Fans !!! > Fan Fiction [ ฉบับยังไม่สมบูรณ์ ]

27-01-52 :: เเฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่

<< < (2/4) > >>

Harry Potter:
มาต่อนะ
บทที่หนึ่ง

ท่ามกลางบรรยากาศที่จ๊อกแจ๊กจอแจด้วยเสียงบรรดานร.ฮอกวอตส์บริเวณชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ สถานีรถไฟคิงส์ครอส เพื่อนรักทั้งสามคน แฮรี่ เฮอร์ไมโอนี่ รอน พร้อมด้วยเพื่อนร่วมทางอีกหนึ่งคนจินนี่ วีสลีย์และบรรดาผู้ที่มาส่งหรือเจตนาที่แท้จริงคือมาคุ้มกันกำลังกล่าวคำอำลาต่อกันเ
ป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เสียงหวูดรถไฟจะดังขึ้นในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้ ทุกคนต่างยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่ออากาศในยามนี้สดใสและไม่มีวี่แววการจู่โจมจากผ่ายใดทั้
งสิ้น

"อยู่แต่ในปราสาท อย่าออกไปข้างนอกหลังค่ำ แล้วก็ทำตัวดีๆอย่าก่อเรื่องวุ่นวายล่ะ" คุณนายวีสลีย์กล่าวเตือนรอนหลังจากที่กอดลาเฮอร์ไมโอนี่เสร็จแล้ว

"โธ่แม่ แม่จำผิดคนรึไง เฟร็ดกับจอร์จน่ะออกจากโรงเรียนไปตั้งปีกว่าแล้วนะ" รอนบ่นแทรกขึ้นมา

คุณนายวีสลีย์ทำจมูกย่นอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก แล้วก็หันไปกอดลาแฮรี่

"โชคดีนะจ้ะ อย่าออกไปเสี่ยงมากเกินไปล่ะ"

"ผู้คนเยอะขนาดนี้ หน้าตาก็สดชื่นแจ่มใสเป็นปกติกันดี วันนี้คงจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้วล่ะมั้ง" ลูปินพูดขึ้นมา แต่ไม่เจาะจงว่าพูดกับใคร เหมือนเปรยๆออกมากับตัวเองมากกว่า

"นั่นสิ อีกอย่างอากาศก็กำลังดี ไม่มีท่าว่าฝนจะตกหรือมีอะไรมาทำให้รถไฟไปถึงช้า . . . ดีแล้วล่ะ ยิ่งถึงฮอกวอตส์เร็วเท่าไรก็ยิ่งดีมากเท่านั้น" ท็องส์พูดเสริมขึ้นมา

แต่หลังจากสิ้นเสียงของท็องส์ไปเพียงไม่กี่อึดใจ เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจที่อยู่รอบๆตัวพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มเงียบสงบลงทันที จนในที่สุดเหลือเพียงแต่เสียงลมพัด ต้นไม้ใบไม้ไหว กับเสียงนกร้องเท่านั้น

"นี่ฉันพูดดังไปหรือไงเนี้ย หรือว่าฉันพูดอะไรผิดไป" ท็องส์เริ่มรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเริ่มขยับมือไปที่กระเป๋าถือที่เก
็บไม้กายสิทย์ไว้ในนั้น

"ไม่หรอก ไม่มีอะไรผิดไป ดูนั่นสิ" มาดังกัสที่อยู่ทางซ้ายของเธอพูดขึ้นมาอย่างเลื่อนลอย ขณะที่ตานั้นมองไปที่ประตูทางเข้าชานชาลาตาไม่กระพริบ สีหน้าดูเหมือนถูกมนต์สะกดยังไงยังงั้น

ท็องส์มองตามสายตาของมาดังกัสไปและพบเห็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนในชานชาลาเงียบไปกันหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมากกว่าที่อยู่ในอาการอย่างนั้น ส่วนผู้หญิงยังคงซุบซิบนินทากันด้วยเสียงเบาๆ บางคนก็กำลังงงงวยกับอาการของเหล่าเพื่อนชายของตน


แฮรี่ซึ่งยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหันซ้ายหันขวา พบแต่พวกผู้ชายที่ยืนนิ่งอึ้งจ้องไปทางประตูทางเข้า แม้แต่รอนก็จ้องไปที่นั้นตาไม่กระพริบ คงจะมีไม่กี่คนเท่านั้น อย่างเช่นนายวีสลีย์ ลูปิน แมดอาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ใหญ่กันแล้วทั้งนั้นถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ความอยากรู้อยากเห็นของเขาเริ่มทวีขึ้นมาทันทีว่าอะไรกันนะที่อยู่ที่ประตูทางเข้าที
่อยู่ข้างหลังเขานั้น อาจจะเป็นวีล่าที่สวยมากคนหนึ่งหรืออะไรก็ตามแต่ที่มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่หลงใหล และทันทีเขาหันไปมองที่ประตูเขาก็พบว่าตัวเองกำลังยืนนิ่งอึ้งตะลังงันอ้าปากค้างเหม
ือนกับคนอื่นๆเช่นกัน ในความรู้สึกของเขานั้นเหมือนกับว่ามีนางฟ้าองค์หนึ่งมาปรากฏกายอยู่ที่ซุ้มประตูทาง
เข้าชานชาลาเลยก็ไม่ปาน


เด็กสาวสวยน่ารักคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่ซุ้มประตูด้วยท่าทางเก้ๆกังๆเมื่อรู้สึกตัวว
่าคนทั้งชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่กำลังจ้องมองมาทางเธอเป็นตาเดียว เธอเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้ารูปไข่รับกับดวงตากลมโตสีดำขลับ จมูกโด่งเป็นสัน ปากเรียวเล็กได้รูป ผมยาวตรงสลวยสีดำเป็นธรรมชาติยาวลงมาถึงกลางหลัง ผิวขาวเหลืองนวลละเอียดแบบคนเอเชีย รูปร่างสูงโปร่ง ขาเรียวยาว หุ่นดีพอที่จะเป็นดารานางแบบได้เลยทีเดียว เด็กสาวผู้นี้ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานจนเธอเหลือบไปเห็นคนๆหนึ่งที่อยู่ใกล้กับทาง
ขึ้นรถไฟและกำลังหันหลังให้เธออยู่ และเมื่อเด็กผู้ชายคนนั้นหันมาสบตากับเธอ เธอก็ยิ้มให้กับเขาอย่างเป็นมิตรแล้วเดินเข้าไปใกล้ด้วยอาการเก้อเขินเล็กๆ
"ฉันเป็นแฟนคลับเธอมาแล้วแล้วล่ะ แต่ฉันไม่กล้าจะเข้ามาคุยกับเธอซะทีน่ะแฮรี่" เธอพูดกับแฮรี่ด้วยคำพูดที่ติดขัดเล็กน้อยและใบหน้าแดงก่ำ และหลังจากพูดจบเธอก็วิ่งกลับไปหิ้วกระเป๋าของเธอแล้วขึ้นรถไฟไปในทันที


"ปู๊นนนนนน . . . ปู๊นนนนนนนนนน"


เสียงหวูดรถไฟเตือนครั้งสุดท้ายดังขึ้น ทำเอาทุกคนที่ยังคงฝันเฟื่องอยู่ตื่นจากภวังค์ขึ้นมาทันที หลังจากนั้นความวุ่นวายโกลาหลกับเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจก็กลับคืนมาอีกครั้ง ทั้งนร.ปีหนึ่งจนถึงปีเจ็ดต่างเร่งรีบหิ้วกระเป๋าอันหนักอึ้งของตนขึ้นไปบนรถไฟ และเมื่อนร.คนสุดท้ายกระโดดขึ้นรถไฟในวินาทีสุดท้ายรถไฟก็ออกจากชานชาลาทันที

แฮรี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ และจินนี่ต่างเดินไปยังตู้รถไฟที่พวกเขาได้วางกระเป๋าจองไว้แล้วพลางพูดคุยกันถึงปรา
กฏการณ์ที่ชานชาลาเมื่อกี้นี้

"แฮรี่ นายเห็นเธอมั้ย ให้ตายเหอะ ฉันไม่เคยเห็นใครน่ารักขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเลยนะ นายว่ามั้ย" รอนพูดขึ้นมีท่าทางเหมือนคนที่ยังไม่ตื่นจากความฝันดีนัก

"รอน!! เธอไม่คิดว่าเธอน่ะ เว่อเกินไปหน่อยหรอ" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ

"ไม่นี่เฮอร์ไมโอนี่ ฉันว่ามันก็เหมาะสมแล้วกับผู้หญิงสวยๆน่ารักๆอย่างนั้นน่ะ" เฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้าตกใจสุดขีดที่ประโยคที่เพิ่งได้ยินนั้นไม่ได้ออกมาจากปากของรอน
แต่กลับกลายเป็นแฮรี่

"แฮรี่!! เธอก็เป็นไปด้วยหรอเนี้ย" เฮอร์ไมโอนี่แทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอได้ยินแฮรี่พูดประโยคเมื่อกี้นี้ออกมา

"นี่เฮอร์ไมโอนี่ จะเป็นอะไรไปเล่าที่เราสองคนน่ะจะสนใจผู้หญิงน่ารักๆซักคน เออ ถ้าฉันหรือแฮรี่ไปสนใจผู้ชายล่ำๆแมนๆซักคนขึ้นมาล่ะก็ นั่นล่ะถึงจะน่าตกใจ" รอนพูดติดตลกแล้วทั้งเขา แฮรี่และจินนี่หัวเราะเสียงดังออกมาพร้อมกันทันที แต่รู้สึกเหมือนเพื่อนสนิทแสนสวยของพวกเขาจะไม่ตลกด้วยเท่าไรนัก

"ฮึ ผู้ชาย" เฮอร์ไมโอนี่พึมพำเบาๆ

"เธอว่าอะไรนะเฮอร์ไมโอนี่" จินนี่กลั้นหัวเราะเอาไว้แล้วพูดออกมาอย่างยากลำบากก่อนจะกลับไปหัวเราะต่อ

"ไม่มีอะไร"

"มีใครรู้จักสาวน้อยแสนสวยคนนั้นมั้ยล่ะ ว่าไงเฮอร์ไมโอนี่ จินนี่"รอนถามต่ออย่างไม่คิดอะไร

"ไม่รู้สิ ฉันอาจจะไปถามลูน่าให้ว่าเค้าอยู่เรเวนคลอรึเปล่า เธอคงไม่ใช่นร.ใหม่แน่ๆเพราะดูเหมือนจะอายุเท่าๆกับพวกเรานะ" จินนี่วิเคราะห์ขณะเปิดประตูตู้ แล้วเข้าไปนั่งที่นั่นข้างใน

"ได้เรื่องยังไงบอกกันด้วยนะ จินนี่ อยากก็อยากรู้เต็มแก่แล้วล่ะว่าเธอคนนั้นเป็นใคร นายเห็นรึเปล่า เธอเดินเข้ามาทักฉันแล้วบอกว่าเป็นแฟนคลับฉันมานานแล้วนะแต่ไม่กล้ามาทัก ฉันล่ะอยากให้เธอกล้ามาทักฉันเร็วกว่านี้ซักปีสองปีจริงๆเลย จะได้มีเวลาจีบนานๆคบกันนานๆหน่อย มาเจอกันปีนี้ถ้าเธอคนั้นไม่ได้อยู่ปี7ด้วยกันก็คงไม่ค่อยจะได้เจอกันนอกจากทางจดหมา
ย" แฮรี่พูดด้วยความภาคภูมิใจและเสียดายเล็กน้อยแล้วถามต่อว่า "แล้วเธอล่ะเฮอร์ไมโอนี่ รู้จักมั้ย"

"รู้สึกเธอจะสนใจเขาเหลือเกินนะแฮรี่" เฮอร์ไมโอนี่พูดน้ำเสียงเย็นชา

"เฮ้!! เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะคิดอะไรมากมายนักน่ะ ก็บอกแล้วไงว่าให้พวกเราสนใจผู้หญิงยังดีกว่าให้พวกเราไปสนใจผู้ชายด้วยกันเป็นไหนๆ. . ." รอนพูดยังไม่จบประโยคดีก็ต้องหยุดก่อนเพราะสายตาอันน่ากลัวของเฮอร์ไมโอนี่

"ฉันไม่เข้าใจเธอจริงๆเลยเฮอร์ไมโอนี่ จะเป็นอะไรกันนักหนา นี่. . . ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันขอฆ่าตัวตายซะยังจะดีกว่าถ้าวันหนึ่งฉันเกิดหันไปสนใจผู้ชายมากกว่าผู้หญิงน่ะ" แฮรี่ยังคงล้อต่อไปโดยไม่สังเกตสายตาที่ทั้งโกรธ ทั้งผิดหวัง และเสียใจของเฮอร์ไมโอนี่

"ไม่รู้สิ บางทีฉันอาจจะอยากให้เธอสนใจผู้ชายมากกว่าผู้หญิงก็ได้นะแฮรี่" เฮอร์ไมโอนี่พูดโพล่งออกมาด้วยความโกรธ

"อะไรนะ" เด็กหนุ่มสองสหายตะโกนก้องพร้อมกันทำให้เกินเสียงสะท้อนไปมาในตู้รถไฟนั้นเป็นเวลานา


"เธอคิดยังงั้นได้ไงน่ะเฮอร์ไมโอนี่" แฮรี่ที่ค่อนข้างตกใจกับประโยคเมื่อกี้พูดขึ้นมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวว่าเธอชักจะพูดอะไรมากเกินไปหน่อยแล้ว

"เอ่อ... คือ... ฉัน... จริงสิ ฉันต้องไปที่รถไฟตู้หน้าไปสั่งงานพรีเฟ็คนี่นา ฉัน... ฉันคงต้องไปแล้วล่ะนะ แล้วเจอกัน" เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งกำลังหน้าแดงด้วยสาเหตุอะไรซักอย่างที่ทั้งสองหนุ่มไม่รู้ รีบเปิดประตู้และวิ่งไปทางหัวรถไฟทันที

"เขาเป็นอะไรของเขานะ" รอนถามขึ้นลอยๆ ด้วยอาการงุนงง


@@@@@@@@@@@@@@@


เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งขณะนี้กำลังวิ่งไปตามระเบียงทางเดินของรถไฟกำลังรู้สึกว่าตัวเองหน้
าร้อนผ่าวและเขินอายอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ด้วยที่เธอเพิ่งคิดได้ว่าคำตอบของเธอที่จะตอบคำถามของแฮรี่นั้นหมายความว่าอย่างไร

"ก็ฉันแค่อยากจะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในสายตาของเธอนี่" เธอพึมพำคำตอบแล้วก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

หลังจากเฮอร์ไมโอนี่วิ่งออกจากตู้ไปได้ไม่นานนัก ประตูก็เปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับร่างๆหนึ่งที่ปรากฏที่หน้าประตู ร่างที่ทำให้คนในตู้ถึงกับนิ่งงันไปทันที...


To be continue
มาต่อใหม่นะ

Jan_Tifฯ:
ว้าวๆๆๆๆๆๆ

สนุกดีจัง

มาต่อเร็วๆ นะคะ รออยู่

nuknic:
สนุกดีค่ะ

มาต่อเร็วๆนะคะ :-[ :-[

หมั่นโถว:
สนุกดีค่ะ มาต่อเร็วๆนะ
รออยู่...

parn_hp:
หนุก ดี ๆๆๆ  อิอิ  :)

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version