Fans !!! > Fan Fiction [ ฉบับยังไม่สมบูรณ์ ]

8/5/10 Fic [Draco/Hermione] เรื่อง Because..I love You อัพตอนที่ 6 แล้ว

<< < (2/6) > >>

modtanoi1626:
หวัดดีค่ะ..

ในที่สุดก็ได้อัพตอนที่ 2 ซะที หลังจากดองไว้เกือบจะได้ที่แหละ..^^

ตอนที่ 2 นี่ ช่วยเป็นกำลังใจให้พัชด้วยนะค่ะ

ขอคอมเม้นทักทายกันหน่อยนะค่ะ จะได้มีกำลังแต่งต่อไป  ติ อะไร ว่า อะไรได้นะค่ะพัชจะได้ปรับปรุงแก้ไข

ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านค่าาาาาา

_______________________________________________________________________________

ตอนที่ 2


 แสงแดดอ่อนในยามเช้ากำลังจะหมดลง..เวลานี้เป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว ..เดรโกเผลอนั่งหลับอยู่ข้างๆ เตียงของเค้า ในมือ
ยังคงถือรูปเฮอร์ไมโอนี่ไว้แนบอก..เค้าหลับสนิทเสียจนไม่รู้สึกเลยว่า มีใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในบ้านของเค้า..
เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นไม้เนื้อแข็งชั้นดี.......จังหวะการก้าวของฝีเท้า ไม่ช้า ไม่เร็ว และ หยุดเดิน ในบางช่วง
ลักษณะเหมือนกำลัง ค้นหาอะไรบางอย่าง....เสียงฝีเท้าเดินขึ้นมาที่บันไดอย่างไม่ยอมหยุด...เสียงฝีเท้านั้นใกล้เข้ามายังห้องนอนของเดรโก
ขึ้นทุกที ทุกที    ..... และหยุดลงที่หน้าห้อง เสียงหมุนลูกบิดประตูดังขึ้น ....เมื่อประตูเปิดออก..

เจ้าของเสียงฝีเท้านั้น เดินตรงเข้ามาหาเดรโกอย่างรวดเร็ว

"เดรโก...เดรโก  มัลฟอย...." เจ้าของฝีเท้าหยุดยืนอยู่หน้าเดรโก พร้อมตะโกนปลุกเค้าให้ตื่น

เดรโกสะดุดตื่นขึ้น เมื่อได้ยินเสียงแหลมบาดหูของคนปลุก เค้าหันขึ้นไปมองที่ต้นเสียงโดยเร็ว..ก่อนจะพบว่า ต้นเสียงนั้นไม่ใช่ใครเลย..เธอ..คือคนที่เค้าคุ้นเคยมานาน

"ว่าไง..แพนซี่.." เดรโกทำท่าเหนื่อยๆ ก่อนจะยืนขึ้น วางรูปเฮอร์ไมโอนี่ไว้ที่เดิม

"ทำตัว..ตายซาก ตามเดิมนะ เดรโก" แพนซี่ กล่าวอย่างอเหน็ดอนาถใจ เมื่อเห็นเดรโก สภาพไม่ต่างจากผีดิบซะเท่าไหร่ ต่อให้ปกติเค้าจะเหมือนอยู่แล้วก็ตาม

"ช่างชั้นเถอะ..แพนซี่.." เดรโก รีบบอกปัด ก่อนที่เพื่อนสาวของเค้าจะบ่นอะไรต่อมิอะไรยืดยาว เค้านั่งลงบนเตียง พลางก้มหน้าใช้มือนวดขมับ 2 ข้าง
ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นถามแพนซี่

"เธอ..มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่" เดรโกถามด้วยน้ำเสียงสงสัยในการมาถึงของเพื่อนสาว

"เมื่อวานนี้เอง..ชั้นจะกลับอาทิตย์หน้า..วันนี้เลยแวะมาหาเธอ.." แพนซี่ตอบคำถามเค้า พลางยืนมองหน้าเพื่อนชายของเธอ..เค้าดูไม่เหมือน
เดรโก คนที่เคยเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์เลย ใบหน้าเค้าเหมือนผ่านสงครามเลวร้ายมาแสนสาหัส

"เธอกินอะไรหรือยัง.." แพนซี่ถามเค้าด้วยความเป็นห่วง น้ำเสียงของเธออ่อนโยนมาก แต่เดรโกไม่ได้ ตอบอะไร เค้าเพียงแค่ ส่ายหน้าเบาๆ เท่านั้น

"โอเค..งั้นจัดการตัวเธอให้เรียบร้อยซะ..ชั้นจะลงไปข้างล่าง..ทำอะไรให้เธอกิน" เมื่อพูดจบ แพนซี่จึงเดินออกจากห้องไป เดรโกลุกขึ้นจากเตียง
ตรงไปที่ห้องน้ำ เค้าจัดการชำระล้างใบหน้าให้รู้สึกตาสว่างขึ้น

ขณะที่ เดรโกกำลังเดินลงไปชั้นล่าง เค้าได้ยินเสียง แพนซี่บ่นอู้อี้ เหมือน หมีกินผึ้งอยู่ในห้องครัว  เดรโกจึงเดินตรงเข้าไปในห้องครัว เค้าหยุดยืนที่หน้าห้อง
ภาพที่เค้าเห็นคือ แพนซี่ ยืนเท้าเอว มองตู้เย็นเค้า

"ให้ตายสิ...เดรโก..เธอกินอะไรมั้งไหมเนี่ย..ดูสิ..ตู้เย็นเธอ..ไม่มีอะไร..นอกจากน้ำกับเบียร์" แพนซี่หันมาบ่นเดรโก เมื่อเธอรู้ว่าเค้ายืนอยู่ตรงประตูห้อง

เดรโก ชี้นิ้วไปที่ เคาส์เตอร์ด้านหลังแพนซี่

"ไวน์  แชมเปญ บรั่นดี ก็มีนะ...เธอจะกินอะไรหล่ะ" เดรโกพูดน้ำเสียงยานคาง แต่แพนซี่รู้สึกไม่สบอารมณ์กับคำตอบนั้นเลย
เธอเดินตรงไปที่เค้า และทำท่าเท้าเอวอีกครั้ง

"ชั้นหมายถึง..อาหาร..เดรโก..อาหาร..ไม่ใช่..ของมึนเมาของมักเกิ้ลพร้อมนี้" น้ำเสียงแพนซี่ดูไม่ค่อยจะดีนัก

"อ๋อ..ถ้าเรื่องนั้นก็ต้องไปกินข้างนอก.." เดรโกเหมือนจะรู้แล้วว่า ไม่ควรจะ กวนอารมณ์เธออีก ไม่อย่างงั้นเค้าอาจจะถูกสาปให้กลายเป็นวัสดุเพื่อทำอาหารกลางวันก็ได้

"งั้นไปแต่งตัว..เราจะไปกินข้าวข้างนอกกัน..ชั้นหิวแล้ว..และเรามีเรื่องต้องคุยกันด้วย..ให้เร็วนะ เดรโก" เธอออกคำสั่งน้ำเสียงเด็ดขาด  เดรโกไม่ตอบอะไรต่อ
เค้าเดินขึ้นไปเตรียมเครื่องแต่งกายบนห้องนอน..หยิบเสื้อคลุม..และกระเป๋าสตางค์ลงมาด้วย เค้าเดินลงมาถึงชั้นล่าง ก็เจอแพนซี่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก เธอมองซ้าย
มองขวา ไปรอบๆ ห้องรับแขก

"ว๊าว..รู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นสลิธิลีนเลยนะ" เธอหันมาพูดกับเดรโกน้ำเสียงฟังดูประชดประชัน มากกว่าจะฟังดูดีใจ   เดรโกมองดูเธอแล้ว กรอกตาไปรอบ
ในใจก็คิดว่า เธอจะบ่นอะไรนักหนา..เป็นยายแก่หรือยังไงกัน  เดรโกใช้นิ้วกระดิกเรียกแพนซี่ให้ออกมา เค้าเดินนำเธอออกไปก่อน แพนซี่จึงเดินตามเค้าออกมา
เดรโก หันไปล็อคประตูบ้านสีดำบานใหญ่ และ เดินตรงไปที่โรงเก็บรถ แพนซี่เดินตามเดรโกไป และยังมองเค้าด้วยความสงสัย

"เธอ..ไม่มีเอลฟ์ประจำบ้านหรอ" แพนซี่ถามด้วยความสงสัย เพราะคนอย่างเดรโก  มัลฟอย ไม่น่าต้องมาทำอะไรเองแบบนี้  เดรโกหยุดเดินและหันกลับไปหาแพนซี่

"ชั้น...ยังไม่อยากข้องแวะ กับโลกเวทมนต์ตอนนี้..แพนซี่..เรามีแม่บ้านมักเกิ้ลมาทำความสะอาดให้..อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ..โอเคมั๊ย" เดรโกพูดตัดรำคาณแพนซี่
เค้ารู้สึกเหนื่อยสมองจริงๆ กับเพื่อนสาวคนนี้.."ยิ่งอายุมากขึ้นความจู้จี้ของเธอมันเพิ่มตามอายุหรือยังไงกันนะ" เดรโกนึกรำคาณแพนซี่นิดๆ
ถ้าหากเค้าเป็น เดรโก มัลฟอย คนเก่า แพนซี่คงโดนเค้าตะหวาดและไล่ตะเพิดกลับบ้านไปแล้ว..แต่ตอนนี้เค้าโตเป็นผู้ใหญ่อายุมากขึ้น
สติและความอดทนก็มากขึ้น ประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มันทำให้เค้าเข้มแข็ง..แต่มีเพียงเรื่องเฮอร์ไมโอนี่เท่านั้น..ที่มันยังคงทำให้เค้า แพ้และอ่อนแอ อยู่เสมอ

เดรโกเดินมาถึงโรงเก็บรถขนาดใหญ่ ภายในมีรถยนต์จอดอยู่หลายคัน เค้าเดินตรงไปที่ รถ BMW สีดำขลับที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก
แพนซี่ ยืนมองเดรโกอยู่ด้านนอกโรงเก็บรถ อย่างทึ่งๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่า คนที่จงเกลียดจงชัง มักเกิ้ล อย่างเค้า จะอาศัยอยู่แบบมักเกิ้ล ใช้สิ่งประดิษฐ์ที่มักเกิ้ลสร้างขึ้นในการดำรงชีวิต
เดรโกขับรถออกมาจอดข้างๆ แพนซี่  เธอเปิดประตูและเข้าไปนั่งข้างๆ เค้า
เดรโกขับรถยนต์คันงาม ไปเรื่อยๆ จนมาถึงถนนเล็กๆ ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ในเขตที่อยู่อาศัยชนชั้นกลางในกรุงปารีส
ในใจเค้าก็เหม่อลอย คิดอะไรฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อย ร่างกายเค้าเองก็ เหนื่อยอ่อน เพราะเวลานอนหลับทุกครั้งเค้ามักจะสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก
เนื่องจากฝันถึงเหตุการณ์ร้ายๆ ต่างๆ นานาและไม่ได้หลับตานอนอีกจนกระทั่งเช้า

"เดรโก..ระวัง !!!!" เสียงหวีดร้องของ แพนซี่ พาร์กินสัน ดังลั่นขึ้น ทำให้เค้าสะดุ้งตกใจ เหยียบเบรคเข้าเต็มแรง รถยนต์เบรคตัวเองด้วยความแรง
ทำให้ล้อสีกับถนนเกิดเสียงดังขึ้นบริเวณนั้น เดรโกตั้งสติได้ เค้ารีบวิ่งลงจากรถ เพื่อดูว่า มีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่
เดรโกเห็นร่างเด็กน้อยคนหนึ่ง นั่งคุกเข่า ใช้มือ 2 ข้างปิดหูไว้ด้วยความหวาดกลัว อยู่ที่หน้ารถเค้า

"หนูน้อย..เธอเป็นอะไรหรือเปล่า...เจ็บตรงไหนมั๊ย?" เดรโกถามด้วยความเป็นห่วง น้ำเสียงเค้าสั่นไหว เต็มไปด้วยความกังวล
เด็กน้อยหันหน้าขึ้นมา..เดรโกกลับต้องรู้สึกประหลาดใจขึ้นอีกครั้ง

"อ้าว!!..เด็บบี้" เดรโกกล่าวทักเด็กหญิง น้ำเสียงเค้าฟังดูประหลาดใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก แถมยังในสถาณการณ์เช่นนี้ด้วย
เด็กน้อย มองหน้าเดรโก ใบหน้าสวยงามของเธอ แสดงอาการตกใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอไม่ได้ร้องไห้โยเย เหมือนเด็กอื่นๆ  เธอลุกขึ้นยืนและกล่าวทักเดรโกอย่างน่าขัน
"อ่อ..คุณ...สวนสาธารณะ" น้ำเสียงใสซื่อของเด็กน้อย ที่ไม่รู้จะเรียกเค้าว่าอะไร ทำให้เดรโกถึงกับอมยิ้มออกมา
"ชั้นชื่อ มัล...เอ่อ..ชั้นชื่อ เดรก " เดรโกบอกกับเด็กหญิงด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร เค้าคิดว่าไม่อยากแนะนำตัวเองหรือให้ใครต่อใครเรียกเค้าด้วยชื่อสกุลนั้นอีกแล้ว
มันฟังดูโหดร้ายและน่ากลัว เค้าไม่ได้ภูมิใจ ในชาติตระกูลนี้เลย ตัวเค้าเองไม่ได้ต้องการให้ใครต่อใครกลัวเค้าหรือมองเค้าอย่างน่ารังเกียจ
เด็บบี้ ยิ้มเบาๆ ให้เค้า  เดรโกพลางนึกขึ้นมาได้

"เอ่อ...เด็บบี้..เธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" เดรโกพลางจับร่างเล็กๆ หมุนไปรอบๆ
"หนูไม่เป็นอะไรค่ะ..แค่ตกใจเท่านั้น" เด็บบี้เดินถอยหลัง เว้นระยะห่างของเธอกับเดรโกเล็กน้อย
"บ้านหนูอยู่แถวนี้หรอ..เด็บบี้" เดรโกถามด้วยความสงสัย เพราะเค้าเจอเธอแถวนี้ 2 ครั้งแล้ว
"เปล่าค่ะ...บ้านหนูอยู่ย่าน Passyหน่ะ" เด็กน้อยตอบเดรโก พลางใช้มือน้อยปัดกระโปรงสีชมพูที่เปื้อนฝุ่น
เดรโกมองหน้าเด็กน้อยอย่างสงสัย..บ้านเธออยู่ไกลจากที่นี้ตั้งเยอะลำพังเด็กหญิงตัวเล็กๆ แบบนี้จะมาเอาได้ยังไง
"แล้วนี่..เธอมาทำอะไรแถวนี้หน่ะเด็บบี้..ใครพามา" เดรโกรู้สึกเป็นห่วงเด็กหญิงมาก จนเค้ารู้สึกแปลกใจในตัวเองเหมือนกัน
"อ่อ...หนูมาอยู่บ้าน คุณริเน่..เธอดูแลบ้าน..และดูแลหนู..วันนี้แม่จะกลับดึกเลยให้หนูมาอยู่กับริเน่ก่อน" เด็บบี้ตอบเค้าพร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย
เดรโกมัวแต่ห่วงใย เด็กน้อยจนลืมไปว่า เค้ามีธุระที่จะต้องไปและมีคนคอยเค้าอยู่ เด็บบี้มองเข้าไปในรถยนต์ของเดรโก
"หนูว่า..คุณควรไปได้แล้ว..เพื่อนของคุณคงกำลังคอยอยู่" เด็บบี้ละสายตาออกจากรถและมองมาที่เดรโกเหมือนจะช่วยเตือนสติเค้า
"เอ่อใช่..ชั้นลืมไปเลย...โอเค..เด็บบี้..เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว..งั้นชั้นต้องไปแล้วนะ..เอาไว้เจอกันวันหลัง..ชั้นจะเลี้ยงเค้กเธอเป็นการขอโทษแล้วกัน" เดรโกรีบพูดก่อนจะรีบเดินไปที่รถยนต์อย่างเร็ว
เด็กหญิงตัวน้อยเดินขึ้นมาจากถนน เธอขึ้นมายืนบนทางเท้า พร้อมโบกมือให้เดรโก

แพนซี่มองเดรโกด้วยความสงสัย ก่อนเธอจะเอ่ยปากถาม ..แต่ชายหนุ่มก็ถามขึ้นซะก่อน

"เธอมีปัญหาอะไรกับชั้นงั้นหรือ..แพนซี่" เดรโกถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น

"เด็กคนเมื่อกี้...ใครกันหรอ..ดูเธอสนิทกับเค้าจัง" แพนซี่ถามคำถามขึ้นและยังมองเดรโกไม่เลิก

"อ่อ..พอดีเมื่อเช้า..ชั้นบังเอิญไปนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับเธอที่สวนสาธารณะ" เดรโกตอบด้วยน้ำเสียงเฉยชาไม่แสดงถึงความแปลกใจอะไรในคำถาม

"ชั้นว่า..เด็กนี้...เหมือนเธอจัง...เธอคิดงั้นไหม" แพนซี่ถามเค้า ด้วยท่าทีดูเหมือนตื่นเต้น
เดรโก ผละจากการตั้งใจมองถนน หันมามองหน้าแพนซี่ครู่เดียว

"เธอคิดว่างั้นหรอ..แพนซี่" เดรโกถามเพื่อนสาวของเค้าด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่า เธอก็คิดแบบเดียวกับเค้า
แพนซี่ไม่ได้ตอบอะไรเดรโกต่อ ทั้งคู่อยู่ในบรรยากาศเงียบเชียบ ไม่นานเดรโกก็ขับรถยนต์มาถึงย่านถนนที่มีภัตตาคารและร้านอาหารชื่อดังมากมาย

"ตกลง...เธอจะกินอะไร แพนซี่" เดรโกถามขึ้นเพราะ ไม่รู้ว่าจะเลือกร้านไหนให้ถูกใจเพื่อนของเค้า

"ปกติเธอกินที่ไหนหละ" แพนซี่ถามเค้าต่อ เพราะเธอเองไม่ได้มาฝรั่งเศสบ่อยนักและไม่ได้อยู่ครั้งละนานๆ จึงไม่รู้ว่าร้านไหนดีหรือไม่ดี

"ถ้างั้น..กินฟัวกราส์..ไหม" เดรโกเอ่ยชวนแพนซี่ขึ้น เพราะเค้าก็ไม่รู้จะพาเธอไปกินอะไรที่มันดีไปกว่านี้อีกแล้ว..

"ก็ได้..ตามใจเธอเลย" แพนซี่ตอบสนองความคิดเค้า เดรโกจึงขับรถยนต์ไปจอดไว้หน้าภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง 
เดรโกเดินลงจากรถยนต์ ทันใดนั้นก็มีบริกรเดินมาหาเค้าอย่างเร่งรีบ

"ยินดีต้อนรับครับ..เมอซิเออร์..ผมจะเอารถไปเก็บให้นะครับ" บริกรกล่าวต้อนรับทั้งคู่เป็นภาษาฝรั่งเศส พร้อมกับก้มศีรษะลง  เดรโกยืนมองบริกรคนนั้น พร้อมผงกศีรษะให้เล็กน้อย

"ขอบใจมาก" พูดจบ เดรโกจึงเดินขึ้นบันไดภัตตาคารพร้อมกับมีแพนซี่เดินตามหลัง
ภายในภัตตาคารหรูหราและโอ่อ่า การตกแต่งเป็นรูปแบบฝรั่งเศสขนานแท้ ตกแต่งด้วยความประณีตบรรจง
และมีวงดนตรีคลาสติกบรรเลงเพลงเบาๆ อยู่ภายในภัตตาคาร
ขณะที่เดรโกกับแพนซี่กำลังเดินเข้าไปในภัตตาคารก็มีผู้จัดการของภัตตาคาร เดินมาหาพวกเค้า

"ไม่ทราบว่า..ท่านได้จองไว้ไหมครับ" ผู้จัดการภัตตาคารกล่าวด้วยความนอบน้อม

"ไม่ได้จองไว้" เดรโกตอบเสียงเรียบๆ

"ไม่ทราบว่า..วันนี้กี่ท่านครับ..เมอซิเออร์ " ผู้จัดการถามด้วยมารยาท

"2" เดรโกแสดงน้ำเสียงที่เริ่มอาการไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก..("ถ้าแก..ถามชั้นอีกคำถามเดียว ..ชั้นจะให้แกได้เต้นประกอบเพลงรอบร้านแน่")เดรโกคิดในใจด้วยอารมณ์เริ่มหงุดหงิด

"ถ้า..ถ้าเช่นนั้น..เชิญทั้ง 2 ท่านทางด้านนี้ครับ" ผู้จัดการภัตตาคารลุกหลีลุกลน..เค้ารู้ถึงปฏิกริยาไม่พอใจของเดรโก เค้ารีบนำทางทั้งคู่ขึ้นชั้น 2ของภัตตาคาร
และนำทางไปที่โต๊ะอาหาร  บริกรที่ยืนอยู่ระแวกนั้น เดินมาที่โต๊ะของทั้งคู่ พร้อมขยับเก้าอี้ให้แพนซี่นั่ง

"ขอบใจ" แพนซี่กล่าวสั้นๆ กับบริกรที่ขยับเก้าอี้ให้เธอ

"เมนูอาหารครับ" บริกรคนหนึ่งส่งเมนูอาหารให้เดรโกและแพนซี่

"เธอ..จะกินอะไร " เดรโกถามแพนซี่ ในขณะที่เค้านั้นก็มีเมนูอยู่ในใจแล้ว

"อืม..อะไรก็ได้แล้วแต่เธอแนะนำแล้วกัน" แพนซี่วางเมนูลงบนโต๊ะ เธอนั่งใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางไว้

"ถ้างั้น..เราทั้งคู่ขอ ฟัวกราส์ แล้วก็ ไวน์ Sauternes ของ Bordeaux ด้วย 1 ขวด" เดรโกหันไปสั่งกับบริกรที่อยู่ข้างๆ เค้า  บริกรจดรายการอาหารอย่างเร็วและเก็บเมนูอาหารออกไปจากโต๊ะ

เดรโกนั่งมองหน้าแพนซี่ สีหน้าเธอดูมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่มาก

"เธอกับวิสลีย์เป็นยังไงกันบ้าง..แพนซี่" เดรโกถามเธอขึ้น อีกฝ่ายหันมาด้วยความแปลกใจที่ จู่ๆ เค้าก็ถามเธอเรื่องนี้

"ก็ดีนะ..รอน ดีกับชั้นและลูกๆ มาก เค้ารักเด็กๆ และครอบครัว..เค้าพยายามทุกอย่าง เพื่อให้ชั้นและลูกๆ อยู่กันอย่างสุขสบาย" สีหน้าแพนซี่สะท้อนความรู้สึกภาคภูมิใจในสามีของเธอ

"งั้นหรอ..ไม่น่าเชื่อเลยนะ..คนเหยาะแหยะอย่างวิสลีย์..จะมีความพยายามขนาดนี้" เดรโกพูดเสียงยานคางตามลักษณะปกติของเค้าและพลางยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
 เค้าไม่ได้ดูถูก รอน วีสลีย์ เลย แต่กลับรู้สึกดีใจแทน แพนซี่ ที่ได้มีความสุขในชีวิตแต่งงานกับคนที่เธอรัก

"ใช่...รอน...พยายามมากเลย..ชั้นรู้ว่าเค้าลำบากและอึดอัดใจมากแค่ไหน...เพราะฐานะทางบ้านเค้าเองก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย...แล้วไหนจะพ่อแม่ชั้นอีก
พวกเค้าคัดค้านที่เราแต่งงานกัน..เพราะเหตุผลแค่ครอบครัวรอนยากจน..จนป่านนี้แล้ว พวกเค้าก็ยังไม่ยอมรับพวกเราเลย..." แพนซี่พูดระบายเรื่องราวอึดอัดใจให้เพื่อนรักของเธอฟัง
นัยน์ตาสีดำขลับเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
เดรโกมองเธอ พร้อมกับค่อยๆ เลื่อนมือเรียวยาวเกาะกุมมือเล็กๆ ของเธอไว้

"ไม่เป็นไรนะ...ยังไง วีสลีย์ก็รักเธอ..ยังไงก็ดีกว่าชั้น.........." เดรโกมองแพนซี่และยิ้มให้เธอเบาๆ เพื่อสื่อให้เธอรู้ว่า เค้าจะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอ ก่อนจะถอนมือออกเบาๆ

"ขออภัยครับ..ขออนุญาติเสริฟ์เครื่องดื่มนะครับ" บริกรหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาทางด้านซ้ายของเดรโก พร้อมกับรินไวน์ชั้นเลิศ ที่ใช้ทานคู่กับฟัวกราส์ อย่างมีมารยาทที่สุด
เมื่อรินไวน์ให้เดรโกเสร็จ บริการหนุ่มจึงรินให้ทางแพนซี่ เมื่อเสร็จสิ้นหน้าที่ เค้าจึงโค้งตัวและเดินหันหลังกลับไปยืนประจำที่เดิม

"ใช่..เธอแย่กว่าชั้นเยอะ..เดรโก...เพราะมีเธอชั้นถึงคิดได้ว่า ปัญหาของชั้น มันแค่เรื่องเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับเธอ..ถ้าเกรนเจอร์ไม่ใช่มักเกิ้ล...ป่านนี้พวกเธอคงมีความสุขมากกว่าคู่ไหนๆ บนโลกไปแล้ว" แพนซี่ยิ้มให้เดรโก อย่างเห็นใจเค้า
เดรโกสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะปล่อยออกมาเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดภายในจิตใจ เค้ามองใบหน้าเพื่อนสาว ก่อนจะเอ่ยปากถามเรื่องที่เธอต้องการคุยกับเค้า

"ว่าแต่...เรื่องที่เธอบอกว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องการคุยกับชั้นหน่ะ..เรื่องอะไร..แพนซี่" เดรโกจ้องมองใบหน้าหล่อนอย่างสงสัย

"เอ่ย....เรื่อง....เรื่องของ เกรนเจอร์ หน่ะ" แพนซี่เอ่ยปากบอกเค้าด้วยความลังเล ในใจไม่รู้ว่า ควรจะพูดดีไหม เพราะมันจะยิ่งเป็นการย้ำเตือนให้เดรโก รู้สึกสะเทือนใจมากไปกว่าที่เป็นอยู่ แต่หากเธอไม่พูด เค้า
ก็ไม่อาจฉุดตัวเอง ขึ้นมาจากก้นเหวแห่งความเศร้าหมองได้
เมื่อได้ยินเรื่องที่ต้องการพูดคุยของแพนซี่ เดรโกมีท่าทีเปลี่ยนไปจากเดิม เค้าดูตื่นเต้นพร้อมทั้งดูตื่นตะหนก
"เธอ....ทำไม....เฮอร์ไมโอนี มีอะไรงั้นหรอ"  เค้าเอ่ยปากถามแพนซี่อยากเร็ว
แต่ยังไม่ทันที่แพนซี่จะกล่าวอะไร
"ขออภัยครับ...ขออนุญาติ..เสริฟ์อาหารครับ" บริกรหนุ่ม 2 คน โค้งตัวเบาๆ เล็กน้อย ก่อนจะวางจานฟัวกราส์ หอมกรุ่น ชวนให้ลิ้มลอง ต่อหน้าเดรโก และ แพนซี่ เมื่อเสร็จหน้าที่ บริกรทั้ง 2 จึงเดินจากตรงนั้นไป
"อืม...น่ากินดีนะ.." แพนซี่ยิ้มให้กับอาหาร พลางหยิบส้อมและมีดขึ้นมา เธอไม่ได้สังเกตุเห็นเลยว่า เพื่อนร่วมโต๊ะนั่น หงุดหงิดและไม่มีอารมณ์ที่จะทานฟัวกราส์แสนอร่อยตรงหน้าเลย
"แพนซี่......" เดรโกเรียกชื่อเธอ เน้นน้ำเสียงเบาๆ "พูดเรื่องเฮอร์ไมโอนี ก่อนได้ไหม" เดรโกร้อนรนมาก เค้าต้องการฟังเรื่องของคนรักโดยเร็วที่สุด
แพนซี่รู้สึกเซ็งเล็กน้อยที่เดรโก จู่ๆ ก็ขัดอารมณ์ความอยากกินของเธอ เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่อง
"เฮ้อ..~..โอเค..ได้...เรื่องที่ชั้นจะพูดก็คือ...ชั้นสงสารเธอ ที่เห็นเธอทนทุกข์เพราะ เกรนเจอร์หายตัวไป เลยขอให้ รอนช่วยตามหา..ชั้นก็เลยรู้ว่า..ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวหรอก..ที่ตามหาเกรนเจอร์ ..ทั้งรอนและพอตเตอร์เอง ก็ตามหาเหมือนกัน"
เมื่อได้ฟัง เดรโกรู้สึกงุ่นงงกับเรื่องราว แพนซี่จ้องมองหน้าเค้าและเริ่มเล่าต่อ
"รอนบอกว่า พอตเตอร์ให้เพื่อนที่เป็นมักเกิ้ล ทำงานที่เค้าเรียกกันว่า ตำรวจ ช่วยสืบหาให้ แต่ว่า..มันหายากมาก มีคนชื่อแบบเดียวกับ เกรนเจอร์มีเยอะมากจริงๆ ในอังกฤษ และเมื่อพวกเค้าลองสุ่มไปหาตัว ปรากฏว่ามันก็ไม่ใช่เธอ"  แพนซี่เลิกคิ้วขึ้น
ใบหน้าของเธอแสดงความผิดหวังเล็กน้อย เธอมองหน้าเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารท่าทางเค้าดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
"เธอคิดอะไร..เดรโก"
"เธอลองใช้ชื่อกลางของเฮอร์ไมโอนีดูหรือยัง" น้ำเสียงเค้าฟังดูเหมือนรอคอยความหวังให้ มักเกิ้ลตำรวจคนนั้นอาจจะค้นหาไม่ละเอียด เลยไม่เจอสุดที่รักของเค้า
แพนซี่สบสายตาเดรโกอย่างเชื่องช้า ก่อนเธอจะหันลงไปมองและใช้มีดหั่นชิ้นฟัวกราส์
"เฮอร์ไมโอนี เจน เกรนเจอร์ งั้นใช่ไหม" แพนซี่พูดขึ้นในขณะที่เธอกำลังหั่นฟัวกราส์และใช้ส้อมจิ้มมันเข้าปาก
เดรโกมองหน้าเธออย่างแปลกใจ
"ใช่......"
"พวกนั้นลองกันหมดแล้ว..เดรโก..แต่มันไม่ใช่เธอเลยสักคน..ชั้นคิดว่า หล่อนอาจเปลี่ยนชื่อ หรือ ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว..อย่าลืมสิ..ว่าคนรักของเธอ..หล่อนเก่งกาจแค่ไหน...หล่อนอาจใช้เวทมนต์ชั้นสูงที่ทำให้เราหาตัวเธอไม่เจอ..ตลอด 8 ปีมานี่ก็ได้"
แพนซี่พูดพลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบเบาๆ
เดรโกรู้สึกท้อแท้อย่างบอกไม่ถูก เค้านั่งกุมขมับทั้ง 2 ข้าง เค้ารู้สึกเศร้าและเซ็งที่ได้ยินเรื่องนี้  แพนซี่มองหน้าเพื่อนรัก เธอส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความเห็นใจเดรโก แต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย
"เดรโก...ชั้นว่าสิ่งที่เธอทำได้คือ รอปฏิหาริย์...และ......" "ไม่ต้องพูดแล้ว..แพนซี่"  เสียงของเดรโกขัดขึ้นขณะที่แพนซี่กำลังจะพูดต่อ
"ชั้นรู้ว่า..เธอต้องการจะพูดอะไร...ยังไงซะ เธอก็น่าจะรู้ว่า ชั้นรักใครไม่ได้อีกแล้ว..และชั้นเองก็รู้ว่า ถ้าต้องการเลิกรักเฮอร์ไมโอนี ทางเดียวที่ทำได้ คือ ชั้นต้องจบชีวิตตัวเอง....แค่นั้น"
ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียวกลับแดงกล่ำ นัยน์ตาสีเทาเริ่มคลอด้วยน้ำใสๆ เล็กน้อย เดรโกเก็บอาการไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเค้าไม่อยากร้องไห้ออกมากลางร้านอาหารแน่นอน มันเป็นเรื่องที่น่าขายหน้ามาก
แพนซี่เลื่อนมือเล็กๆของเธอ จับมือใหญ่ขาวซีดของเดรโก พร้อมยิ้มให้เค้าเบาๆ
"ก็ได้...ชั้นเข้าใจเธอแล้ว...ชั้นจะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอแล้วกันนะ"
ท่าทีของเดรโกเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว เค้าใช้มือใหญ่ลูบผ่านใบหน้าหล่อเหลาเพื่อเรียกสติกลับคืน ก่อนจะยิ้มตอบเพื่อนรัก
"ขอบใจมาก...แพนซี่  วิสลีย์.." เดรโกพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  แพนซี่ยิ้มตอบเค้าอย่างขบขัน ก่อนจะดึงมือกลับ พร้อมกับเริ่มลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าอีกครั้ง
"ชั้นว่า..ตอนนี้เธอควรจะกินให้มากๆนะ เดรโก จะได้มีแรงตามหาเฮอร์ไมโอนีต่อไป..ไม่งั้นเธออาจจะได้ตาย...ก่อนที่จะเจอหล่อน" แพนซี่พูดประชดประชันเดรโกด้วยความหมั่นไส้ เพราะเค้าดูซูบผอมและอ่อนแรงมาก
"ขอบใจ..คุณนายวิสลีย์..หวังว่านี้คงไม่ใช่ คำพูดที่เธอพร่ำบอกสามีเธอบ่อยๆ หรอกนะ" เดรโกพูดเสียดสีเธอด้วยความขบขัน
"หมายความว่ายังไง...คุณมัลฟอย" แพนซี่มองเดรโกอย่างค้อนๆ  เดรโกเบะปากทำหน้ากวนๆ พร้อมกับยักไหล่
"ก็หมายความว่า..เธอพร่ำบอกวิสลีย์แบบนี้ทุกวันหรือเปล่า..ว่าให้กินมากๆ จะได้มีแรงหาเงินให้เธอพลาน..ไม่งั้น..วิสลีย์อาจจะตายก่อนหาเงินได้มากพอที่จะเป็นค่าช็อปกระหน่ำของเธอ...ฮ่า ฮ่า" เดรโกหัวเราะอย่างพอใจ
"จะบ้าหรอ...ไม่ขนาดนั้นหรอก...แต่ก็เกือบถูกนะ..ฮ่าฮ่า" แพนซี่หัวเราะอย่างชอบใจ
ทั้ง 2 ทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย พลางคุยกันถึงเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมา แพนซี่เล่าให้เดรโกฟังทั้งชีวิตการแต่งงานของเธอ  เรื่องความซุกซนของลูกๆ หน้าที่การงานของรอน
จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง ทั้งคู่ทานอาหารเสร็จและเรียกเก็บเงิน มื้อนี้เดรโกรับหน้าที่เลี้ยงแพนซี่อย่างเต็มที่เพื่อต้อนรับการมาของเพื่อนรัก ที่ครั้งหนึ่งเธอกับเค้าเคยเกือบได้เป็นคู่สามีภรรยากัน แบบคลุมถุงชนตามความพึงพอใจของตละกูล
............................
เดรโกขับรถไปตามทางที่แพนซี่บอก เพื่อไปส่งเธอยังโรงแรมที่เธอพักอยู่
เมื่อถึงหน้าโรงแรมเดรโกจอดรถยนต์สีดำขลับของเค้า
"เธอจะขึ้นไปดื่มอะไรไหม" แพนซี่ถามขึ้น
"ไม่หล่ะ..ขอบใจมาก..สำหรับทุกอย่าง...แพนซี่" เดรโกตอบและยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอ
"ฮึ..แค่นี้เรื่องเล็กน้อยนะ...ชั้นไปหล่ะ..ถ้ามีโอกาสชั้นจะมาเยี่ยมเธออีก..."แพนซี่พูดทิ้งท้ายก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป
เดรโกขับรถยนต์คันงามของเค้าเพื่อกลับบ้าน ระหว่างทางกลับบ้านเค้าขับผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
สายตาเค้าบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์หนึ่งเข้า
เค้ารีบจอดรถบริเวณที่สามารถจอดรถได้ เค้าวิ่งไปยังที่เกิดเหตุโดยเร็ว เมื่อใกล้ถึงที่เกิดเหตุเดรโกหยุดเดินอย่างช้าๆ เพื่อดูสถานการณ์
"ยัยเด็กประหลาด..ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอควรมานั่งนะ..รู้มั๊ยย...มันทำให้พวกเราขนหัวลุก เหมือนอยู่ในป่าช้าเลย" เด็กชายร่างใหญ่ ผมสีน้ำตาลเข้ม ยืนกอดอกพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันกับเด็กหญิงที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ตรงหน้าเค้า
"ช่ายยยยย....พวกเราไม่ต้องการเห็นเธออยู่ที่นี้...เพราะฉะนั้นเธอรีบไปซะ!!!!!" เด็กชายคนหนึ่งพูดเสริม ขณะนี้เด็กชาย 4 คนยืนล้อมเด็กหญิงที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้คนเดียว
เดรโกยืนมองดูเหตุการณ์ เค้ารู้สึกคุ้นตากับเหตุการณ์นี้ นั่นเพราะมันเหมือนชีวิตเค้าเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ชีวิตในฮอกวอตส์ ชีวิตเด็กที่ไม่ต้องคิดอะไร สนุกกับการแกล้งคนอื่นไปวันๆ สนุกกับการค่อยรังแกเลือดสีโคลน
แต่เดรโกกลับไม่รู้สึกสนุกเลย เมื่อยืนมองดูเหตุการณ์นี้ในเวลาที่เค้าอายุล่วงเลยวัยเด็กนั้นมาแล้ว เค้ารู้สึกไม่พอใจเด็กผู้ชายกลุ่มนั้นมาก ที่รุมแกล้งเด็กผู้หญิงอ่อนแอเพียงคนเดียว
ทันใดนั้น เด็กชายร่างใหญ่ดึงหนังสือที่เด็กหญิงตัวน้อยกำลังอ่านอยู่ออกจากมือของเธอ พลางโยนมันลงกับพื้นและเหยียบอย่างสะใจ
"อย่านะ!!!" เด็กหญิงร้องขึ้น เธอรีบยืนขึ้นและผลักเด็กชายร่างใหญ่ให้ออกจากหนังสือเธอ
"เฮ้ย!!!หนอย..ยัยผีดิบ..พ่อแกไม่ได้สั่งสอนหรือไง..แกกล้าดียังไงมาผลักชั้น!!!อ๋อ..ใช่ชั้นลืมไป เธอมันไม่มีพ่อนินะ..เลยไม่มีใครสั่งสอน ว่า "ผีดิบ"ไม่ควรมาอยู่รวมกับ "คน"!!!" เด็กชายร่างใหญ่ตะโกนด้วยความเกี้ยวกร้าว
เค้ารีบเดินจ้ำอ้าวตรงมาที่เด็กหญิงอย่างเร็ว
เดรโกเห็นท่าไม่ดีแน่ เค้าร่ายคาถาสร้างภาพลวงตาใส่เด็กชายร่างใหญ่คนนั้น ลูกไฟสีดำพุ่งใส่เด็กชายอย่างเร็ว จนไม่มีใครสังเกตุเห็นเลย
ทันใดนั้น....

"อ๊ากกกกก.....ช่วยด้วยยยย....ช่วยด้วยยยยย...ไปเร็วววว....วิ่งเร็ววววว...อ๊ากกก" เด็กชายร่างใหญ่ ตะโกนโวยวายขึ้น ท่ามกลางความงุ่นงงของเพื่อนๆ ในกลุ่ม
"ฌอง...ฌอง...แกเป็นอะไรว่ะ" เด็กชายร่างผอมสูง ตะโกนเรียกเพื่อนที่กำลังร้องโวยวายตอนนี้
"งูไง แกไม่เห็นงูหรือไง....ไปเร็วเข้าวิ่งเร็ววววว...ถ้าแกไม่ไป ชั้นไปแล้วนะ" เด็กชายร่างใหญ่รีบวิ่งจากตรงนั้นไปอย่างเร็ว เพื่อนๆ ต่างวิ่งตามเค้าด้วยความงง ว่าเค้าเป็นอะไร แล้ว งูอะไรนั่นอยู่ไหนกัน
เด็กหญิงที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้เองก็งง ไม่แพ้กัน เธอมองไปรอบๆ สังเกตุดูหลายๆ จุด ก็ไม่พบงูแม้แต่ตัวเดียว
"ไหนหล่ะงู.."เธอพึมพำเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงหนึ่งเรียกชื่อเธอ ดังมาจากข้างหลัง
"หวัดดี..เด็บบี้..เจอกันอีกแล้วนะ" เดรโกเดินตรงมาทักทายเด็กน้อยที่เค้าเพิ่งช่วยจากการโดนรุมรังแกอย่างไม่ยุติธรรม
"อ๊ะ!! คุณเดรก..หวัดดีค่ะ" เด็บบี้กล่าวทักทายเดรโก ด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอเค้าอีก
"เธอมาทำอะไรที่นี่หน่ะ..เด็บบี้" เดรโกถามขึ้น เพราะน่าแปลกที่บังเอิญเจอเธออีกแล้ว
"ที่นี่...ก็ที่ที่ คุณจะขับรถชนหนูเมื่อเที่ยงไง" เด็บบี้แหงนหน้าขึ้นมองร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ  เมื่อได้ฟังคำตอบเดรโกมองไปรอบๆ สถานที่นั้น
"อ๋อ....ใช่จริงๆ ด้วย...อ่อ..เมื่อกลางวันชั้นต้องขอโทษเธอด้วยนะ...คงไม่บาดเจ็บอะไรใช่ไหม" เดรโกพูด พลางลูปผมเด็กน้อยเบาๆ
เธอหันมายิ้มให้เค้า เด็กหญิงนั่งลงพิงต้นไม้อีกครั้ง ขณะที่เปิดหนังสือเล่มหนาในมือ
เดรโกมองเธออยากเอ็นดู เค้ารู้สึกสุขใจเวลาอยู่ใกล้ๆ เด็กคนนี้ มันทำให้เค้ารู้สึกเหมือนอยู่กับเฮอร์ไมโอนี เวลาที่เค้าเฝ้ามองเธออ่านหนังสือ เฝ้ามองใบหน้างดงามและดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกาย
เดรโกตัดสินใจนั่งลงข้างๆ เด็บบี้ แต่ไม่รู้ว่า ปีศาจหรือจอมมารที่ไหนไปดลใจให้เค้าเอ่ยถึงเรื่องเมื่อสักครู่นั้นอีก ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่สมควรเอาซะเลย

"เมื่อกี้..เธอทะเลอะกับเด็กพวกนั้นหรอ" เดรโกเอ่ยถามขึ้น ขณะมองเด็บบี้อ่านหนังสือ
เธอหันมามองหน้าเดรโกอย่างช้าๆ สายตาเย็นชาของเธอสบตากับเค้าอย่างเยือกเย็น
"คุณเห็นด้วยหรอ" เด็บบี้ถามเดรโกน้ำเสียงเย็นชา ขณะนี้เด็บบี้ไม่ค่อยทำให้เดรโกรู้สึกสุขใจเสียแล้ว เธอช่างแตกต่างจากเฮอร์ไมโอนีเสียจริง
อันที่จริงแล้วเด็บบี้ดูเย็นชา ไร้ความรู้สึก และไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์กับใครเท่าใดนัก
เดรโกเลิกสบตากับเธอ เค้าพยายามละสายตาไปทางอื่น เพื่อหลีกหนีแรงกดดันที่เด็บบี้สร้างขึ้น

"เอ่ย..บังเอิญเห็นนิดหน่อยหน่ะ..พวกนั้นทำอะไรเธองั้นหรอ..เล่าให้ชั้นฟังได้นะ" เดรโกกล่าวกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อหวังว่าเด็กน้อยอาจเปิดใจรับเพื่อนใหม่บ้างก็ได้
เด็บบี้ละสายตาที่จ้องมองเดรโก เธอก้มหน้าลงเหมือนไม่อยากให้ใครเห็นสีหน้าของเธอ

"พวกนั้น...ก็แค่พวกงี่เง่าหน่ะ.." น้ำเสียงเด็บบี้ฟังดูสั่น ๆ เหมือนเธอพยายามรวบรวมพลังที่มีทั้งหมดเก็บกดบางอย่างเอาไว้
เดรโกได้ยินดังนั้น เค้านั่งหันหน้ามาหาเด็บบี้ เพื่อพร้อมที่จะรับฟังในทุกปัญหาที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ต้องเผชิญอยู่

"เรื่องมันเป็นยังไง..เล่าได้ไหม"เดรโกเอ่ยถามเธอขึ้น

"มัน...." น้ำเสียงเด็บบี้เริ่มสั่นไหวมากขึ้น "มัน...ก็แค่.."ตอนนี้น้ำเสียงเธอแย่เต็มทีแล้ว ประโยคสุดท้ายเธอตะเบ่งเสียงออกมาเต็มแรงราวกับว่ามันจะทำให้เธอหายอึดอัดใจ

"มันก็แค่...หนูเป็นเด็กไม่มีพ่อ..ฮือ..ฮือ" เด็บบี้ปล่อยโฮออกมาเต็มที่ เธอนั่งกอดเข่า ปิดบังใบหน้าที่อาบน้ำตาเอาไว้
เดรโกรู้สึกสะเทือนใจอย่างที่สุด เค้าไม่น่าถามเรื่องนี้ออกไปเลย เค้าทำให้เด็กคนนี้ต้องร้องไห้ เค้าจะทำยังไงดี
เด็บบี้ยังคงร้องไห้อย่างรุนแรงต่อไป เดรโกจนปัญญาจะทำให้เธอหยุดร้อง เค้าครุ่นคิดอยู่สักครู่ เมื่อมีสิ่งหนึ่งแวบเข้ามาในหัวเค้า
เดรโกค่อยๆ ประคองกอดร่างน้อยๆ ให้เข้ามาใกล้เค้า พร้อมลูบเรือนผมบอร์นของเด็บบี้เบาๆ

"ชู่ว์~..ใจเย็นๆ นะ..ทุกอย่างจะดีขึ้น..เธอไม่ใช่คนที่โชคร้ายที่สุดในโลก..โลกนี้เ

PON EILEEN SNAPE:
สนุกมากๆเลยค่ะ

มาต่อไวๆนะค่ะ จะรอติดตามค่ะ

PON EILEEN SNAPE:
โหๆๆ มันมากๆเลยค่ะ

สนุกสุดยอด โดนใจอย่างแรงเลย

มาต่อไวๆนะค่ะ

modtanoi1626:
ตอนที่ 3

---กรุงปารีส  ประเทศฝรั่งเศส----


ณ สวนสาธารณะในเขตที่อยู่อาศัยของชนชั้นกลางแห่งหนึ่งในกรุงปารีส ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา
ราวกับตัวละครเอกในนิยายรักแสนโรแมนติก นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนเก้าอี้ไม้ยาวริมทางเดิน
เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำและจัดแจงพับแขนเสื้อขึ้นมาถึงระดับข้อศอก เขาช่างดูหล่อและเซ็กซี่เหลือเกิน
ในแบบที่ผู้ชายดีพร้อมคนหนึ่งควรจะเป็น...

เดรโก มัลฟอย หรือ คุณเดรก ของเด็กหญิงตัวน้อยเพื่อนใหม่ของเขา
มานั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่สวนสาธารณะนี้เกือบหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ แล้ว
เหตุที่เดรโกทำเช่นนี้ซ้ำๆ กันทุกวัน เพราะเขาต้องการ
พบกับเด็บบี้อีกครั้ง เพื่อคลายข้อสงสัยที่เขาเพิ่งได้พบเมื่อหลายวันก่อน
แต่ดูเหมือนความพยายามของเดรโกจะไร้ผล เขาไม่พบเด็บบี้เลย แม้แต่วันเดียว
ราวกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้
เดรโก พยายามมองไปรอบๆ สวนสาธารณะที่เขานั่งอยู่ แต่ก็ไม่ปรากฏว่าจะมีเด็กหญิงตัวเล็กๆ
ผมบอร์นเดินอยู่แถวๆ นั้นเลย เดรโกถอนหายใจยาวๆ อีกครั้ง เมื่อความปรารถนาของเขา
ล้มเหลว
แต่ทันใดนั้น สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นคนที่คุ้นตา .. เดรโกจำเขาได้
เด็กผู้ชายร่างใหญ่ ผมสีน้ำตาลเข้ม ที่เดรโกเคยสาปให้เขาเห็นภาพหลอน
เดรโกไม่รอช้า เขาทิ้งหนังสือพิมพ์ลงที่เก้าอี้และรีบเดินอย่างเร็วไปหาเด็กชายผู้นั้น
เมื่อใกล้ประชิดตัว เดรโกยื่นมือเข้าไปแตะไหล่์ เด็กชายเบาๆ

"อ๊ากกกก...อ๊ากกกก.." เสียงเด็กชายร้องดังขึ้นด้วยความตกใจ..ทำให้เดรโกพลอยสะดุดไปด้วย
เดรโกมองใบหน้าของเด็กชายอย่างช้าๆ พลางคิดในใจว่า ใช่คนๆ เดียวกันหรือเปล่า
เพราะเด็กคนนี้ดูอิดโรย ขอบตาทั้ง 2 ข้างดำคล้ำมาก เมื่อเด็กชายได้สติคืนจากความตกใจแล้ว
เขามองหน้าเดรโกอย่างระแวง

"คุณ..คุณมีอะไรกับผมหรือเปล่า" เด็กชายถามขึ้นน้ำเสียงสั่นๆ
เดรโกขมวดคิ้วมองใบหน้าเด็กชายสักครู่ ก่อนจะถามเขานอกเรื่อง

"เธอ..ไม่ค่อยได้นอนหรือไง..ทำไมขอบตาเป็นแบบนั้น" เดรโกถามเด็กชายอย่างสงสัย
เด็กชายไม่รั้งรอ เขาพยักหน้าให้เดรโกก่อนจะตอบคำถาม

"ผม..ผมนอนไม่ได้มาหลายวันแล้ว..ทุกๆ วันผมฝันร้ายตลอดเลย" เด็กชายน้ำเสียงสั่นๆ เหมือนจะร้องไห้
เดรโกยืนกอดอก ขมวดคิ้ว มองเด็กชาย

"เธอฝันอะไร" เด็กชายมองหน้าเดรโกอย่าง งงๆ แต่เขาก็ตอบ

"ฝันเห็น งูใหญ่สีดำ ไล่ตามทุกวันเลย..มัน..มันไล่ฆ่าผมอยู่ทุกคืน ..ฮ่ะ ฮือ ฮือ" เด็กชายเสียงสั่น
เขาร้องไห้ออกมาเพราะ ความกลัวฝันร้ายที่ตามหลอนเขาทุกคืน  เดรโกจ้องมองเด็กชายอย่าง งงๆ
เขารู้ว่า เขาเป็นคนสาปเด็กคนนี้
ให้เห็นภาพหลอนเอง แต่มันก็ไม่ถึงขนาดทำให้เก็บเอาไปฝันร้ายได้ทุกคืน
หรือบางที เขาอาจจะยังเด็กเกินไปเลย มีความกลัวมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า
เดรโกนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กชาย  เด็กชายใช้มือขยี้ ดวงตาที่เพิ่งผ่านการร้องไห้เมื่อครู่นี้

"คุณ..คุณจะทำอะไร" เด็กชายถามเดรโกที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า เดรโกยิ้มให้เขาเบาๆ

"เธออยากหายฝันร้ายไหม" เด็กชายเบิกตากว้าง เหมือนมีเทพเจ้าลงมาโปรดเขา เด็กชายพยักหน้าแรงๆ
อย่างเต็มใจ เดรโกมองเขา แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย

"งั้นเธอหลับตาซะ" เดรโกสั่งเด็กชาย  เขายอมทำตามแต่โดยดี เหมือนกับรู้ว่า เดรโกจะช่วยเขาได้
เดรโก ยื่นนิ้วชี้เรียวยาวของเขา เคลื่อนผ่านหน้าผากของเด็กชาย จนไปถึงปลายคาง โดยไม่ได้แตะต้องใบหน้าของเด็กชายเลย
เมื่อเสร็จสิ้น เดรโกลุกขึ้นยืน พร้อมกับพูดกับเด็กชาย

"เอาละ..เธอลืมตาได้แล้ว" เด็กชายทำตามคำสั่ง เวลานี้เขารู้สึกหัวสมองเบาโล่งและรับรู้ได้ถึงความสุข
เด็กชายยิ้มกว้างพลางเอามือจับศีรษะของตัวเอง แล้วจึงค่อยหันไปยิ้มให้เดรโก
เดรโกจ้องมองเขาอย่างเย็นชาจนเด็กชายต้องหุบรอยยิ้มลง

"ฉันคิดว่า ที่เธอฝันร้ายเพราะ เธอเกเรเกินไป..นี่อาจเป็นบทลงโทษ เพราะฉะนั้นเธอควรเปลี่ยนแปลงตัวเธอเองซะใหม่"

เด็กชายมองเดรโก อย่างเคารพ เขาไม่ตอบอะไร เพียงแต่พยักหน้าให้เดรโกเบาๆ เดรโกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ

"ดีมาก" เขาพูดกับเด็กชาย ..ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า มีเรื่องต้องคุยกับเขา ถึงได้เดินไปทักเด็กชายเกเรคนนี้

"เออ..ใช่..ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอ" เด็กชายหันขึ้นมองหน้าเดรโกอย่าง งงๆ
เดรโกเดินนำเขาไปที่เก้าอี้ไม้ตัวยาว ตัวเดิมที่เขาเพิ่งจากมา เด็กชายเดินตามเดรโกอย่างเงียบๆ
เดรโกนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ เขานั่งมองเด็กชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า

"เอ๊า..นั่งลงสิ" เขาออกคำสั่ง  เด็กชายรีบทำตามโดยเร็ว โดยที่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมต้องยอมทำตามคนแปลกหน้า
เดรโกหันไปมองเด็กชายช้าๆ ก่อนจะเริ่มคำถามแรก

"เธอ..ชื่ออะไร" เดรโกจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีดำของเด็กชาย เด็กชายไม่กล้าสบตาเขา เพียงแต่ก้มหน้าลงมองพื้นดินเบาๆ

"ผม..อ่อ..เลอ ดา ..ฌอง เลอ ดา..เรียกว่า ฌอง ก็ได้ครับ" เด็กชายตอบเสียงเบา
เดรโกยังคงมองเขาอยู่และเริ่มคำถามที่ 2

"เธอ..รู้จักเดบาร่าห์ เอ่อ..เด็บบี้ไหม" คำถามนี้ทำให้เด็กชายหันมามองเดรโกด้วยความสงสัย ก่อนจะตอบคำถามเขา

"เอ่อ..รู้จักสิ..ยัยผีดิบ" น้ำเสียงเด็กชายตอบเขาแบบเหยียดหยันเด็กหญิงที่เอ่ยถึง เดรโกขมวดคิ้ว
สีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก

"ฉันว่า..เธออย่าเรียกเขาแบบนั้นอีกดีกว่า เพราะมันคงไม่ดีกับตัวเธอ" เดรโกพูดกับเด็กชายน้ำเสียง
คล้ายออกคำสั่งและขู่ ในเวลาเดียวกัน เด็กชายยังคงมองหน้าเดรโกพลางกลืนน้ำลาย ด้วยความเกรงกลัว

"เอ่อ..เอ่อ..คุณถามถึง..เอ่อ..เธอทำไม" น้ำเสียงเด็กชายติดขัด อย่างพยายามระวังคำพูดให้มากที่สุด
เดรโกหันมองออกไปทางอื่น ก่อนจะเอ่ยเรื่องโกหกกับเด็กชาย

"ฉันมีของต้องคืนเขานะ..เขาลืมทิ้งเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน" เด็กชายมองเดรโก อย่างครุ่นคิด
เดรโกจึงเริ่มถามคำถามที่ 3

"เธอพอจะรู้ไหมว่า..ฉันจะเจอเด็บบี้ได้ยังไง" เดรโกหันมามองเด็กชายอีกครั้งเพื่อรอคำตอบ
ท่าทางของเด็กชายกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก เขาหมวดคิ้วและมองไปมาที่เดรโก ก่อนจะรวบรวมความกล้า
ตั้งคำถามหนึ่งกับเดรโก

"เอ่อ..เอ่อ..คุณ..คุณจะทำร้ายเธอหรือเปล่า" เด็กชายขยับตัวเล็กน้อย เหมือนกำลังเตรียมตัว
เพื่อเผชิญบางอย่าง เดรโกมองหน้าเด็กชายอย่างนึกตลก  "ให้ตายสิ เด็กคนนี้ชอบแกล้งเด็บบี้แต่กลับเป็นห่วง
ว่าเธอจะเกิดอันตราย " เดรโกคิดขึ้นในใจ ก่อนจะยิ้มให้เด็กชายซึ่งกำลังลุกลี้ลุกลน

"ฉันไม่คิดทำอะไรกับเพื่อนเธอหรอก..ฉันแค่อยากเจอเธอเท่านั้น..อีกอย่างถ้าฉันจะทำจริงๆ ฉันคงไม่ต้อง
มาหาเธอให้เธอเห็นหน้าฉันหรอก..จริงไหม" เดรโกพูดพร้อมกับยิ้มอย่างไมตรี ให้เด็กชายไว้ใจ
ฌอง เลอ ดา ยังคงครุ่นคิดอยู่ มันก็จริงอย่างที่เขาพูด ถ้าหากจะทำร้ายเด็บบี้จริงๆ คนแปลกหน้าคนนี้จะมาให้
เขาเห็นหน้าทำไม เพราะเขาอาจเป็นคนแจ้งความจับเขา  หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน เด็กชายก็ตอบเดรโกออกมาได้

"คุณจะไม่เจอเธอหรอก..เพราะเธอจะมาที่นี่เฉพาะวันที่แม่เธอกลับช้าเท่านั้น" เด็กชายตอบเดรโกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เดรโกพยักหน้าเบาๆ อย่างเข้าใจ ก่อนจะถามเด็กชายอีก

"แล้วแม่เธอจะกลับช้าวันไหนบ้างหละ" เด็กชายจ้องมองเดรโกด้วยความสงสัยอีกครั้ง เขาส่ายหน้าเบาๆ

"ผมก็ไม่รู้" เขาตอบเดรโก น้ำเสียงแผ่วเบาเจือด้วยความผิดหวังเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่
เดรโกมองเด็กชายสักครู่  เขาพอรู้แล้วว่า ฌองคงรู้สึกอะไรบางอย่างกับเด็บบี้คนสวย แน่นอน
เดรโกอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงฌองพูดขึ้น

"อ่อ..แต่คุณสามารถไปเจอเธอได้" เด็กชายพูดด้วยความตื่นเต้นเพราะเพิ่งนึกออก
เดรโกขมวดคิ้วมองเขา และรอคำตอบ

"อ่อ..เธอจะไปเรียนเปียโนกับคุณนายดาเอ้ ที่โรงเรียนดนตรี ทุกบ่ายวันเสาร์ถึงห้าโมงเย็น" เมื่อพูดจบ เด็กชายถึงกลับ
หน้าแดงขึ้น เมื่อเห็น เดรโกมองมาแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

"ดูเธอรู้เรื่องเด็บบี้ดีจังเลยนะ..ทั้งๆ ที่ไม่ชอบหน้าเธอ" เดรโกพยายามกลั้นหัวเราะกับท่าทางกระวนกระวายของเด็กชาย

"เอ่อ..เอ่อ..ผมเปล่านะ..ก็แค่บังเอิญไปเจอเข้า ก็แค่นั้น" เด็กชายแก้ัตัวเสียงดัง แต่น้ำเสียงนั้นก็ยังคงติดขัด เพราะความเขินอาย

"แล้วโรงเรียนนั้นอยู่ไหน" เดรโกถามต่อ เด็กชายชี้ไปที่ถนน

"จากสี่แยกตรงนี้ไปเลี้ยวซ้าย แล้วตรงไปเรื่อยๆ โรงเรียนจะอยู่ตรงข้ามกับร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อโอไฮโย" เด็กชายตอบเสียงชัดเจน เพราะชำนาญทางเป็นอย่างดี
เดรโกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากที่เก้าอี้

"ขอบใจมากนะ..ฌอง" เดรโกหันกลับมามองหน้าเด็กชาย "คืนนี้เธอจะฝันดี" เมื่อพูดจบเขาหมุนตัวเดินกลับไปที่รถยนต์สีดำขลับที่จอดอยู่ริมถนน
เด็กชายมองตามด้วยแววตา งุ่นงง แล้วก็เกิดรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้า

"ฉัน..จะได้ฝันดี" เด็กชายพูดกับตัวเองอย่างมีความหวัง ก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ เพื่อวิ่งไปหาเพื่อนๆ ของเขาที่กำลังรวมกลุ่มกันอยู่

---------
เดรโก มัลฟอย ขับรถ BMW สีดำคันงามของเขาไปตามที่ ฌอง บอก
เขามองซ้ายทีขวาที เพื่อหาโรงเรียนสอนดนตรี
เมื่อไม่พบโรงเรียนที่ต้องการหา เดรโกตัดสินใจจอดรถไว้ริมถนนตรงบริเวณที่สามารถจอดได้
เขาคิดว่า การเดินหาและถามผู้คนแถวนั้นคงเป็นการดีกว่า อย่างน้อยๆ เขาก็ยังคงสังเกตุได้ถี่ถ้วนมากกว่าการขับรถ
เดรโก เดินย้อนไปตามทางที่เขาขับรถผ่านมา บริเวณโดยรอบเป็นตึกเก่าสไตล์ฝรั่งเศส
ที่ยังคงความเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม และก็เป็นอย่างที่คิดไว้
เขาขับรถเลยโรงเรียนสอนดนตรี นี้จริงๆ  เดรโกยืนอยู่หน้าตึกสีขาวที่ถูกสร้างอย่างงดงาม
เขาเดินเข้าไปด้านใน ภายในถูกตกแต่งไว้อย่างทันสมัยผิดจากด้านนอก เดรโกเดินตรงไปที่แผนทองเหลืองที่บอกตำแหน่ง
สถานที่ต่างๆภายในตึก จากนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นชื่อที่ต้องการจะเจอ

"โรงเรียนสอนดนตรีดาเอ้ แผนกเปียโน ชั้น5" เดรโกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ ก่อนจะจึงหันหลังเดินเข้าไปในลิฟท์
พร้อมกับกดเลข 5
เมื่อถึงชั้น 5 ตามความประสงค์ของเดรโก เขาเดินออกมาจากลิฟท์
เขาสังเกตุเห็นป้ายทองเหลืองข้างประตูไม้สีขาวขนาดใหญ่ "แผนกเปียโน"
เดรโกมองซ้ายมองขวา อย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจ เปิดประตูเข้าไป
เมื่อเข้ามาถึงด้านในห้องสอนดนตรี เดรโกมองไปรอบๆ ภายในนี้ ถูกตกแต่งให้ดูเมื่ออยู่ในความฝัน
มองไปทางไหนก็เจอแต่ ภาพวาดงานศิลปะมากมาย บรรยากาศภายในดูอบอุ่นและเป็นกันเองมาก
ในขณะที่เขากำลังหาไปรอบๆ นั้น สายตาเขาก็บังเอิญไปเห็นใบประกาศแผ่นหนึ่งเข้า

"รับสมัครอาจารย์สอนเปียโน" เดรโกอ่านมันอย่างครุ่นคิด ทันใดนั้นเอง ความคิดในหัวของเขาก็พรวยพุ่งขึ้น

"ฉันจะเป็นอาจารย์" เดรโกคิดกับตัวเอง อย่างชาญฉลาดที่สุด เพราะนี้เป็นโอกาสของเขาแล้ว
บางทีลูกศิษย์ที่เขาได้สอน อาจจะเป็นเด็บบี้ก็ได้
เดรโก เดินไปที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ของแผนกเปียโนอย่างเร็ว

"เอ่อ..ผมจะมาสมัครเป็นอาจารย์สอนเปียโนครับ" เดรโกพูดเสียงเข้ม ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ได้มองหน้าเขา

"คุณเตรียมเอกสารมาไหมค่ะ" ประชาสัมพันธ์สาวพูด ในขณะที่ยังคงง่วนอยู่กับงานที่ทำตรงหน้า
เดรโก ขมวดคิ้วสักครู่  เพราะ เขาไม่รู้ว่า มักเกิ้ล เวลาสมัครงานต้องเตรียมอะไรบ้าง

"เอ่อ..ผมต้องมีอะไรใหุ้คุณบ้างครับ" สิ้นเสียงเดรโก ประชาสัมพันธ์สาวเหงยหน้าขึ้นมามองเขา
สายตาเธอจับจ้องอยู่ที่เขาสักครู่ ใบหน้าเริ่มเป็นสีชมพูระเรื่อ ก่อนจะได้สติขึ้นมานิดหน่อย

"เอ่อ..เอ่อ..คุณต้องมีเอกสารที่เกี่ยวกับตัวคุณ รูปถ่าย ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับดนตรี และเบอร์โทรศัพท์"
พูดจบ ประชาสัมพันธ์สาวยิ้มให้เดรโกอย่างมีเลสนัย เดรโกขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะถามเธอ

"เบอร์โทรศัพท์ด้วยหรอครับ" ประชาสัมพันธ์สาว ยิ้มให้เดรโกอีกครั้งพร้อมกับนัยน์ตาหวานซึ้งแสนยั่วยวน

"ประวัติของคุณทางโรงเรียนต้องการ....ส่วนเบอร์โทรฯ คุณ..ฉันต้องการเอง" เดรโกจ้องมองประชาสัมพันธ์สาวด้วยแววตาเจ้าชู้
เขากัดริมฝีปากล่างเบาๆ มันทำให้เขาแลดูเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่มาก เดรโกโน้มตัวเข้าหาเธอช้าๆ ประชาสัมพันธ์สาวเองก็ดูจะไม่ลังเลเลย เธอโน้มตัวเข้าหาเขาเช่นกัน
เดรโกเลื่อนใบหน้าของเขามาที่ ข้างๆ ใบหน้าเธอ พร้อมกับกระซิบน้ำเสียงเซ็กซี่ของเขาให้เธอได้ยิน

"ขอโทษนะครับ..ผมแต่งงานแล้ว" เดรโกถอดหน้าออกมาจากเธอช้าๆ สีหน้าประชาสัมพันธ์สาวเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อย
แต่เธอก็ยังคงไม่หมดความพยายาม เธอยิ้มให้เขาอีกครั้ง ก่อนจะขยับแว่นตาอย่างยั่วยวนเล็กน้อย

"ความจริง..ฉันก็ไม่ถือนะค่ะ" เดรโกก้มลงมองพื้นครู่เดียว ก่อนจะกลับมามองหน้าของเธออย่างอารมณ์ขัน

"อันที่จริง...ผมค่อยข้างกลัวภรรยา นะครับ" เมื่อได้ฟังคำตอบ ประชาสัมพันธ์สาวชักสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย

"น่าเสียดายนะค่ะ" เธอจีบปากจีบคอพูดกับเขาเล็กน้อย เดรโกมองเธออย่างขบขัน

"ตกลงที่ผมต้องเอามาให้คุณคือเท่านี้ใช่ไหมครับ" เดรโกกลับมาพูดจริงจังอีกครั้ง ประชาสัมพันธ์สาวเองก็กลับมาจริงจังกับงานเช่นกัน

"ใช่ค่ะ เดี๋ยว ดิฉันจะเอาใบสมัครให้คุณและคุณต้องแนบเอกสารมาพร้อมกับใบสมัครนะค่ะ..และทางอาจารย์ใหญ่จะสัมภาษณ์คุณทันที"
พูดจบ เธอยิ้มให้เขาเบาๆ ก่อนจะ ก้มลงไปหยิบเอกสารขึ้นมา 1 ชุดและส่งมันให้เดรโก

"ขอให้โชคดีนะค่ะ..หวังว่าเราคงได้พบกันอีก" เธอยิ้มหวานให้เดรโกอีกครั้ง เขาเองก็ไม่เสียมารยาทที่จะปฏิเสธรอยยิ้มเธอ

"ขอบคุณครับ" เมื่อกล่าวอำลาจบ เดรโกเดินจากไปจากตรงนั้น และกำลังจะเดินเข้าไปในลิฟท์
ลิฟท์อีกตัวเปิดขึ้นมาพอดี แต่เดรโกไม่ได้สนใจ เขาเดินเข้าไปในลิฟท์ของตัวเองและกดชั้นล่างสุด
หญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากลิฟท์ตัวที่เปิด เธอหันไปมองบุคคลที่เพิ่งเข้าไปในลิฟท์เมื่อครู่นี้
แต่ก่อนที่เธอจะมองเห็นว่าเป็นใคร ลิฟท์ก็ปิดซะแล้ว - - -

เดรโกลงมาถึงชั้นล่าง เขาเดินออกจากตึกนั้นพร้อมกับเอกสารในมือ เดรโกเดินย้อนกลับขึ้นไปเส้นทางเดิม
เพื่อกลับไปที่รถยนต์ของเขา  เมื่อเดินมาถึงรถยนต์สีดำคันงาม เดรโกปลดล็อคสัญญาณกันขโมย
และเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ พลางมองเอกสารสมัครงาน เขาสำรวจรายละเอียดจนทั่ว จนไปหยุดอยู่ที่หัวข้อหนึ่ง

"ประวัติการศึกษา..." เดรโกอ่านหัวข้อนั้นแล้วหยุดนิ่งไป

"ถ้าฉันบอกว่า..จบจากโรงเรียนพ่อมดแม่มดและเวทมนต์ศาสตร์ฮอกวอต์ส จะรับฉันเข้าทำงานไหมเนี่ย" เดรโกบ่นพึมพำอย่างเซ็งๆ
เขาโยนเอกสารการสมัครงานไว้เบาะหลัง แต่แล้วเขาก็คิดขึ้นมาได้ เดรโกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อีกครั้ง

"ใช่...ฉันเป็นพ่อมดนี่น่า"



ChelseaFC_FiFA_118726:
โห ไปเป็นนักเขียนเลย มั๊ยครับ >:(

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version