Potter Story Webboard [TH]
Potter Story Lobby !!! => ห้องนั่งเล่น ! => ข้อความที่เริ่มโดย: limeade ที่ 19 พฤศจิกายน 2009, 12:52:15 pm
-
อาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร ที่เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์ ด้วยความห่วงใย ทาง "ชมรมหรี่เสียงกรุงเทพฯ" ชมรมที่เกิดจากการรวมตัวของคนหลากหลายอาชีพ อาทิ แพทย์ สถาปนิก อาจารย์ พยาบาล ฯลฯ ที่มีความฝันอยากให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองสงบ และสุขภาพดี จึงได้สำรวจสถานที่หนวกหูทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งมีความดังเกิน 50 เดซิเบล พบ 10 สถานที่ ที่เป็น "ภัย" ต่อโสตประสาท ของคนกรุง
รถไฟฟ้าบีทีเอส แม้จะนำความสะดวกสบายมาให้ในการเดินทาง แต่ข้อเสียอยู่ที่เสียงโฆษณาทั้งในและนอกขบวนรถที่ดังเกินไป, โรงภาพยนตร์, ห้างสรรพสินค้า แหล่งเกิดเสียงดัง ไม่ว่าจะเป็นเสียงประกาศ เสียงโฆษณาสินค้า แต่ที่หนักสุด คือ การจัดงานอีเว้นต์ ที่เปิดเสียงการจัดงานดัง จนเรียกว่าจัดที่ชั้น 1 ดังถึงชั้น 5 ซึ่งมีความดังถึง 85 เดซิเบล
อีกหนึ่งสถานที่ที่ให้ประโยชน์ทางกายแต่ให้โทษทางหู คือ สถานที่ออกกำลังกายในสวนสาธารณะ อย่างการเต้นแอโรบิค ซึ่งมักเปิดลำโพงยักษ์หันหน้าหาผู้เต้น งานนี้หูของคนรักสุขภาพต้องรับความดังของเสียง 75-82 เดซิเบล ลำโพงกลางแจ้ง ลำพังเสียงดังของการจราจรบนท้องถนนก็ดังอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันยังมีโทรทัศน์ขนาดยักษ์ เปิดเสียงดังแข่งกับเสียงรถให้คนผ่านไปมาได้ปวดทั้งหัว ปวดทั้งหู ซึ่งเสียงจากลำโพงกลางแจ้งดังกว่า 74 เดซิเบล
แหล่งมลพิษทางหูอีกแห่ง คือ เสียงนกหวีด บรรดา รปภ.มักจะสร้างมลพิษทางหูอยู่บ่อย ๆ เรียกว่า เป่านกหวีดเป็นว่าเล่น รู้ไหมว่าการเป่านกหวีดแต่ละครั้งเป็นการสร้างมลพิษทางเสียงถึง 94 เดซิเบล
สถานที่สร้างมลพิษอีกที่คือ วัด ใครจะคิดว่างานวัดที่จัดกันอย่างเกลื่อนในวัดเป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้เกิดมลพิษทางเสียงที่ดังกว่า 85 เดซิเบล ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ คงไม่พ้นพระภิกษุ
นอกจากนี้ ยังรวมถึง สถานที่ที่มีการก่อสร้าง ทั้งการตอกเสาเข็ม เจาะคอนกรีต, ขนส่งมวลชน ที่มักติดตั้งโทรทัศน์ในรถโดยสาร และนิยมเปิดเสียงดัง ๆ
สุดท้าย เสียงเพื่อนบ้าน ทั้งเสียงตะโกน เสียงทะเลาะ เสียงการจัดงานเลี้ยง ร้องคาราโอเกะกลางแจ้งของเพื่อนบ้านก็นับเป็นมลพิษทางเสียงด้วย
อาจารย์อรญา สูตะบุตร อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ประสานงานชมรมหรี่เสียงกรุงเทพฯ (www.quietbangkok.org) บอกว่า จากการลงพื้นที่สำรวจทั่วกรุงเทพฯ ปัญหาที่พบคือ มีการใช้โทรทัศน์จอยักษ์ เครื่องขยายเสียง และลำโพงมากขึ้น ๆ ซึ่งอันตรายจากเสียงดัง เบื้องต้นจะทำให้เกิดความหงุดหงิด เครียด และหากยังไม่เร่งแก้ไข ผลในระยะยาวคือ การสูญเสียการได้ยินในที่สุด
"ระดับเสียงปกติที่ไม่เป็นอันตราย ควรต่ำกว่า 50 เดซิเบล แต่ขณะนี้ตามท้องถนนในกรุงเทพฯ ระดับเสียงอยู่ที่ 70 เดซิเบล ซึ่งจุดยืนของกลุ่ม ไม่ต้องการให้กรุงเทพฯ ไร้เสียง แต่อยากให้ผู้ที่มีหน้าที่ทำให้เกิดเสียงดังตระหนักและควบคุมเสียงไม่ให้เกินกว่า 50 เดซิเบล แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ ควรมีมาตรการในการจำกัดเวลาเปิดเสียงดัง เพื่อคนกรุงเทพฯ จะได้มีสุขภาพการได้ยินที่ดี"
เป็นภัย . . .ที่คนกรุงต้องช่วยกันแก้ไข ก่อนที่คนในเมืองศิวิไลซ์จะกลายเป็นคนสูญเสียการได้ยินในที่สุด
ขอขอบคุณข่าวจาก มติชน
เครดิต http://board.postjung.com/443804.html
หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างนะค่ะ
-
อันตรายจริง ๆ ด้วย
ดีนะเนี่ย ! ,, , ที่เราอยู่ต่างจังหวัด'ถึงจะมีบ้าง แต่ก็น้อย
, , ขอบคุณนะคะที่นำมาฝาก
-
บ้านเราก็มีเหมือนกัน ในเมืองนะ แต่ว่าก็คงน้อยกว่าเมืองใหญ่ๆในกรุงเทพล่ะ
:)
-
ไม่น่าไปเลย
-
กรุงเทพนี่เสียงดังเป็นอันตรายจริงๆค่ะ
ขอบคุณนะคะที่นำมาฝาก
-
เห็นด้วยครับ :D
-
โห...มลพิษทางเสียงนี่ก็อันตรายด้วยแค่นกหวีดเล้ก
8) :o ::)
-
เห็นอย่างนี้เเล้วไม่อยากอยู่กรุงเทพเเล้ว ...ล่ะ
เเต่ก็โชคดี อยู่ต่างจังหวัด
ขอบคุณข้อมูลที่นำมาฝากกันค่ะ
-
โชคดีที่ผมไม่ได้อยู่กรุงเทพ :)
-
ก็..อยู่ต่างจังหวัดค่ะ
แต่ก็เข้ากรุงเทพฯบ่อย
โห แบบว่า เสียงดังอันตรายมากๆค่ะ
ขอบคุณที่นำมาฝากนะค่ะ
-
ผมเคยไปกรุงเทพ 6 ครั้งเอง ::)
-
สถานที่สร้างมลพิษอีกที่คือ วัด
อยากจะบอกว่าเห็นด้วยอย่างมากเลยค่ะ
-
ห้ามดังเกิน 85 เดซิเบล
-
เย้ ไม่ได้อยู่กรุงเทพ บ้านผมต้นตาลเยอะมากๆ แต่ก็มีเสียงดังบ้างเฉพาะในเมืองนะ
-
บ้านเราก็มีเหมือนกัน ในเมืองนะ แต่ว่าก็คงน้อยกว่าเมืองใหญ่ๆในอำนาล่ะ :P ::)
-
:o โฮะๆ น่ากลัวจริงๆเลย อ่ะ
ถึงเจ้าของกระทู้ "ดีใจจังในที่สุด มะนาวก็มาเล่น psw แล้ว"
-
ก็จริงนะครับ
อันตรายมากอยู่แต่โชคดีที่ผมอยู่ต่างจังหวัด
:o
ขอบคุณนะครับที่นำมาฝาก
-
อยู่ใกล้ตัวทั้งนั้นเลยวุ้ว
ข้อสุดท้ายนี้ยิ่งน่ากลัว อ๋าาา
-
โอ้โห !!!!
เป็นอันตรายจริงๆ
พวกเราต้องช่วยกันระวังนะคะ
และขอบคุณมากที่นำมาฝากค่ะ *