เป็นข้อมูลดีๆค่ะ รู้ไว้ใช่ว่า หนูก็ชอบกินนะ เเต่กินไม่บ่อยเพราะไม่มีประโยชน์ ชอบมาม่ารสต้มยำกุ้งนะค่ะ
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ความง่าย อร่อย และราคาถูก ทำให้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด จนอาจจะพูดได้ว่า "ทุกวันนี้อาหารที่คนทั่วโลกรับประทานมากที่สุดคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" ก็คงไม่ผิดจากความเป็นจริงเท่าไหร่
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีต้นกำเนิดมาจาก ประเทศญี่ปุ่น โดยนาย อันโด โมโมฟุกุ ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท นิชชิน
วันที่ 25 สิงหาคน ปี 1958 ซึ่งเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นประสบกับปัญหาข้ามยากหมากแพง ทำให้ชาวญี่ปุ่นต้องทานแต่อาหารที่ราคาถูกและสะดวกในการทำหรือหาทาน ซึ่งก็คือ ราเมน
วันหนึ่งของฤดูหนาวในโอซาก้า นาย อันโด ได้เห็นสภาพของชาวญี่ปุ่นที่ยืนเข้าแถวยาวเหยียด เพียงเพื่อรอทานราเมนแค่ 1 ชาม เพื่อเป็นอาหารคลายหนาว ทำให้นาย อันโด ได้พยายามคิดค้น ราเมนที่ สามารถทำทานเองที่บ้าน เก็บไว้ได้นาน และราคาถูก ขึ้นมา จนในที่สุดก็ได้ "ชิกิ้นราเมน" ขึ้นมา
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในตอนแรก ทำโดยนำเส้นราเมนที่ได้จากผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่(โทริคะระ) ทอดในน้ำมันปาล์มเพื่อไล่ความชื้นออกไป ทำให้เก็บไว้ได้นานและแค่เพียงเติมน้ำร้อน เส้นก็จะคืนสภาพเดิมสามารถกินได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมเลย เพราะว่าเส้นผสมกับน้ำซุปกระดูกไก่แล้ว (ในตอนแรก ชิกิ้นราเมนมีราคาอยู่ที่ 35 เยน)
ในปัจุบัน ชิกิ้นราเมน ก็ยังเป็นรสที่ขายดี ที่ยังคงความอร่อยมาอยู่ถึงทุกวันนี้
ต่อมา นาย อันโด ก็ได้ ก่อตั้งบริษัทนิชชินขึ้นมา และได้พัฒนาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติและรูปแบบอื่นๆขึ้นมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "คัพเมน" ที่ได้แนวคิดมาจากการทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนอเมริกา (ในตอนแรกนั้นภาชนะที่ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะเป็น ชาม แต่เพียงอย่างเดียว)
สำหรับ คัพเมน(หรือคัพนู้ดเด้ล)นั้นยังมีเกร็ดที่มาของความนิยมอยู่ คือในตอนแรกนั้น ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์การลักพาตัวประกันโดยกลุ่มต่อต้านจักรวดิญี่ปุ่น ที่จังหวัดนากาโน่
ในเวลานั้นได้มีการถ่ายทอดสดตลอดเวลา ต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 10 วัน อีกทั้งยังเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์โทรทัศน์ญี่ปุ่น(90%) และนอกจากภาพเหตุการณ์การละกพาตัวประกันแล้ว ยังมีภาพของคนที่กำลังทาน คัพนู้ดเด้ลในสถานที่เกิดเหตุด้วย (ปกติคนญี่ปุ่นจะทานข้างกล่องหรือ เบ็นโตะ แต่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นั้น เป็นช่วงอากาศหนาวเย็น ทำให้ข้าวกล่องแข็งจนทานไม่ได้)
คนญี่ปุ่นจึงได้รู้จัก คัพนู้ดเดิ้ล ในวงกว้าง และเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลกจนเป็นอาหารที่คนทานมากที่สุดในโลก
(ถ้าจะย้อนประวัติของ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คงต้องย้อนไปถึง "โลเมียง" ซึ่งเป็นภาษาจีน ที่แปลว่า "บะหมี่ที่ต้มแล้ว" บะหมี่แบบจีนเป็นอาหารที่นิยมอย่างมากในเมืองซับโปโร และพื้นที่อื่นของประเทศญี่ปุ่น)
สำหรับประเทศไทย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้เข้ามาราวปี พ.ศ. 2514-2515 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อแรกในประเทศคือ "ซันวา" ที่มีต้นแบบมาจากบะหมี่ญี่ปุ่นที่ต้องต้มก่อนทาน ส่วน "มาม่า" เป็นยี่ห้อที่ 3-4 ของประเทศไทย หาใช่ ยี่ห้อแรกอย่างที่ใครๆเข้าใจกัน
ขอขอบคุณ
http://www.zazana.com/post/content.php?id=388 นะคะ
ครั้งที่ 2
รู้สึกว่า ยี่ห้อซันวาจะไม่มีขายเเล้ว เเต่ถ้าอยากได้ เเนะนำไปดูที่เจ๊เล้งค่ะ เพราะเคยเจอสคูปปี้เเสน็กที่นั่น!