สธ.เตือน 6 โรคหน้าร้อนอันตราย
สธ.ออกประกาศเตือนประชาชน ระวัง 6 โรคอันตรายหน้าร้อน ทั้งโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ปีนี้พบผู้ป่วยเกือบ 2 แสนราย และโรคพิษสุนัขบ้า ชี้อากาศร้อนทำให้เชื้อโรคเติบโตเร็ว ประชาชนต้องระมัดระวังความสะอาดของอาหารและน้ำให้มากขึ้น ส่วนผู้ที่เลี้ยงสุนัขหรือแมว ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สัตว์เป็นประจำทุกปี
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูร้อน คาดว่าหลายพื้นที่อาจร้อนจัดและประสบปัญหาภัยแล้ง ซึ่งอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งจะเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยเฉพาะแบคทีเรียอย่างมาก ยิ่งพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาด ยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการระบาดของโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังความสะอาดของอาหารและน้ำดื่มเป็นพิเศษ โดยยึดหลักง่ายๆ ได้แก่ กินร้อน คือกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ หากยังไม่กินต้องเก็บในตู้เย็นและอุ่นให้ร้อนก่อนกิน ใช้ช้อนกลางในการกินอาหารร่วมกัน ล้างมือทุกครั้งก่อนกินอาหารและหลังใช้ห้องน้ำห้องส้วม และดื่มน้ำที่สะอาด
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค ออกประกาศเตือนประชาชนป้องกันโรคที่เกิดในฤดูร้อน 6 โรค ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ บิด ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค และพิษสุนัขบ้า พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วประเทศได้ทราบ และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีรายงานผู้ป่วยให้ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วออกสอบสวนควบคุมโรคทันที และให้เฝ้าระวังความสะอาดอาหาร น้ำดื่ม น้ำประปา ตลาดสด และส้วม อย่างเข้มงวด
ด้านนพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคติดต่อสำคัญที่เกิดในฤดูร้อนประกอบด้วย โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ 5 โรค ได้แก่ อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ โรคบิด อหิวาตกโรค และไข้ไทฟอยด์ โดยตั้งแต่ต้นปี-21 กุมภาพันธ์ 2552 พบผู้ป่วยรวม 190,898 ราย การติดต่อเกิดจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่เชื้อมีปนเปื้อน เช่น อาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ อาหารที่มีแมลงวันตอม อาหารที่ทำไว้ล่วงหน้านานๆ อาการส่วนใหญ่มักถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำหรือมีมูกเลือดปน ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ในระยะแรกควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหรืออาหารเหลวมากๆ อาทิ น้ำข้าว น้ำแกงจืด และดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (โอ.อาร์.เอส.) โดยใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่ 1 ซองผสมน้ำต้มสุกเย็น 1 แก้ว หากไม่มีให้ใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ กับเกลือป่นครึ่งช้อนชา ละลายกับน้ำต้มสุกเย็น 1 ขวดน้ำปลากลมแทน ที่สำคัญต้องดื่มให้หมดภายใน 1 วัน และถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์
ส่วนโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ได้แก่ โรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งพบได้ตลอดปีแต่มีแนวโน้มเพิ่มสูงในช่วงหน้าร้อน ปี 2551 พบผู้ป่วยทั้งหมด 4 ราย เสียชีวิตทุกราย ปีนี้ยังไม่มีรายงานผู้ป่วย โรคนี้ติดต่อจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ากัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่มีแผลรอยข่วน หรือน้ำลายของสัตว์ที่มีเชื้อเข้าตา ปาก จมูก สัตว์นำโรคที่พบมากสุดคือ สุนัข
รองลงมาเป็นแมว และอาจพบในสัตว์เลี้ยงอื่น เช่น หมู ม้า วัว ควาย และสัตว์ป่า เช่น ลิง ชะนี กระรอก กระแต เป็นต้น สัตว์ที่เป็นโรคสังเกตได้จากมีนิสัยผิดไปจากเดิม ตื่นเต้น ตกใจง่าย กระวนกระวาย กัดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า กินอาหารน้อยลง ไวต่อแสงและเสียง ต่อมาเป็นอัมพาต หลังแข็ง หางตก ลิ้นห้อย กลืนไม่ได้ ขากรรไกรแข็ง ชักและตายภายใน 10 วันนับจากแสดงอาการ เนื่องจากโรคนี้ไม่มียารักษา ผู้ป่วยจะเสียชีวิตทุกราย
จึงต้องป้องกันโดยนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าปีละครั้ง ระวังบุตรหลานไม่ให้เล่นกับสัตว์เลี้ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หากถูกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยนมกัด ให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง เช็ดให้แห้งแล้วใส่ยารักษาแผลสด เช่น โพรวิโดนไอโอดีน และรีบไปพบ
แหล่งที่มา จาก แหล่งข่าวโดย.... ASTV ผู้จัดการออนไลน์