24/01/52 :: 10 ปีที่จากไปของ ฮิเดะ X Japan สู่การเกิดใหม่
เขียนโดย minere เมื่อ 17 พฤษภาคม, 2007 - 09:50.เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่าน ถือเป็นการครบรอบ 10 ปีที่โลกได้สูญเสีย ฮิเดะโตะ มัตซึโมโตะ มือกีตาร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของวงการวิชวล ร็อกอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งเมื่อ 4 เดือนก่อนหน้านั้น
เขาเพิ่งจะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตเป็นครั้งสุดท้ายกับ X Japan วงดนตรีที่สร้างชื่อในวงการให้กับเขา และเป็นเหตุผลให้ความหวังในการกลับมารวมกันใหม่ ของยอดวงร็อกวงนี้
ไม่ได้รับการพูดถึงขึ้นมาอีกเลย
เหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 1998 ถูกเปิดเผยในภายหลังว่า ในคืนดังกล่าวฮิเดะได้ดื่มฉลองกับเพื่อน ในอพาร์ตเมนต์ของเขา ซึ่งเพื่อนหญิงที่เป็นรูมเมตของเขา เป็นผู้ที่พาเขาขึ้นนอนด้วยตัวเอง
แต่เมื่อเธอกลับไปดูที่ห้องในอีกชั่วโมงต่อมา ปรากฏว่าเขาไม่อยู่ที่ห้องเสียแล้ว จากการรายงานเผยว่า ได้มีการพบร่างของเขาถูกแขวนอยู่กับลูกบิดประตู โดยมีผ้าขนหนูที่ขาดวิ่นเกี่ยวอยู่
ลมหายใจของเขารวยริน ขณะที่รถพยาบาลมาถึง และเสียชีวิต ขณะไปถึงที่โรงพยาบาลด้วยอายุ 33 ปี
จากการเสียชีวิตอันแสนพิสดารดังกล่าว นำมาซึ่งการโต้เถียงถึงสาเหตุที่แท้จริง เบื้องหลังการตาย ทั้งอุปนิสัยที่ชอบทำอะไรพิเรนทร์เพื่อหยอกล้อกับคนอื่น ซึ่งขณะนั้นเขากำลังเมาอยู่พอดี
แต่ตามความคิดเห็นของไทจิ อดีตมือเบสสมาชิกของ X Japan ที่กล่าวไว้ในหนังสือ X no Sei to Shi: Uchuu wo Kaeru Tomo e ของเขาว่า เป็นเรื่องปกติสำหรับสมาชิกของวง X Japan
ทุกคนที่มักจะเอาผ้าขนหนูมาแขวนไว้ที่คอ และไหล่หลังจากเสร็จการแสดงคอนเสิร์ตอันยาวนานในแต่ละคืน เพื่อเป็นการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งฮิเดะก็ชอบทำแบบนั้นจนเป็นนิสัย
จึงเป็นได้ว่า เขาอาจจะลื้นล้มจนขนผ้าขนหนูที่คอ ไปเกี่ยวกับประตูห้องน้ำ จนนำมาซึ่งเรื่องน่าเศร้าดังกล่าว แม้จะมีแฟนหลายคนเห็นด้วยกับข้อสันนิฐานนี้ แต่ก็มีไม่น้อย ที่เลือกจะเชื่อว่า
มันเป็นความตั้งใจของฮิเดะเอง ที่จะยุติชีวิตของเขา แม้ในช่วงที่เส้นทางอาชีพ ในฐานะศิลปินเดี่ยว กำลังพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในขณะนั้น
พิธีศพของฮิเดะจัดขึ้นที่วัด Tsukiji Hongan-ji ในกรุงโตเกียว วันที่ 7 พ.ค. 1998 ที่มีผู้คนเข้ามาร่วมงานถึง 7 หมื่นคน มีการปิดถนน และระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่าร้อยชีวิต
และพนักงานรักษาความปลอดภัยกว่า 170 คน เพื่อควบคุมสถานการณ ์ที่แฟนเพลงที่อยู่ในอารมณ์อันโศกเศร้า ได้มาชุมนุมกันมากมายเช่นนี้ ซึ่งทุกวันนี้อนุสรณ์เล็กๆ และสมุดเยี่ยมในงาน
ยังคงอยู่ภายในวัดดังกล่าว
นอกจากแฟนเพลง และแขกในงานนับหมื่นคนที่ไปร่วมไว้อาลัยกับฮิเดะแล้ว ยังรวมไปถึงสมาชิกที่เหลือของวง X Japan ที่ไปร่วมงานดังกล่าว พร้อมกับการแสดงร่วมกันเป็นครั้งสุดท้าย
ด้วยเพลง Forever Love ที่จะทำให้แฟนเพลง นึกถึงเขาทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้อีกตราบเท่านาน
นับจากวันนั้นชื่อของวง X Japan ก็เหลือเพียงแค่ตำนานให้แฟนเพลงระลึกถึง 10 ปี ที่เรื่องราวของเขาถูกบอกเล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผ่านทางบทเพลงที่พวกเขาเคยสร้างสรรค์ไว้
ตลอดระยะเวลา 10 ที่อยู่ในวงการเพลง
ก่อนที่สายลมแห่งวันเวลา จะพัดพาความทรงจำ ที่แฟนเพลงมีต่อพวกเขาให้เลือนหายไป ข้อความเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่ใน myspace ของโยชิกิ และเว็บไซต์ของโทชิ 2 สมาชิกที่ตั้งวงนี้ขึ้นมา
ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือด้วยกัน อาจจะทำให้แฟนเพลง ที่ยังคงรอคอยการกลับมาของพวกเขา พอจะมีความหวังขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย
ข้อความของโยชิกิ...และสำหรับ X Japan ผมได้แต่ถามตัวเองว่าทำไม ๆ ๆ ...ด้วยความสัตย์จริง มันต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ที่จะกำจัดความเจ็บปวดและเศร้าใจ....ซึ่งบางทีมันอาจจะยังไม่ถึงเวลา ทุกวันนี้ผมยังทำใจฟังเพลง หรือแม้แต่ดูวีดิโอของ X Japan โดยไม่มีน้ำตาอาบแก้มไม่ได้เลย
วงของผมเอง... ที่ผมไม่สามารถฟังมัน โดยไม่ร้องไห้ไม่ได้... ทำอย่างไร ถึงหมุนเวลากลับไปได้... มันเจ็บปวดเหลือเกิน... แม้แต่พูดถึงชื่อของมัน... X Japan
ทุกวันนี้ผมยังตีกลองได้ ผมคิดว่าตัวเองยังตีได้เร้าใจกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม้ว่าคอผมจะยังบาดเจ็บ และมันจะทำให้ข้อมือผมปวดร้าว... แต่ช่างมันปะไร... ผมไม่สนใจความเจ็บปวดทางกายอยู่แล้ว
แต่เรื่องของจิตใจ... ผมไม่มั่นใจว่า จะรับมือมันได้หรือเปล่า... ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี... ผมได้พูดคุยกับโทชิ(นักร้องของ X Japan)... เขาโทรมาคุยกับผมตลอดช่วงสิ้นปีที่แล้ว...
ซึ่งเป็นการเปิดใจครั้งแรก หลังจากที่เขาหันหลังให้กับวงตั้งแต่วันนั้น... โทชิและผมต่างเติบโตมาด้วยกัน... ผมไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
WITHOUT YOU เป็นเนื้อเพลงที่ผมแต่งขึ้น หลังจากความตายของฮิเดะ เป็นเพลงที่ผมต้องบันทึกเสียงเปียโนเอาไว้หลายครั้ง เพราะคราบน้ำตาที่เปื้อนอยู่บนแป้นคีย์ มันทำให้นิ้วผมลื่นไถลทุกครั้งที่เริ่มเล่นใหม่
ถ้าจะมีใครซักคนได้ร้องเพลงนั้น... จะต้องเป็นโทชิคนเดียว... แต่ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร... มันเจ็บปวดเกินไป
ผมขอโทษ ผมไม่อยากจะให้พวกคุณมาเศร้าไปกับมันด้วย... แต่หลายคนเฝ้าแต่ถามผมถึงเรื่องนี้ ผมถึงต้องพูดถึงมันเสียที... ขอแค่เวลาให้ผมซักหน่อยเถอะ...
โยชิกิ
24 ก.พ. 2007ข้อความของโทชิเมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา ในเมืองลอส แองเจลิส ระหว่างที่ผมอยู่ที่นั่นไม่กี่วัน ผมมีโอกาสได้พบกับเพื่อนเก่าของผมที่สตูดิโอส่วนตัวของเขา
เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ผมไม่ได้กลับมาเยือนห้องอัดแห่งนี้ ดูมันใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ความสุดยอดของเครื่องไม้เครื่องมือในนั้น มันทำให้ผมถึงกับประหลาดใจ ไม่แน่ว่า มันอาจจะเป็นสตูดิโอบันทึกเสียงที่ดีที่สุดในโลกก็ได้ ผมรู้สึกยินดีไม่ต่างจากเขาเลย
ที่นั่น ผมได้ฟังเพลงที่เพื่อนผมประพันธ์ขึ้น ในสตูดิโอที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก
เราต่างมีเพื่อนรักที่จากเราไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเพลงที่ได้ยินนั้น มันมาจากความเศร้า และความสูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่เขาบอกว่า แต่งขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเพื่อนของเขาเสียชีวิตไป
เพลงที่ได้ยินก็เป็นเพลงบัลลาดสไตล์ถนัดของเขา ด้วยทำนองแสนเศร้า ที่ขึ้นต้นด้วยเสียงเปียโน และสอดประสานด้วยเมโลดีสวยๆ ของเครื่องสาย และยิ่งกว่านั้น มันยังบันทึกไว้ สำหรับเสียงของนักร้องผู้ชายอีกด้วย
ผมไม่สามารถห้ามน้ำตาให้หยุดไหลได้ระหว่างที่ฟังเพลงนั้น และผมหวังอย่างจริงจังว่า ต้องทำให้ชาวโลกได้ยินมันให้จงได้
ผมร้องเพลงนั้นไป พร้อมกับเสียงเปียโนที่เพื่อนผมบรรเลง ซึ่งเป็นความปรารถนาของเขา ที่จะให้ผมเป็นคนร้อง เขาได้แสดงวิธีการเล่นแต่ละโน้ตอย่างประณีตบรรจง ผมแค่ร้องตามสิ่งที่เขาปูทางเอาไว้เท่านั้น ถ้อยคำกลายเป็นบทเพลง ด้วยทำนอง และจังหวะที่เยี่ยมยอดของเขาเอง
และเป็นเขาเองที่เลือกคีย์เพลงให้เหมาะกับห้วงเสียงของผม คีย์นี้จะทำให้นายร้องได้อย่างเหมาะสม แม้ว่ามันจะเล่นยากกว่าก็ตาม ผมพยายามที่จะร้องให้จบ ทั้งๆ ที่น้ำตายังไหลอยู่ตลอดเวลา
เพลงเดียวบอกเรื่องราวได้มากกว่าคำพูดนับล้านคำ
เพื่อนเก่าของผม กล่าวด้วยเสียงอันสั่นเครือ ดูเหมือนว่าเบื้องหลังแว่นตานั้น เขากำลังร้องไห้อยู่เหมือนกัน
เป็นช่วงเวลาที่เราทั้งสองผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง โดยปราศจากคำพูดใดๆ เพลงแค่เพลงเดียวผูกพันเราไว้อีกครั้ง บางทีอาจจะเป็นวิญญาณของเพื่อนรักที่จากเราไป ที่บันดาลให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
หลังจากเติบโตและคบหากันมากว่า 37 ปี เรายังคงวิ่งเล่นไล่ล่าความฝันกันต่อไป
10 ปีก่อนหน้านี้ ผมเหนื่อยหน่ายต่อวงการเพลงอันสับสน และเดินจากชีวิตเขามา ด้วยความหวังที่จะขับขานบทเพลง เพื่อเยี่ยวยาหัวใจที่อ่อนล้าของผู้คน รวมทั้งของผมเอง
10 ปีที่ผมเดินทางไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ได้พบปะกับผู้คนนับพัน ทั้งเด็ก คนแก่ ที่ผมได้ร้องเพลงให้กับพวกเขาฟังอย่างใกล้ชิด
10 ปีที่ผ่านไปกับความประทับใจ, น้ำตา และการเรียนรู้ตัวเอง หยั่งรากลึกแห่งประสบการณ์อันยอดเยี่ยม
ผมอยากที่จะร้อง และมอบเพลงแห่งชีวิต ที่กำเนิดมาจากความเศร้า ในการสูญเสียเพื่อนรักคนนั้น ในมุมมองของเราในวันนี้
โปรเจ็คท์ใหม่ของเรากำลังเริ่มต้นในไม่ช้า
ด้วย บทเพลงเดียวที่บอกเรื่องราวได้มากกว่าคำพูดนับล้านคำ เพลงนี้
โทชิ
21 มี.ค. 2007ฟังเพลง WITHOUT YOU ได้ที่ myspace ของโยชิกิ ที่มาจาก : Manager Online + Blike
นำออกพร้อมเครดิตนะคะปล. บทความนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ... ดังนั้น!! จาก 10 ปี จะต้องเป็น 11 ปีนะคะ