Potter Story Lobby !!! > นักร้อง - งานเพลง !

21/01/52::[K - Pop] SHINHWA / [UpDate - 20/03/54]

<< < (2/35) > >>

~OrenjI~:
:: เปิดตำนาน Shinhwa ::



ปีที่ 1 (1998) – ตำนานถือกำเนิด


เฮซอง : เพลงแรกของอัลบั้มแรก “Hye Gyul Sa” ไม่ได้รับการตอบรับเลย เพราะเป็นช่วงเศรษฐกิจเกาหลีตกต่ำในยุค IMF

เฮซอง : เราเลยเปลี่ยนเป็นเพลง “Eusha Eusha” เป็นเพลงที่เกี่ยวกับไปเที่ยวทะเล เล่นน้ำสนุกสนาน แต่ตอนนั้นดันเกิดเหตุน้ำท่วมและอุทกภัยอย่างหนัก
ในสถานการณ์แบบนั้น เพลงที่เกี่ยวกับเล่นน้ำจะไปรอดได้ยังไง

เฮซอง : ปี 1998 เป็นปีที่ลำบากมาก และชินฮวาต้องดิ้นรนอย่างหนัก
เราต้องตระเวนออกรายการทุกวัน จนแทบไม่มีเวลากินหรือนอน
ความเครียดขนาดนี้ถือว่าลำบากมากแม้แต่สำหรับศิลปินที่คร่ำหวอดในวงการ นับประสาอะไรกับพวกเราที่เป็นเพียงหน้าใหม่เท่านั้น เราต้องไปออกรายการทุกวัน ระหว่างที่เรากำลังยุ่งกับการโปรโมทอัลบั้มแรก
เราก็รอเสียงตอบรับที่ breakthrough (แปลว่าไรดีอ่ะ ^^'')

แต่... กลับไม่มีเสียงตอบรับอะไรเลย เรารู้สึกล้มเหลวมาก

SM Entertainment: ชินฮวา เพิ่งตั้งวงทีหลัง เราเลยไม่ได้ให้ความสนใจมาก เพราะตอนนั้นเราพุ่งเป้าไปที่ H.O.T อยู่ พวกเขาต้องฝ่าฟันอย่างมากในอัลบั้มแรก

Minwoo: เราทุกคนทำได้เยี่ยมมากในอัลบั้มแรก แต่ผลตอบรับทำเอาพวกเราช็อคมาก
ผมนึกว่าโชคจะเข้าข้างเราเสมอ แต่อัลบั้มแรกขายไม่ดีเลย (เพื่อนเกาหลีบอกเจ๊งสนิท ~~><~~)

เฮซอง : บริษัทตัดสินใจจะแยกวงถ้าอัลบั้มที่สองยังทำยอดขายไม่ดีเท่าที่พวกเขาต้องการ
สมาชิกชินฮวาทุกคนตกลงกันว่า "ถ้าชุดที่สองไปไม่รอด ก็จบกันตรงนี้ แล้วกลับไปตั้งใจเรียน มุ่งมั่นให้ประสบความสำเร็จจากตรงนั้น"



ปีที่ 2 (1999) - จุดสร้างตำนาน


เฮซอง : โชคดีมากที่ชุดที่สองประสบความสำเร็จอย่างสูง และ T.O.P ก็ฝ่าฟันขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งของรายการเพลงมากมายได้

เอริค : ปกตินักร้องมักจะร้องไห้เวลาขึ้นอันดับหนึ่งเป็นครั้งแรก แต่ในกรณีของเรา เราใจเย็น นิ่งมากตอนที่เราชนะอันดับหนึ่ง เพื่อนฝูง
รุ่นพี่และครอบครัวที่ดูรายการอยู่ถามเราว่า "พวกนายได้อันดับหนึ่ง ไม่ดีใจรึไง"
แต่ตอนนั้น เราดีใจมากจนได้แต่ยืนนิ่ง หลังรายการจบ เราขึ้นรถแล้วก็กลับ

เมื่อขึ้นรถ สมาชิกแต่ละคนเริ่มร้องไห้ ทีละคน เราหยิบมือถือขึ้นมาและโทรหาเทรนเนอร์และครูฝึกเพื่อบอกว่า "ในที่สุดเราก็ขึ้นอันดับหนึ่งแล้ว ขอบคุณมากครับที่กรุณาฝึกให้"

คนแรก... คนที่สอง... คนที่สามเริ่มร้องไห้...เฮซอง มินอู และผม จนสุดท้าย ทุกคนก็ร้องไห้ด้วยกัน เราร้องไห้ให้กับช่วงเวลาอันยากลำบากที่เราเผชิญมาด้วยกัน



ปีที่ 3 (2002) - ตำนานเริ่มต้น

เอริค : ผม เอริค สัญญาจะรักทุกคนใน Shinhwa Changjo ตลอดไป ใจผมจะอยู่กับพวกคุณเสมอ

เฮซอง : ผม ชิน เฮซอง สัญญาจะร้องเพลงให้กับทุกคนใน Shinhwa Changjo ทุกเพลงที่ผมร้อง ผมจะร้องให้พวกคุณเท่านั้น

ดงวาน : ผม คิม ดงวาน สัญญาจะมองแต่สมาชิกชินฮวาและ Shinhwa Changjo ผมจะเดินบนเส้นทางนี้ตลอดไป

จอนจิน : ผม จอนจิน สัญญาจะรัก Shinhwa Changjo ตลอดไป ในอนาคต ผมจะมองแต่ Shinhwa Changjo เท่านั้น

มินอู : ผม ลี มินอู สัญญาจะรัก Shinhwa Changjo ตลอดไป ทุกครั้งที่ผมเต้น ผมจะเต้นเพื่อคุณเท่านั้น

แอนดี้ : ผม แอนดี้ สัญญาว่าจะเป็นคนเดิมเสมอในใจของ Shinhwa Changjo ผมจะรักษาสัญญานี้ไว้ไปจนวันแก่เฒ่า


เฮซอง : เรากล่าวคำมั่นสัญญาในพิธีหมั้นกับ Shinhwa Changjo ไปแล้ว
ในคอนเสิร์ตครั้งหน้า เราจะทำพิธีแต่งงานระหว่างเรา
มินอู : ถ้าไม่มี Shinhwa Changjo พวกเราก็ไม่มีตัวตน (~~>.<~~)

ชินฮวา : เลข 6 เป็นเพียงตัวเลขที่ไม่มีความหมายเป็นพิเศษ
แต่สำหรับเรา 6 หมายถึง Shinhwa การรอคอย ความยากลำบากทั้งหมด ไม่ได้สูญเปล่า เราทำสำเร็จแล้ว



ปีที่ 4 (2001) ภารกิจแรกของ ตำนาน


เอริค : ช่วงทำกิจกรรมโปรโมทในอัลบั้มที่ 4 ของชินฮวา แอนดี้ต้องออกจากวงเพราะปัญหาเรื่องโรงเรียนและปัญหาส่วนตัว (~~~>.<~~~) นั่นเป็นช่วงวิกฤติที่สุดที่ชินฮวาต้องเผชิญ

มินอู : guerilla concert เป็นตอนที่เจ๋งที่สุด (แปลว่าไรดีอ่ะ ที่เค้าให้แฟนๆ มาซุ่มรวมตัวไม่ให้ชินฮวารู้อ่ะ)

มินอู : จินนี่ ดงวานนี่ เฮซองกี้ เอริคที่อยู่ที่นี่ และเพื่อนรักอีกคนที่เราอยากให้อยู่ที่นี่ด้วยกัน แอนดี้ของเรา
ผมอยากใช้ชีวิตที่เหลือกับทุกคน ฉันรักพวกนาย

จอนจิน : เพราะพี่ๆ... แอนดี้กับผมถึง... อยู่รอดมาได้ถึง 4 ปี
แต่ผมไม่เคยเอ่ยคำว่า รัก กับพวกพี่ๆ เลย ไม่ซักครั้งเดียว กับแอนดี้ก็เหมือนกัน
พี่ๆ ครับ ผมรักพี่จริงๆ (คนแปลน้ำตาไหลพราก T_T)

ดงวาน : ถึงเราจะไม่ได้ผูกพันกันทางสายเลือด เราต้องขอบคุณพระเจ้าที่นำพวกเรามาพบกัน
นี่คือโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม ไม่ว่าในอนาคตชีวิตเราจะเป็นอย่างไร
ผมหวังว่า เราจะเก็บความทรงจำของพวกเรานี้ไว้ตลอดไป
จนถึงวันตาย เราจะไม่มีวันลืมมิตรภาพนี้

มินอู : ที่จริงตอนนั้นผมพูดอะไรไม่ออก แต่ตอนที่เรากอดคอร้องไห้ด้วยกัน เราอยากกอดแฟนๆ ทุกคนของเรามาก
ตอนนั้นจินร้องไห้โฮเลยใช่มั้ย เราทุกคนก็ร้องไห้ ทั้งพวกคุณและพวกเรา...

แอนดี้ : ตอนนั้นเพื่อนๆ ในวงยุ่งกันมาก ผมเลยไม่ค่อยได้ติดต่อกับพวกเขา
เมื่อเวลาผ่านไป ผมก็คิดว่า ถึงไม่มีผม ชินฮวาที่มีเพียง 5 คนก็ไปได้ดี
แค่คิดน้ำตาผมก็ไหล... แต่ถึงผมจะกำลังร้องไห้... ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา... ผมไม่อยากทำให้แฟนๆ เสียใจ

เอริค : ตอนแรกผมไม่รู้จะช่วยแอนดี้ยังไงในปีนั้น
แต่ผมคิดว่า มันช่วยได้เวลาเขาเฝ้าดูเราแสดงบนเวที
ทำไมแอนดี้ถึงสำคัญต่อผมนักน่ะเหรอ เพราะผมรักเขา
เขาเป็นคนที่น่ารักมาก
เวลาเขาร้องเพลง เขาเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงที่คุณเห็นแล้วอยากจูบ
และเขาทำงานหนักมาก

แอนดี้ : ตอนที่ผมหดหู่สุดๆ ผมเคยตั้งใจจะออกจากวง
แต่ท้ายที่สุด เมื่อได้ยืนอยู่บนเวทีในงานแฟนมีตติ้งของชินฮวา
เพื่อนในวงทุกคนร้องไห้พยายามหยุดไม่ให้ผมไป

เอริค : ถ้าแอนดี้ไม่ได้กลับมาในอัลบั้มที่ 5 ตอนนี้ก็คงไม่มีชินฮวา


credit : Slayerette @ ดงส้ม + Kriza@Soompi + shinhwavillagethailand fanclub + kikapoo @ Sweetminwoo
นำออกพร้อมเครดิตเท่านั้น



~OrenjI~:
ปีที่ 5 (2002) – การฝ่าฟันครั้งที่ 2 เพื่อเป็นตำนาน


จอนจิน : มีครั้งนึงผมได้รับบาดเจ็บสาหัส ผมถูกหามส่งห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล

จอนจิน : คุณหมอห้ามเลือดที่ไหลออกจากศรีษะได้สำเร็จ แต่ก็ผมก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย

จอนจิน : สมาชิกทุกคนต่างเป็นกังวลสุดสุด พี่ดงวาน เอาแต่ร้องตะโกนเรียก 119, 119 (เบอร์แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายของประเทศเกาหลี)
พอผมฟื้นขึ้น ผมก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว พี่เอริคนั่งรออยู่ตรงนั้นนานนับชั่วโมง....ในท่าคล้ายคนเข้าฌาน ...ในขณะที่พี่มินอูกำลังเดินกลับไป – กลับมา
และพี่เฮซอง ร้องไห้อย่างหนัก "นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น จินนี่บาดเจ็บขนาดนี้...”

เฮซอง: ผมคิดว่าเขาไม่รอดแน่…

เฮซอง : ตอนที่จอนจินบาดเจ็บ ผมเข้าไปในห้องฉุกเฉิน แล้วหมอก็บอกว่า อาการเค้าน่าเป็นห่วงมาก เพราะเสียเลือดเยอะจากบาดแผลที่ศรีษะ
หมอบอกเราว่า “เค้าอาจจะอยู่ไม่พ้นคืนนี้”  ...  ตอนผมได้ยินแบบนั้น...ผมรู้สึก...รู้สึกช็อคมาก....
ผมเดินออกมาด้านนอก....ขณะนั้นฝนกำลังตกหนัก....ผมเองก็ร้องไห้หนักเช่นกัน...ผมรู้สึกเหมือนว่า น้องชายที่สนิทมากๆกำลังจะจากผมไป
ผมไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ จินนี่ นายต้องระวังตัวให้มาก อย่าทำให้ชั้นต้องร้องไห้อีก
เอริค : ใช่ นายต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ นายเป็นแบบนั้นเสมอ แต่ละครั้ง...ไม่ใช่สิ..ทุกครั้งที่เราทำการแสดง นายมักจะได้รับบาดเจ็บเสมอเลย

แปลไทย: เรเชล & อลิศ @ พันทิพ + shinhwavillagethailand fanclub + kikkapoo @ Sweetminwoo



ปีที่ 6 (2003) – ตำนานฟื้นคืนชีพ

ดงวาน : เราย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่...ภายใต้แนวดนตรีและบริษัทที่แตกต่างจากเดิม…

ดงวาน : เรายังรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น...เราจะมั่นคงต่อกันตราบวาระสุดท้าย....
และเราจะตอบแทนให้เท่าๆ กับที่เราได้เคยได้รับมา....ซึ่งเราทำมันมาโดยตลอด..
สำหรับอัลบั้มใหม่, ด้วยบทเพลงใหม่, ด้วยแนวเพลงใหม่ เราจะตอบแทนคุณด้วยสิ่งเหล่านี้ครับ....

เฮซอง : มันเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญและยากลำบากกว่าครั้งไหนๆ
โชคดีที่เราเลือกไม่ผิดและทุกๆอย่างลงตัวมาก จึงเหมือนกับว่า..เราเริ่มใหม่อีกครั้งในนามของ “ชินฮวา”

แปลไทย: เรเชล @ พันทิพ + shinhwavillagethailand fanclub + kikkapoo @ Sweetminwoo



ปีที่ 7 (2004) – We are the 'LEGEND'

Junjin : ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะเรียกชื่อของพวกเราถึง 2-3 ครั้ง (พวกมานบ้า หูบอดทั้ง 6 ตัว มะรู้ว่าถูกหวยแระ)

Eric : ฉันประหลาดใจจริงๆ สมาชิกในวงสามารถบอกเรื่องราวทั้งหมด นั้นได้

Junjin : สองสามปีทีผ่านมา มันเหนื่อยยากมาก

Eric : มันเหมือนภาพยนตร์ อ่ะ ช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้น มันย้อนกลับมาหาพวกเราในทันใด

Hyesung : .. น้ำตาของแฟนๆ ย้อนกลับมาเป็นน้ำตาแห่งความพึงพอใจในวันนี้ มันทำให้พวกเรามีความสุขมากๆๆ

Eric :  พูดตรงๆเลยก็คือ, ทุก ๆปี พวกเราต่างคาดหวัง ซึ่งนั่นมันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแตกต่างจากปีนี้เลย
(พวกมันหวังกันทุกปี แต่แด๊กกกแห้วสมหวังทุกปี ฮี่ ๆๆ ตรูถูกตื๊บแน่)
แต่หลังจากที่พวกเราได้รับรางวัลแล้ว ความรู้สึกนั้นมันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

Shinhwa Changjo : บรรยากาศภายนอกที่เต็มไปด้วยความมืด (อยู่ป่าช้าเหรอ เหอ เหอ ) และ เครื่องเสียงก็ห่วยเต็มที ...
พวกชินฮวา ออกมาพบพวกเราพร้อมด้วยการ์ดเพียงคนเดียว
พวกเขาเดินออกจากผู้สื่อข่าวประมาณ 20 คน ที่มารอสัมภาษณ์ เพื่อที่จะมาหาและใช้เวลากะพวกเรา (เสนอหน้ามาหาแฟนๆๆเรยนะ)

Hyesung :  ..ขอบคุณพวกคุณทั้งหมด พวกเราหวังเปนอย่างยิ่งตลอด 7 ปีที่ผ่านมา และในท้ายที่สุด วันนี้พวกเราก็ทำได้แย้ว
พวกเราไม่มีวางแผนสำหรับงาน fanmeeting ในครั้งนี้ แต่พวกเรารู้ว่า พวก เรา ได้รับรางวัลนี้ เพราะพวกคุณ (ซาร่าไส้หวานนะฮะ)
ดังนั้น พวกเรา ถึงได้ออกมาเพียงเพื่อจะบอกว่า พวกเราขอบคุณมากกกกกกกกกกกกก

Jun Jin : จริงๆแล้ว …. ฉันไม่อยากร้องไห้ให้พวกคุณเห็นเลย แต่ในตอนนี้ในหัวใจของ ฉันกำลังร้องไห้
พวกเรา ไม่เคยคาดหวังกับรางวัลนี้ รางวัลนี้มันเปนเพราะพวกคุณๆๆๆ 7 ปีมาแล้วนะ ที่พวกเราออกแสดงครั้งแรก ในปี 1988
พวกเราไม่เคยคาดหวังกะรางวัล เพราะมันดูไกลตัวจากเรา แต่เพราะพวกคุณ ..ขอบคุณพวกคุณมากก

Minwoo : ฉันรักคุณ Shinhwachangjo!!! ขอบคุณมาก พวกเราได้รางวัลนี้เพราะพวกคุณ ... เราได้รางวัลแล้ววววววววววว
[เอ็มตะโกน พร้อมกะชูถ้วยรางวัลแดซาง เหมือนเด็กคนหนึ่งทีมีความสุขทีสุดในโลก]

Eric : จริงๆแล้วเราไม่ได้หวังกะการได้รับรางวัลแดซาง....จริงๆนะ ตอนที่คนอื่นได้รับ
ก็คงเหมือนกะพวกเราตอนนี้ เมื่อคนอื่นๆได้ เราก็ดีใจกะพวกเค้า พวกศิลปินคนอื่นๆก็เหมือนกะพวกเราฮะ
แต่ ทุก ๆ ปี เมื่อพวกเราไม่ได้รับรางวัลแดซาง … พวกเราเห็นว่าพวกคุณเสียใจและผิดหวัง ...
หลังจากทีได้ไม่ได้รับรางวัลหลาย ๆ ครั้ง มันทำให้พวกเราต้องการที่จะได้รับรางวัล ..
อย่างน้อยสำหรับคุณมันจะทำให้คุณมีความสุข แล้วในตอนนี้พวก เราก็มีความสุข
และสุดท้ายมันก็จะไม่ทำให้พวกคุณไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป

Dongwan : อ๊ะๆ .. แฟนๆทุกคน มีสิ่งเดียวที่ลุงอยากจะพูด พวกเราจะมีคอนเสริต์ในวันที 19
ดังนั้น พวกเราจึงหวังว่า จะได้เจอพวกคุณที่เวทีคอนเสิร์ตนะ
(เหอ เหอ อิลุง ชวนมาเพื่อจาได้ตังค์เยอะๆอะจิ รู้มุขลุงแระฮะ งกมะมีใครเกินเจงๆๆ ) ฉันรักพวกคุณ.. ขอบคุณๆๆๆๆ

Andy : ขอบคุณจริงๆ ต่อไปพวกเราจะทำงานให้หนักและพยายามมากๆๆ

แปลไทยโดยน้องเอ๋ @ ดงส้ม + มุขเสริมโดยทอมดง + shinhwavillagethailand fanclub + kikkapoo @ Sweetminwoo



ปีที่ 8 (2005) – ชินฮวา ต่างแยกย้ายกันทำงานเดี่ยว

เฮซอง : สมาชิกชินฮวาที่มีกิจกรรมเดี่ยวคนแรกคือ จอนจิน, เค้าถ่ายโฆษณาแล้วนำเงินที่ได้จากหยาดเหงื่อแรงงานของเค้ารับมาแบ่งให้กับสมาชิกของวง
เค้าน่ารักมากๆ เค้าบอกกับพวกเราว่า “แม้ว่าผมจะถ่ายโฆษณาเพียงคนเดียว แต่พวกเราคือ ชินฮวา...เราต้องแบ่งปันกัน”

เอริค : เหงามากเมื่อไม่มีสมาชิกคนอื่นมาเล่นและป่วนด้วยกัน ตอนที่เราทำกิจกรรมในฐานะชินฮวา แม้งานจะยุ่งแค่ไหนสมาชิกแต่ละคนก้อเล่นสนุกกะคนอื่นๆได้เสมอ ระหว่างที่ทำกิจกรรมเดี่ยว
คุณต้องทนรับกับความโดดเดี่ยว และแก้ปัญหาตัวคนเดียว มันช่างอ้างว้างจิงๆ

มินอู : ขณะที่ผมทำกิจกรรมเดี่ยวในนามของ M มีหลายครั้งหลายหนที่ผมรู้สึกเหงา โดยเฉพาะตอนที่ผมเตรียมการสำหรับโซโลคอนเสิร์ต ช่วงนั้นสุขภาพผมไม่ค่อยดี ผมคิดถึงเพื่อนๆ มาก
แม้ว่าผมจะได้รับความช่วยเหลือมากมายจากสมาชิกคนอื่นๆ ในการทำกิจกรรมในฐานะ M แต่เมื่อผมยืนอยู่บนเวที มันกลับโดดเดี่ยวช่วงเวลานั้นผมรู้สึกกดดัน และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับเพื่อนๆ

ดงวาน : ผมรู้สึกเหงามากๆ เมื่อต้องทำงานคนเดียว และผมจะเริ่มคิดถึงช่วงเวลาที่เราพักอยู่ด้วยกัน ถึงแม้จะเหนื่อยยากแต่เราก้อมีความทรงจำดีดีร่วมกันมากมาย

เฮซอง : ผมรู้สึกเหมือนแบกรับภาระเต็มสองบ่าเมื่อต้องทำงานเดี่ยว เพราะเมื่อยืนอยู่บนเวทีที่ซึ่งคนมีสมาชิกถึง 6 คน บัดนี้เหลือผมเพียงคนเดียว
ระหว่างทำงานเดี่ยว ผมต้องใช้เวลาเพียงลำพัง มันน่าเบื่อมาก ต่างจากเวลาที่มีสมาชิกๆ อยู่ด้วยเรามักจะคุยฮาๆ และเล่นสนุกร่วมกันในเวลาพัก
ผมมักคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น ผมรู้ซึ้งถึงคุณค่าของการที่มีสมาชิกอยู่ด้วย

จอนจิน : ผมมักคิดถึงสมาชิกคนอื่นๆ เวลาที่ป่วย เหนื่อยมากๆ เมื่อทั้งเวทีมีผมอยู่คนเดียว
และรู้สึกเศร้าด้วยเมื่อไม่มีสมาชิกคนอื่นมาคอยดูแลเอาใจใส่เวลาผมไม่สบาย ในขณะที่ทำงานกับเพื่อนๆ หากผมรู้สึกไม่สบายใจ พวกเค้าจะมาร่วมแบ่งปันทุกข์สุขกับผม อย่างไรก็ตาม
เมื่อต้องทำงานเดี่ยว ไม่มีใครช่วยคุณได้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น ซึ่งมันเหงามากจิงๆ

แอนดี้ : ขณะที่ผมทำหน้าที่ MC ให้กับรายการ SBS Inkigayo ได้ให้น้องๆ อย่าง Battle, SS501, DBSK, Super Junior เล่นสนุกกัน มันทำให้ผมคิดถึงพวกพี่ๆ มากเลย

มินอู : เมื่อใดก็ตามที่ผมต้องกล่าวคำขอบคุณ ฉับพลัน...ผมจะนึกถึงสมาชิกวงชินฮวา จิงๆ แล้วเวลาผมเดินทางถึงสนามบินผมมักรู้สึกว่างเปล่า ขณะที่ผมต้องอยู่บนเวที ผมจะคิดถึงพวกเค้ามากขึ้นไปอีก

ดงวาน : เมื่อใดก็ตามที่ได้ถ่ายทำร่วมกันสมาชิกในวง ต่อให้รู้สึกอึดอัดเราก้อจะหามุขตลกไม่เล่นกัน แล้วเมื่อนั้นอารมณ์ก้อจะดีขึ้น (ใบหน้าของเค้าแสดงให้เห็นอารมณ์เปลี่ยวเหงาเมื่อค้นพบว่าต้องโดดเดี่ยวเพียงใดที่ไม่่มีเพื่อนในวงอยู่ด้วย)  นอกจากได้เงินแล้ว, ผมก้อยังไม่เห็นข้อดีอื่นๆ ของการเล่นโฆษณาคนเดียวเลย
นี่..เพื่อนๆ คืนนี้เรานัดกันใช่มั้ย? ถ้าผมบอกพวกเค้าเกี่ยวกับเรื่องงานโฆษณา เมื่อนั้นจะกลายเป็นว่าผมต้องจ่ายคืนนี้ ดังนั้นผมจึงไม่ได้บอกคัย...วันนี้ผมหวังว่า เอริคจะเป็นคนจ่าย!

เฮซอง : ผมรู้สึกขาดสีสันเมื่อต้องทำงานคนเดียวโดยปราศจากเพื่อนๆ เคียงข้าง

เอริค : สำหรับผม มักทำงานร่วมกะเพื่อนร่วมวงบ่อยๆ ผมจึงรู้สึกว่างเปล่าจนบรรยายไม่ถูกเวลาที่ต้องถ่ายหนังเพียงคนเดียว

ดงวาน : ตอนที่อยู่กับสมาชิกผมไม่เคยมีอาการ “นอนไม่หลับ” ซึ่งเดี๋ยวนี้เมื่อต้องแยกมาอยู่คนเดียว ผมมักนอนไม่หลับบ่อยๆ
และคืนใดที่ผมนอนไม่หลับ ผมก้อมักคิดถึงวันเวลาที่เราอยู่ร่วมกัน และหากเรานอนไม่หลับเราก้อจะนอนคุยกันตลอดทั้งคืน ผมคิดถึงสมาชิกมากๆ เลย

เฮซอง : วันไหนที่ดงวานนอนไม่หลับ ทุกครั้งเค้าจะโทรหาผมตอนดึกๆ แล้วถามว่า “คืนนี้มานอนบ้านชั้นได้มั้ย?"
(เฮซองจะกลับออกไปแต่เช้า ทำให้ได้เห็นท่าทางของจอนจิน เค้าดีใจสุดสุดเพราะไม่ได้พบเฮซองนานกว่า 2 เดือนแล้ว เค้าโผเข้ากอดเฮซองทันที)

จอนจิน : ผมรู้สึกขอบคุณและมีความสุกมากๆ ตอนทีพวกเค้ามาหา ในวันนั้นที่ผมกำลังเผชิญกับสิ่งทียากลำบากพอผมได้เห็นเฮซอง ผมก้อลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นกังวลและช่วงเวลาดีดีก้อเกิดขึ้นแทนที่

เอริค : ผมกระหืดกระหอบมาจากการถ่ายทำ June’s Diary” ผมมาถึงที่นี่ (โชว์เคส อัลบั้ม 2 ของมินอู) อย่างเหนื่อยหอบ แถมยังมาพร้อมรองเท้าแตะอีกต่างหาก เพราะมินอูน่ะแหละ ผมถึงต้องเหนื่อยขนาดนี้

จอนจิน : เฮซองมักมาเยี่ยมที่ห้องบันทึกเสียง และเมื่อผมทำพลาด เค้าจะช่วยวิเคราะห์และให้คำแนะนำที่มีค่ามากๆ

มินอู : เอริคให้การสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่โดยการส่งข้อความดีดีมาให้ เช่น “นายเหนื่อยมั้ย? มินบงสู้ๆ ชั้นรักนาย”
เพื่อนสมาชิกจะรู้สึกว่าข้อความแบบนี้ละเอียดอ่อน เราจึงไม่ส่งให้กันบ่อยนัก  (หลังจากพูดถึงเรื่องนี้ มินอูก้อยิ้มอย่างเปี่ยมสุข)

เอริค : ผมรู้สึกขอบคุณเพื่อนสมาชิกมากๆที่ให้กำลังใจผมในวันฉายรอบปฐมทัศน์ จิงๆ นะ,ไม่มีใครเทียบพวกเค้าได้เลย พวกเราต่างไม่วิจารณ์กันและกัน
และหลังจากรอบปฐมทัศน์จบลง น่าแปลกมากๆ ที่พวกเค้าต่างส่งข้อความแบบเดียวกันมาให้ผม “เฮ้ย.....มาดื่มกันเถอะ” เมื่อได้อ่านผมรู้ทันทีว่าพวกเค้าภูมิใจในตัวผมแค่ไหน

มินอู : เวลาที่ผมกำลังบันทึกเสียง ผมจะได้รับข้อความสนับสนุนจากเพื่อนๆ ในวง จะมีก้อแต่ปีศาจ 1 ตัว ที่คอยส่งข้อความประหลาดๆ มาให้ เร็วๆ นี้ ผมจับได้ว่ามันคือเอริคนั่นเอง
ที่คอยส่งข้อความแปลกๆ มาว่า “ไปตายซะ” ดังนั้นผมจึงส่งกลับไปว่า “นายแพ้แล้ว”

จอนจิน : สมาชิกในวง...คนที่ไร้ประโยชน์มากที่สุดคือเอริค เอริคจะมีเวลามากมายเพื่อส่งข้อความเช่น syareunghwe (แปลม่ะออก) ข้อความภาษาต่างดาวแบบนี้มักส่งมา..กวนผมเวลาทำงาน

จอนจิน : เมื่อผมรู้สึกแย่และอยากมีเรี่ยวแรงอีกครั้ง ผมชอบที่จะได้รับหนึ่งข้อความฮาๆ จากสมาชิกสักคน มากกว่าคำสรรเสิญเยินยอเป็น 10 จากคนอื่น

ชินฮวา : ถึงแม้เราจะเป็นวง แต่ก้อต่างมีกิจกรรมส่วนตัวของแต่ละคน...มีงานที่ต้องทำในแต่ละวัน อย่างไรก็ตามเมื่อเรารวมตัวกันเป็นหนึ่ง เราจะมีพละกำลังที่เข้มแข็งที่สุด!

แปลไทย: เรเชล @ พันทิพ + Kriza@Soompi + shinhwavillagethailand fanclub + kikkapoo @ Sweeyminwoo



ปีที่ 10 (2007) – ตำนานที่ยังก้าวต่อไป.....

แอนดี้ : สิ่งที่ผมหวังก้อคือชินฮวาจะก้าวไปอย่างแข็งแรง และออกผลงานจนถึงอัลบั้มที่ 100

ดงวาน : ผมอยากมีคอนเสิร์ตแบบนี้ไปอีก 20 ปี

เฮซอง : ผมอยากฝากชื่อพวกเราไว้ในประวัติศาสต์วงการเพลงป๊อปของเกาหลี ไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งที่ออกอัลบั้ม เราต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ แต่อยากให้เราได้อยู่ด้วยกันไปอีกนานเท่านาน

มินอู : ผมหวังเราจะอยู่ร่วมกันจนแก่จนเฒ่าและตายจากกัน

จอนจิน : เราจะตัวติดกันไปตราบนานเท่านาน ทุกๆ ปี สมาชิกของเรามักได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นผมว่าในอนาคตจะไม่มีใครบาดเจ็บอีก และขอให้ชินฮวา ชางโจมีสุขภาพที่แข็งแรงครับ

ดงวาน : ความคิดที่ว่า..ยังคงแสดงร่วมกับเพื่อนสมาชิกไปอีกจนอายุ 40 และ 50 ทำให้ผมตื่นเต้น
หลังจากที่เราต่างต้องไปทำหน้าที่รับใช้ชาติ ผมแน่ใจว่าทุกๆ คนต่างมีหน้าที่แต่เราจะทำทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกันเสมอ

จอนจิน : ชินฮวาแยกวงน่ะเหรอ? ผมว่าคุณไปกังวลกับสิ่งที่ควรกังวลจิงๆ ดีกว่า
เราต่างสัญญาร่วมกันว่าจะก้าวไปร่วมกัน แม้วันข้างหน้าเราจะแต่งงาน และมีลูก ดังนั้นคุณไม่น่าพูดคำว่า “แยกวง” กับเราเลยนะ
แถมเรายังให้สัญญากันอีกว่าลูกๆ ของเราจะรวมตัวกันในนาม “Shinhwa Junior” อีกด้วย

เฮซอง : การที่เราต่างยุ่งกับงานส่วนตัว ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้ว มิตรภาพอันเข้มแข็งยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกเมื่อเชื่อวัน เราเดินทางร่วมกันมาไกล...เป็นมากกว่าเพื่อน
เราเป็นที่ปรึกษาเป็นพี่เป็นน้องให้กันและกัน

จอนจิน : เหตุผลที่ทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ยาวนานเช่นนี้คือความไว้เนื้อเชื่อใจ ถึงแม้ว่าเราอาจมีข้อขัดแย้งกันบ้าง บาดหมางกันก้อเคยมี แต่เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจในกันและกันอย่างยิ่งยวด
ชินฮวาจึงสามารถเดินทางมาถึงวันนี้

เอริค : เราต่างผ่านพ้นอุปสรรคกันมามากมายและสร้างมิตรภาพอันวิเศษสุด แน่นอนว่าเราเคยทะเลาะ ตบตี ปะทะกันแม้ว่าสมาชิกจะพยายามช่วยกันไกล่เกลี่ย
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้งใดใดและเราจะไม่ทำให้ความสัมพันธ์เราจบลง

ดงวาน : เหตุผลที่เรายังคงอยู่ร่วมกันได้ยาวนานก้อคือ..........................หนังสือสัญญา!!!^^

มินอู : นั่นมุขน่ะครับ เวลาที่เราอยู่ร่วมกันทำให้เราสนิทกัน เรารู้สึกดีใจที่เรามีกันและกัน สนับสนุนกัน และอยู่ด้วยกันตลอดเวลา

ดงวาน : บางคนคิดว่าพวกเราสนิทกันเหมือนพี่น้อง ซึ่งนั่นไม่เป็นความจิง ^^ (ลุงมุขมั่วอีกแระ)
เอริค แม้ว่าผมจะยังแก่ไม่พอที่จะพูดคำเหล่านี้ แต่อยากจะพูดว่าการได้เป็นสมาชิกของชินฮวา ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด มีค่ามากที่สุดในชีวิต
นั่นคือเหตุผลที่เราสามารถรักษาความสัมพันธ์ให้เดินหน้าต่อไป.....
แม้ว่าเราจะมีดงวาน^^ ดังนั้นแม้ว่าปราศจากสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร และยังคงมีดงวานอยู่
ชินฮวาก้อจะยังคงอยู่ร่วมกันไปตราบนานเท่านาน

เอริค : ในวันข้างหน้า หากไม่มีบริษัทใดต้องการเราแล้ว...เราก้อจะตั้งบริษัทของเราเอง และทำงานร่วมกันต่อไป

แอนดี้ : เมื่อใดที่เรารวมตัวกันครบ 6 คน นั่นคือช่วงเวลาของความสับสนอลหม่าน...เหมือนกับการพบกันของสมาชิกครอบครัวหลังจากที่จากกันไปนาน...
พี่จินนี่เพิ่งกลับมาจากถ่ายทำภาพยนตร์...ยังไม่ได้นอนเลยแต่เมื่ออยู่กับเพื่อนๆ ชินฮวา แน่นอน...เค้าลืมความเหน็ดเหนื่อยไปเลย และมาพร้อมบุคลิคอันร่าเริง
พี่เอริคมักถูกเรียกว่า CEO เป็นคำเย้าแหย่ด้วยรัก....จากพวกเรา, แต่ทุกคนต่างมีความสุขเมื่อละครของพี่เอริคกำลังไปได้สวยและร่วมแสดงความยินดีกับเค้
า นอกจากนี้พวกพี่มักจะเลียนแบบบทพูดในละครเรื่อง Nonstop ซึ่งผมรู้จักดี โดยมักพูดมันแบบผิดๆ
ถึงแม้พวกเค้าจะเป็นพี่ที่อายุมากกว่าผมเพียง 1-2 ปี แต่ทุกครั้งที่พวกเค้าทำแบบนั้น ผมจะรู้สึกเหมือนผมเป็นน้องเล็กๆ ของพวกเค้าจิงๆ...

เอริค : ผมจะคอยสอดส่องกิจกรรมของสมาชิกแต่ละคนเพื่อที่จะจับผิดเวลาเค้าพูดอะไรตลกๆ หรือทำอะไรเปิ่นๆ นั่นก้อเพราะว่าพวกเค้าน่ะจับผิดประโยคตลกๆ
ของผมได้เพียงอันเดียวแต่ล้อผมมาเป็นเดือนแระ

แอนดี้ : สมาชิกชินฮวาขี้เล่นกันมาก นอกจากพี่ดงวานแล้ว ไม่มีใครที่จะสนใจให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแสดงของผมอย่างจิงจัง ตรงกันข้ามหากเค้าพบข้อผิดพลาดใดใดพวกเค้าจะล้อเลียนไม่เลิก
ทุกๆ ครั้งที่พวกเค้าเจอผมสิ่ง
แรกที่พวกเค้าจะพูดคือ “คุณคือ ฮเยจู ใช่มั้ย?” (บทพูดจากละครเรื่อง Lovers in Prague ที่แอนดี้แสดง) เมื่อเร็วๆ นี้เราพบกันในทีที่มีคนพลุกพล่าน
และพวกเค้าต่างตะโกนซะดังว่า “คุณคือ ฮเยจู ใช่มั้ย?” ผมอายมากๆ เลย

มินอู : เป็นเพราะเราสะดวกใจกับสมาชิกทุกคน ดังนั้น พวกเรามักอาบน้ำพร้อมกันทีเดียว 2-3 คน ครั้งนึง, แอนดี้เข้ามาในห้องน้ำขณะที่ผมกำลังอาบน้ำและกำลังพ่นซอสขึ้นไปเหนือหัวแบบขำ..ขำ
ผมคิดว่าตอนนั้นหัวของผมคงแดงเถือกและน่าตกตะลึง ผมเกือบเป็นลมน่ะตอนนั้น

เอริค : ไม่ว่าจะเป็นการผลักคนอื่นในรถที่กำลังวิ่ง หรือสาดน้ำร้อนสุดสุดใส่ก้นขณะอาบน้ำ นั่นก็เป็นสิ่งขำ..ขำที่พวกเราทำต่อกัน...ไม่เฉพาะแค่ผมเท่านั้น

อี จีฮุน (นักร้อง/นักแสดง) : ผมอิจฉาพวกเค้านะ เพราะพวกเค้ามักอยู่ด้วยกันเสมอ พวกเค้าทั้งตลกและสนิทกันมาก มันช่างดีอะไรอย่างนี้

Good EMG (บริษัทต้นสังกัด) : ความสัมพันธ์ของพวกเค้าแนบแน่นมาก จนทำให้เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แม้ว่าพวกเค้าจะไม่ได้พบกันเป็นเวลานานๆ
แต่พวกเค้าก้อสามารถเริ่มเม้าส์กันได้ทันทีเหมือนกับเพื่อนเก่าที่ได้เจอหน้ากัน

ดงวาน : ระหว่างปีนี้ ผมมีช่วงเวลาที่เลวร้าย...และเราแบ่งปันช่วงเวลาที่สำคัญนี้ร่วมกันกับสมาชิกทั้ง 6...
เราสนุกร่วมกันและสร้างเสียงหัวเราะให้กันและกัน...
แม้ในวันที่ต้องเผชิญกับเรื่องยากลำบาก เราจะไปดื่มด้วยกัน
เรามักอยู่ร่วมกันแบบนี้....

จอนจิน : ทุกๆครั้ง ที่ผมต้องผ่านช่วงเวลาอันยากลำบาก ผมจะคิดถึงสมาชิกคนอื่นๆ เป็นที่สุด

เฮซอง : ในวันเก่าๆ...เมื่อใดที่จอนจินเจ็บ ผมเจ็บด้วย
เมื่อใดที่ใครคนนึงเจ็บปวด หรือเกิดสิ่งเลวร้ายกับเค้า
เมื่อนั้นเราทั้งหมดจะรู้สึกเศร้า และเสียใจ
แต่เราต่างก้อรู้ว่าเรื่องราวต่างๆ จะผ่านพ้นไปด้วยดี และสามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้งในเร็ววัน

จอนจิน : ผมอยากกล่าวสิ่งนี้กับพี่เฮซองด้วยความจริงใจ ว่าเราจะเป็นชินฮวาไปจนวันตาย
เมื่อใดที่เค้าต้องการผม ผมจะอยู่ตรงนี้เพื่อเค้า
และเค้าก้อจะอยู่ตรงนี้อย่างแน่นอน หากผมต้องการเค้า.....

มินอู : เพียงแค่อยู่ร่วมกันโดยไม่ต้องเอ่ยคำใด เราก้อสามารถรับรู้ความรู้สึกของกันและกันได้

จอนจิน : ผมจะคิดถึงเพื่อนสมาชิกเป็นอันดับแรก แม้ในยามที่ผมเจ็บ หรือสับสนผมก้อยังคิดถึงพวกเค้าอยู่
ในบางครั้ง ผมรู้สึกกังวลว่าผมจะตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าผมอยู่เพียงลำพัง
เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่ผมกังวลไปเอง...เพราะเพื่อนสมาชิกมักจะอยู่กับเราเสมอหากเราต้องการ.....
แม้ว่าคุณอาจมองไม่เห็น แต่ผมรู้สึกได้ถึงความรักที่เรามีกัน....

เอริค : ผมเป็นนักร้องตั้งแต่อายุ 20 และใช้ชีวิตวัยรุ่นทั้งหมดไปกับชินฮวา ผมรู้สึกว่าช่างโชคดีที่ผมได้ค้นพบความหมายแห่งชีวิต และสามารถมีชีวิตที่มีความหมายเช่นนี้ร่วมกับพวกเค้า

เฮซอง : ผมรู้สึกว่าชินฮวาเป็นเหมือนผู้ปกครอง ที่พาพวกเรามาพบกัน ให้เราเติบโตร่วมกัน อบรมเลี้ยงดูจนเราเป็นเช่นทุกวันนี้ เป็นกลุ่มที่ถูกขนานนามว่า “ชินฮวา”

เอริค : ชินฮวาคือทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่าง ปราศจากชินฮวาแล้วก้อไม่มีผมในวันนี้ และผมคงไม่ได้ผมกับเพื่อนที่มีค่า และเหล่าสมาชิกที่รักผม

ดงวาน : เช่นเดียวกับที่เอริคกล่าวไป, จะไม่มีผมในวันนี้หากปราศจากชินฮวา ผมจะไม่มีวันลืมเลือนว่าผมมาจากชินฮวา...แร่ธาตุแห่งชีวิต

จอนจิน : สำหรับผม, ชินฮวาเป็นเหมือนบ้าน ชินฮวาเป็นดั่งสถานที่ที่เราสามารถกลับไปได้ทุกเมื่อ สถานที่ที่ต้อนรับเราเสมอเมื่อเรากลับไป

ชินฮวา : สำหรับพวกเรา หมายเลข 6 เป็นเลขที่มีความหมาย มันคือการที่เราทั้ง 6 ได้อยู่ร่วมกันจนกลายเป็น “ชินฮวา” ดังเช่นปัจจุบัน
และสิ่งที่เราปรารถนาคือยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยกันทั้ง 6 คน ในนามชินฮวา...นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เลข 6 มีความพิเศษสำหรับเรา
ตอนที่เราซ้อมร่วมกันนั่นยังไม่ใช่เราทั้ง 6, แต่วันที่เราได้แสดงบนเวทีครั้งแรกในฐานะ “ชินฮวา” เราได้กลายเป็น 6 คนที่ถูกรวมไว้ด้วยกัน.... (ต้องการสื่อว่าเมื่อชินฮวาถือกำเนิด หมายถึงเราทั้ง 6)
มันเหมือนกับโชคชะตาฟ้าลิขิต (ลิเกไปมั้ย)

สำหรับเรา การอยู่ร่วมกันในฐานะ “ชินฮวา” มันช่างเป็นเรื่องธรรมชาติ
และเราหวังว่าแฟนๆ จะยังคงยอมรับ “ชินฮวา” ต่อไป อย่างเช่นที่เราหวังว่าเราดีขึ้น เก่งขึ้นเรื่อยๆภายใต้ชื่อนี้....
(ถ้าคุณยังคงเรียกเราว่า..กลุ่มศิลปินที่รวมตัวกันยาวที่สุด เราจะรู้สึกว่าตังเองแก่ทันที ^^)

และเพราะว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด, ตอนนี้เราจึงเลือกเลข “6” เป็นหมายเลขอันพิเศษสุดสำหรับพวกเรา....
นั่นก็เพราะว่าเรามีกัน 6 คน จึงกลายเป็น “ชินฮวา” ที่เจิดจรัส
และก้อเป็นเรื่องธรรมดาจะตาย...ที่ต้องมี 6 คน จึงจะเป็นเรา “ชินฮวา”...

แปลไทย: เรเชล @ พันทิพ + shinhwavillagethailand fanclub + kikkapoo @ Sweetminwoo

นำออกพร้อมเครเต็มเท่านั้นนะคะ
 

~OrenjI~:


==========  จองนะคะ  ==========

~OrenjI~:


==========  จองนะคะ  ==========

~OrenjI~:


==========  จองนะคะ  ==========

จองไว้ทั้ง 9 กระทู้  ...  ถ้าเหลือจะกลับมาลบกระทู้ออกนะคะ  ^^~  (ยิ้มหวาน)

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version