เครดิต ::
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=12676397 อันดับ เครื่องปรุงประหลาด(แต่จริง)
ใน วงการอาหาร ยังมีเรื่องที่ผู้บริโภคไม่รู้อยู่อีกเยอะ โดยเฉพาะส่วนผสมในการเป็นอาหารชิ้นหนึ่ง ใครจะไปรู้ว่า มันมีอะไรพิลึกมากกว่าที่เราคิดได้ ส่วนผสมต่อไปนี้ ไม่ใช่ส่วนผสมที่มีอยู่ในอาหารทั่วไปนะครับ จึงวางใจได้บ้าง(น่ะนะ)
อันดับ 7 ทองคำ
อัน นี้ก็ไม่ต่างจากทองคำเปลวที่เราใช้ตกแต่ง อาหาร ทองที่ประเทศอื่นๆก็นำมาใช้เป็นส่วนประกอบเสริมในอาหารหลายอย่างรวมถึง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ล่าสุดมีข่าวเรื่องไอติมแพงที่สุดในโลก ก็มีส่วนผสมของทองอยู่ในนั้นครับ
อันดับ 6 บอแรกซ์
ก็ คือน้ำประสานทองที่เราเคยเรียนตอนเด็กๆ นั้นแล นอกจากนี้ ที่เราเรียกว่าผงเนื้อนิ่ม บางอันก็คือบอแรกซ์นะครับ ชื่อที่ได้ยินกันคือ ผงกรอบ หรือเบ่งแซ(ไม่รู้ว่าอันเดียวกับแปะแซรึเปล่า) หาก ได้รับในปริมาณไม่มากแต่ได้รับบ่อยเป็นเวลานาน จะเกิดอาการเรื้อรัง เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ผิวหนังแห้งอักเสบ หนังตาบวม เยื่อตาอักเสบ ตับ และไตอักเสบ ระบบสืบพันธุ์เสื่อมสมรรถภาพ เป็นต้น ซึ่งเมืองนอกถือว่าเป็นของผิดกฏหมาย แต่ก็มีพบว่าเขาเอาไว้ใช้ในการเก็บรักษาไข่ปลาคาร์เวียร์
อันดับ 5 ทาร์(Coal Tar)
Coal tar หรือ สารทาร์ ก็คือน้ำมันดิน ซึ่งสารทาร์ถูกนำไปเปลี่ยนแปลงเป็นสารชนิดหนึ่งชื่อว่า Allura Red AC เป็นสารสีแดง ซึ่งขณะที่เรารู้ว่าทาร์เป็นสารก่อมะเร็งแน่ๆ(และอย่างมากด้วย) Allura Red AC ยังไม่มีงานวิจัยที่พบว่าเป็นสารก่อมะเร็ง อย่างไรก็ตาม มีข่าวเล่าว่า Allura Red ACเป็นสารที่ผสมอยู่ในโค้ก ซึ่งแทบจะเชื่อข่าวนี้ไม่ได้ เพราะว่าสูตรผสมของโค้กถูกเก็บไว้อย่างดีขนาดที่ว่ามีรู้อยู่แค่สองคนบนโลก นี้ อาจเป็นข่าวที่ใช้โจมตีบริษัทโค้กก็เป็นได้ และอีกข่าวนึงคือ เป็นส่วนผสมของยาชื่อ Tylenol(ชื่อการค้าของพาราเซตามอลอันหนึ่ง) FDA(อย.ของฝรั่ง)มีการยืนยันว่าพบสารนี้อยู่ในลูกอมและขนมของเด็กรวมถึงSoft Drinkด้วย สำหรับทริกเล็กๆนะครับ สารนี้จะทำให้รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ดังนั้น ถ้าุคุณกินขนมหรือเครื่องดื่มแล้วจะอ้วก(แบบว่าไม่ใช่มันไม่อร่อยนะ) ให้หยุดกินทันที แล้วค่อยๆไล่ดูว่าสาเหตุมาจากอาหารนี้หรือไม่(เพราะบางคนอาจท้องไม่รู้ตัวก็ เป็นได้)
อันดับ 4 เชลแลค
เชล แลคหรือน้ำมันขัดเงานี้แหละครับ เป็นส่วนผสมในขนมบางอัน โดยเชื่อว่าทำให้สีสันดูสดใส(ก็เหมือนเคลือบเงาไง)และมีรายงานจริง ในขนมของเมืองนอกชื่อSkittle(เหมือนขนมหลากรสผลไม้อ่ะ) ซึ่งเชลแลคนี่มาจากด้วงชนิดหนึ่งซึ่งสารนี้เอาไว้ทำให้ตุวดักแด้อยู่แน่น ขึ้น
อันดับ 3 ไวรัส
ไวรัส ชนอดนี้เรียกว่า Bacteriophage หน้าที่มันคือเข้าไปทำลายแบคทีเรียครับ ตามหลักการอาหารแล้ว สาเหตุที่อาหารเน่าหรือเป็นพิษ เกิดจากแบคทีเรียไปเพาะพันธุ์ในอาหารนั้น ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีว่า ทำให้เน่า บางตัวทำให้เป็นพิษ จุดประสงค์ของคนที่ปล่อยไวรัสนี้ในอาหารต้องการแก้เรื่องอาหารเป็นพิษและ Listeriosis ขณะที่FDAยังไม่กล้าระบุว่าปลอดภัย แต่กล่าวว่าAs long as it [is] used in accordance with the regulations, we have concluded its safe.
อันดับ 2 ก้นบีเวอร์
เรื่อง จริง! ลักษณะจะคล้ายๆกับเมล็ดกาแฟที่แพงทีสุดในโลกครับ ซึ่งกาแฟนั้นมาจากชะมดกินเม็ดกาแฟเข้าไปแล้วอึออกมา เนื่องจากที่ก้นของสัตว์จะมีต่อมน้ำมัน ซึ่งก็จะมีกลิ่นเฉพาะ นึกถึงเวลาเหงื่อออกก็จะมีกลิ่นตัว หรือว่าเวลากินไก่ย่างถ้าใครกินตูดไก่จะพอเข้าใจ สารCastoreum(สารตูดบีเวอร์)นำมาใช้ในอาหารพวกที่มีส่วนผสมของราสเบอร์รี่ โดยทำให้รสชาติดีขึ้น นอกจากนั้น สารนี้ยังพบในบุหรี่และหมากฝรั่งบางยี่ห้อด้วย อีกเรื่องหนึ่งคือ ต่อให้เราพบสารCastoreumในบีเวอร์แล้ว แต่เรายังไม่สามารถสกัดมันออกมาได้แบบบริสุทธิ์ ดังนั้น สิ่งที่เรากินกัน นั่นคือ Organic แน่นอนครับ
อันดับ 1 Skatole(มาลองทายดูสิว่าสารนี้อยู่ในไหน)
สาร ชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในบุหรี่ นอกจากนั้นเอามาใช้ในน้ำหอมหลายชนิดด้วย แต่อาหารที่มีส่วนผสมของSkatoleที่เป็นที่รู้จักกันที่สุด ก็คือ ไอติมรสสตรอเบอรร์รี่ครับ เพราะมันจะเพิ่มรสชาติของไอติมนิดหน่อยให้พอกลมกล่อมและดีขึ้นเหมือนของที่ เข้ากันน่ะครับ
และคุณคงไม่ชอบมันอย่างยิ่งแน่ๆ ถ้ารู้ว่า Skatole เป็นคำที่มาจากภาษาละติน โดยSkatแปลว่า อึ
ถูกต้องแล้วครับ เขาสกัดอึมาใส่ในไอติมสตรอเบอรร์รี่(บางยี่ห้อของเมืองนอกนะ แต่เมืองไทยไม่รู้)