้อง + 1 หัวใจเข้าไปด้วยค่ะ"

~  ขอบคุณค่ะ ~

ปล. ขออนุญาตวิบัติค่ะ

[หมั่นโถว]

อยากบอกว่าตอนก่อนจะไปดูรู้สึกตื่นเต้น
แต่พอดูจบก็รู้สึกประทับใจ + ใจหายยังไงก็ไม่รู้
แต่อยากจะบอกว่าภาคนี้เป็นอะไรที่เพอร์เฟคสุดๆเลยค่ะ
ไม่มีหนังเรื่องไหนดูแล้วอินเท่าเรื่องนี้เลย
มันตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบ
บอกได้คำเดียวว่า"สุดยอด"จริงๆค่ะ

ปล.พี่ยูเก็บรายละเอียดได้ครบดีจังเลยค่ะ อ่านแล้วเหมือนกับว่านั่งดูแฮร์รี่รอบสองเลย^^

[love.hogwarts[HP]]

รักเรื่องนี้
ดูมาแล้ว สนุกมากก แต่7.2 เวลาหนังมันจบเร็วไปนะ มันรวบรัดไป
แต่สนุกค่ะ

 ขอบคุณ เจเค ขอบคุณผู้สร้าง ขอบคุณนักแสดงทุกคน

[buttercake]

ไปดูมาเมื่อวานค่ะ
รู้สึกประทับใจ เพราะหนังสนุกมาก และเป็นอะไรที่อลังการสุดๆ เพอร์เฟกต์มากๆ เลยค่ะ
แต่พอดูจบแล้วก็รู้สึกใจหาย เช่นเดียวกับหลายๆ คน
รู้สึกเหมือนกำลังจะจากกับเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เรารู้สึกผูกพันกับเรื่องนี้จริงๆ นะ
แต่ต่อมาจะไม่มีให้ดูแล้ว (อยากให้มีภาคต่อจังTT)

แต่ยังไงก็จะรักแฮรี่ พอตเตอร์ตลอดไปนะ

[yasi]

ชอบสเนป รักจริง อยากเจอคนแบบนี้บ้าง

[kattay123]

ชอบ ไหนฉากมากที่สุด

ส่วนตัวเราชอบทุกฉาก

แต่ที่ชอบมากที่สุดคืนฉาก ศ.มักกอนากัล เสกคาถาเรียกหุ่นแล้วพูดว่า

ฮอกวอทอยู่ในอัตราย วางกำลังให้รอบ ปกป้องพวกเรา ทำหน้าที่ของท่านต่อโรงเรียน

ทำให้เราทราบว่าทุกคนรักโรงเรียนไม่ให้ใครมาทำลาย

[ลม ฟ้า พายุ ...]

       วันนี้ไปดูซ้ำอีกรอบที่ IMAX พารากอน ฮะ ...
       คือ เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าไหน ๆ ก็ภาคสุดท้ายแล้ว ก็ขอดูแบบจอยักษ์บิ๊กบึ้มให้มันสะใจ กระแทกตับไตไปเลยละกัน
       แต่ปรากฏว่าดูหนังไม่เป็นสุขเอาซะเล้ยยยย~ เพราะเจอผีโรงหนังที่แถวข้างหน้า จนคนในแถวเดียวกันนั้นดุเอา ถึงเงียบได้ (ขอปรบมือให้พี่คนนั้นด้วยฮะ)
       พอหมดผีข้างหน้า ... ทีนี้ก็ข้าง ๆ อีก เป็นตาลุงฝรั่ง ท่าทางแกจะเมื่อยมาก นั่งเหยียดแขนชกอากาศตลอด ...
       ถ้าไม่เหยียดแขน ก็นั่งเขย่าขา ตั้งแต่กลางเรื่องยันจบ ... นี่จิตนาการว่าแกนั่งดูโรง 4 มิติหรือไงเนี่ย  ถึงต้องสร้างเอ็ฟเฟ็กต์ช่วย = ='
       เสียค่าบัตรตั้ง 400 แล้วมาเจอแบบนี้ ... เซ็งในอารมณ์มากมายคร้าบพี่น้องงงงงง~ TT^TT
       คนพวกนี้ไม่มีมารยาทเอาซะเล้ยยยย~  จะเกรงใจคนข้าง ๆ มั่งก็ไม่มี ... IMAX นะคร้าบ ไม่ใช่ 4Dx ถึงจะได้มีระบบสั่นเก้าอี้

       ดูเที่ยวนี้ไม่ได้สนใจเนื้อหาหนังมากมายฮะ ... กะว่าจะเสพ 3 มิติจอยักษ์อย่างเดียว เพราะผิดหวังกับ 3D รอบแรกของเมเจอร์ (ที่เคยบอกไปในโพสต์ก่อนหน้าว่าฉากกลางคืนมันมืด ๆ)
       แต่อย่างที่บอกว่าเจอระบบสั่นเก้าอี้ของตาลุงข้าง ๆ ก็เล่นเอาซะเสียสมาธิ ดูไม่เป็นสุข (เพราะด่ามันในใจ) เลยทีเดียว

       ที่เขาบอกว่าจอ IMAX สูงเท่าตึก 8 ชั้น ... อันนี้เชื่อฮะว่าสูงจริง แต่ถึง 8 ชั้นหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้ (คิดว่าคงไม่ถึงหรอก)
       และที่ฉายจริง ๆ ก็ไม่ได้เต็มพื้นที่ของจอทั้งหมด คือ จอ IMAX จะออกคล้าย ๆ สี่เหลี่ยมจตุรัส ไม่เหมือนโรงปกติที่จอเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า
       หนังที่ฉายเต็มขอบจอในแนวนอนก็จริง แต่ไม่เต็มทางแนวตั้ง ... ซึ่งก็คล้าย ๆ ดูในโรงปกติ แต่ภาพใหญ่กว่าเท่านั้นเอง
       ไม่เหมือนตอน TRON Legacy เมื่อปลายปีที่แล้วที่ฉายเต็มจอทั้งหมด (ในบางซีน) ขนาดนั่งแถว F18 ที่อยู่กลางจอที่สุด ยังต้องจะชะโงกหน้าอ่านซับกันเลยทีเดียว
       แต่คราวนี้ได้ที่นั่ง F14 เพราะมัวแต่เอ้อละเหยกินข้าว  เลยพลาดจุดยุทธศาสตร์ที่นั่งเดิมไป TT^TT  (รู้งี้ไปซื้อตั๋วซะก่อนก็ดี จะได้ไม่ต้องเจอระบบสั่นเก้าอี้ (รึเปล่า?))

       สำหรับหนังแฮร์รี่ฯ กับ IMAX 3D ... เที่ยวนี้รู้สึกดีขึ้นกับคุณภาพของภาพฮะ ...
       อย่างที่บอกว่าดู 3D รอบแรก บางฉากที่เป็นตอนกลางคืนมันมืดมากจนแทบไม่เห็นตัวละคร เช่น ซีนโวลเดอมอร์พาผู้เสพความตายไปยืนที่หน้าผา (ก่อนเสกคาถาทำลายเกราะป้องกัน)
       พอมาเป็น IMAX กลายเป็นว่าฉากที่ว่ามืดนั้นดีขึ้นฮะ ไม่กลืนไปกับจอ ... คงเป็นที่แว่นตาสามมิติ เพราะแว่น IMAX จะดูโปร่งแสงกว่า (และใหญ่กว่าด้วย) หรือไม่ก็เทคโนโลยีการฉาย

       ถ้าถามว่าแฮร์รี่ฯ เหมาะกับระบบ 3D หรือทำ 3D ออกมาดีไหม? ...
       ดีฮะ แต่บางซีนที่สวย และคุ้มค่ากับการทำเป็น 3D  เช่น ตอนนั่งรถไฟเหาะลงไปห้องนิรภัย เหวเป็นเหวจริง ๆ
       ภาพมังกรยูเครนกระเพาะเหล็กเต็มตัว,  ซีนผู้เสพความตายระดมยิงคาถาใส่เกราะป้องกัน,  ซีนที่คาถาปะทะกัน และที่ทำให้สะดุ้งถึงสองครั้งก็คือ นากินีฉกสเนป
       และเนื่องจาก (เข้าใจว่า) หนังภาคนี้คงเป็นการถ่ายทำระบบ 2D มาก่อน แล้วค่อยทำ 3D
       ดังนั้นภาพที่ได้ส่วนใหญ่ที่มักจะเป็นมิติลึกเข้าในในจอ  มีไม่กี่ซีนเท่านั้นที่เหมือนภาพจะทะลุออกมา
       เช่น มังกรโผล่หัวขึ้นมา  คิงส์ลีย์ยิงคาถาใส่ผู้เสพความตายแล้วกระจกกระเด็น  โวลเดอมอร์สลายร่าง
       ด้วยการที่ไม่ได้ถ่ายทำในระบบ 3D นี่เอง  จึงทำให้ภาพลึกเข้าไปข้างใน รวมถึงกรณีถ้าหลุดโฟกัส ภาพจะเบลอทันที

       นอกจากนี้ยังมีอยู่ซีนนึงที่ดูแล้วเวียนหัว ก็คือ ตอนทรีโอขึ้นจากน้ำมาเปลี่ยนชุด กล้องจะถ่ายหมุนวน ซึ่งทำเป็น 3D แล้วชวนเวียนหัวดีแท้
       และบางซีนก็ดูหลอก ๆ ตาพิกล เช่น สเนปยืนมองลงมาจากระเบียงใต้หลังคาปราสาท ...

       จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้มีประสบการณ์การดูหนัง 3D มากนักนะฮะ  เพราะดูแค่ Narnia 3 กับ TRON ...
       แต่ถ้ามาเทียบกันแล้ว (ควรจะเทียบดีไหมนี่) ... 3D ของแฮร์รี่ดูธรรมดามากเลยฮะ

       ส่วนซับไตเติ้ล ... เที่ยวนี้ไม่ได้สนใจเท่าไร แต่รู้สึกว่าดู 3 รอบ ... ซับไตเติ้ลไม่เหมือนกันเลยสักรอบ
       3D Majer ฟอนต์ Angsana ตัวหนา ซับนูนเว่อร์,  SFX ฟอนต์ Eucrosia,  IMAX 3D ฟอนต์ Cordia ไม่นูน แถมตัวบางอีกต่างหาก

       เอาเป็นว่า ... สรุปก็คือดูแบบ 3D มันก็ช่วยเพื่ออรรถรสในแง่ความน่าตื่นตาตื่นใจดี ... แต่ไม่ช่วยเพิ่มเติมในเรื่องเนื้อหาอะไรเลยฮะ

       พอกลับบ้าน ... เอาตั๋วหนัง TRON ขึ้นมาดูเพราะเอะใจเรื่องราคา ...
       ปลายปีที่แล้วที่นั่ง F18 ราคา 350 บาท ... แต่วันนี้ดูแฮร์รี่ ที่นั่ง F14 ราคา 400 บาท ...
       แม่เจ้า!!~  แถวเดียวกันแต่ต่างกัน 50 บาท ... IMAX แอบขึ้นราคาใช่มั้ยเนี่ย = ='
       แต่เอาเถอะ ... ไหน ๆ ก็ภาคสุดท้ายแล้ว และก็อาจเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว (มั้ง) ที่จะดู IMAX เพราะตอนนี้ยังไม่มีหนังอะไรที่คิดว่าใหญ่พอที่จะลงทุนดู IMAX
       จริง ๆ จบแฮร์รี่แล้วก็ไม่รู้ว่าจะรอหนังอะไรอีก ... นอกจากฮอบบิท (2 พาร์ท) ปลายปีหน้าโน้นแน่ะ


       พิมพ์มาตั้งนาน ... เหมือนจะบ่น ๆ ซะมากกว่า
       ไหน ๆ ก็แล้วนะ ... ขอบ่นต่ออีกหน่อยละกันนะฮะ เกี่ยวกับโรง AIS 4Dx
       คือ ก่อนหน้านี้ได้อ่านข่าวเจอว่าแฮร์รี่ฯ 7.2 จะเข้าฉายในระบบ 4 มิติด้วย
       แต่ดูจากคิวฉายแล้วมีแต่ ทรานสฟอเมอร์ 3 ... ก็เลยลองถามพนักงานดู กลับได้รับคำตอบว่าแฮร์รี่ไม่ฉายแบบ 4 มิติ ซะงั้น (แล้วจะลงข่าวเพื่อ?)
       แถมโรง 4Dx ก็ใช้วิธีปรับปรุงโรง 5 ของ Paragon Cineplex (น่าจะมี 12 โรงมั้ง) ...
       ดังนั้นขนาดจอก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าเดิม (ตอนแรกนึกว่าจะทำเป็นจอยักษ์เหมือน IMAX) ... แถมยังจุคนเพียง 140 ที่นั่งเท่านั้นเอง  เหอะ ๆ
       ค่าบัตร 500 บาท (เขาว่าเป็นตำแหน่งที่รับเอ็ฟเฟ็กต์มากที่สุด) ... ดู IMAX จอยักษ์จะดีกว่าไหมเนี่ย?



ป.ล. ตอนแรกกะว่าจะกลับมาโม้เรื่อง 3D  แต่เจอมารยาท + ผีในโรงหนังในโรงหนังซะก่อน  เลยบ่นซะยืดยาว  ยังไงก็ข้าม ๆ โพสต์นี้ไปละกันนะฮะ 55+

ป.ป.ล. ขออนุญาตวิบัติฮับ ^^





*ดิท*

       31 กรกฎาคม ... วันนี้ดูอีกรอบนึงฮะที่ IMAX รัชโยธิน
       ถึงแม้ขนาดจอจะเล็กกว่า IMAX พารากอน  แต่ภาพคมกว่าเพราะฉายเป็นดิจิตอล 3D (IMAX พารากอน เป็นระบบฟิล์ม ซึ่งจะมีปัญหาหากฉายซ้ำหลาย ๆ รอบ)
       แถมราคาบัตรยังถูกกว่าตั้งร้อยกว่าบาท และเบาะนั่งก็นุ่มกว่า ที่ว่าด้านหน้าเก้าอี้กว้างกว่า ... ก็ถือว่าคุ้มนะ
       และคราวนี้ได้ดูแบบไม่มีผีรบกวน เลยเสพ 3D ได้เต็มที่ซะที  เย้!!!~

       สรุป ... ภาคนี้ดูในโรงเยอะกว่าภาคไหน ๆ
       รอบ 1 มาราธอน Digital 3D, รอบสองมีทบอร์ดฟิล์มปกติ, รอบสาม IMAX พารากอน และรอบสี่ IMAX รัชโยธิน
       จะว่าไปทั้งสี่รอบนี้เป็น Soundtrack ทั้งหมด  ยังไม่ได้ลองดูพากย์ไทย เอ๊ะ!!~ หรือว่าจะลองอีกสักรอบ (ดูเหมือนจะยังไม่จุใจยังไงไม่รู้แฮะ) ...

[ammy potter]

สนุกมากๆ อยากดูอีกรอบจังเลย

[amiiz]

ไม่อยากให้จบเลย แย่จัง