Potter Story Lobby !!! > ห้องนั่งเล่น !

06/05/2009::[รวมหัวข้อ] เคี้ยวหมากฝรั่งขบโจทย์เลข & โลกของคนเก่งคือ ฟุ้งซ่าน

(1/3) > >>

PON EILEEN SNAPE:
นักวิจัยของสหรัฐฯ พบนักเรียนคนที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งในชั้น ตอนเรียนวิชาเลขเรียนกลับทำคะแนนในการทดสอบได้ดี เหนือกว่าเพื่อนคนที่ไม่ได้ทำแบบเดียวกัน


โรงเรียนส่วนใหญ่มักจะห้ามนักเรียนเอาหมาก ฝรั่งไปเคี้ยวในชั้น เพราะชอบแอบคายไปติดไว้ตามใต้โต๊ะใต้เก้าอี้ แต่บัดนี้นักวิจัยของสหรัฐฯ ได้พบในการศึกษาว่า นักเรียนคนที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งในชั้นเรียนกลับทำคะแนนได้ดีในการทดสอบ



คณะนักวิจัยของวิทยาลัยการแพทย์เบย์เลอร์ ที่นครฮิวส์ตัน ได้พบว่านักเรียนที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งตอนเรียนเลขกลับทำคะแนนในการทดสอบ ที่จัดขึ้นในเวลาต่อมาหลังจากนั้น 14 เดือน และเมื่อสอบปลายเทอมได้เหนือกว่าเพื่อนคนที่ไม่ได้ทำแบบเดียวกัน ในการทำวิจัยด้วยทุนอุดหนุนของบริษัทหมากฝรั่ง


ผู้อำนวยการบริหารสถาบันวิทยาศาสตร์ของบริษัทหมากฝรั่งริกลีย์ นายกิจ เลเวลล์ กล่าวว่า "เราสามารถแสดงให้เห็นในสถานการณ์ที่เป็นจริงเป็นครั้งแรกได้ว่า นักเรียนจะเรียนได้ดีถ้าหากปล่อยให้เคี้ยวหมากฝรั่งไปด้วย"


เครดิต :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
 


เรื่องที่ 2

โลกและชีวิต มีคนเก่ง ๆ มาปรึกษาด้วยอาการฟุ้งซ่านมากขึ้นส่วนมากจะเรียนเก่งหรือทำงานเก่ง หน้าที่การงานดี มีอนาคตแต่ในชีวิตส่วนตัวไม่ค่อยมีความสุขเลยเริ่มตั้งแต่นอนไม่หลับติดต่อกัน กังวล คิดมาก คิดซ้ำซากกลัวว่าจะอ่อนเพลีย ก็เลยรู้สึกอ่อนเพลียจริง ๆ ทุกครั้งอารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย พวกนี้มีความคิดที่มากเกินปกติ คิดตลอดเวลา ขยันหาข้อมูลความคิดมาใส่สมองทั้งจากอินเตอร์เน็ต สิ่งพิมพ์ การสัมมนา ทีวี การสนทนา ฯลฯ สมองจึงเต็มไปด้วยข้อมูลที่มากจนล้นสมองออกมาบางคนรู้ว่าควรจะลบ (delete) ข้อมูลออกจากสมองบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะลบอย่างไร แถม...กลับไปได้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมมาเพิ่มเติมใส่สมองเข้าไปอีก นี่คือวงจรชีวิตของคนที่เรียนเก่งหรือทำงานเก่ง ที่มักคิดฟุ้งซ่านที่พบได้มากขึ้นในทุกวันนี้ พวกนี้มักมีสมองซีกซ้ายทำงานดี ชอบคิดในแนวหาเหตุผล วิเคราะห์ วิจารณ์ได้เก่ง และพวกนี้มักใช้สมองซีกขวาเพื่อความสุนทรีย์ การจินตนาการที่ดี ความรัก มิตรภาพ ศิลปะ ความงามได้น้อย

ข้อแนะนำง่าย ๆ สำหรับพวกฟุ้งซ่าน ก็คือ


1. หาเวลาฝึกสติ ทำสมาธิทุกวัน จะเป็นการกรองความคิดที่ไม่เหมาะสมออกไปและลดการปรุงแต่งอารมณ์ อยู่กับปัจจุบัน ทำให้คิดฟุ้งซ่านน้อยลง


2. ออกกำลังกายแบบไม่คาดหวังผลให้มากขึ้นทุกวัน ๆ ละ 45 นาที เช่น การวิ่ง แต่เลี่ยงการออกกำลังกายก่อนนอน


3. ฝึกการนอนอย่างมีสติและมีความสุข หลีกเลี่ยงการทำให้สมองและร่างกายตื่นตัวก่อนนอน เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือสนุก ดูหนังเร้าใจก่อนนอน ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่คิดเรื่องงาน


- รู้จักการนอนอย่างปล่อยวาง คือทำจิตให้ว่างก่อนนอนโดยการหายใจลึก ๆ ช้า ๆ จดจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออกรูจมูก และตั้งจิตบอกกับตัวเองว่าจะนอน – หลับ – พัก – ผ่อนเสียที


- เมื่อนอนหลับได้แค่ไหนก็แค่นั้น อย่ากังวล ถ้าหลับลึก ๆ 4 – 5 ชั่วโมงพอแล้ว ตื่นขึ้นมาให้ทำท่ากระฉับกระเฉง บอกกับตัวเองว่าโชคดีที่ตื่นขึ้นมาได้ วันนี้คงพบสิ่งอื่น ๆที่น่าสนใจมากขึ้นบ้าง



4. ลดกิจกรรม “วิเคราะห์” ลงบ้าง ปล่อยกาย – ใจ – และความรู้สึก ให้สบายมากขึ้น บอกตัวเองว่าต้องการความสุข รู้จักการพอ ยอม และไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น

ถ้าวิเคราะห์มากมักจะจับผิดเก่ง ทั้งตัวเองและสิ่งรอบตัว

คนเก่ง ๆ ที่ฟุ้งซ่านมีมากขึ้น ที่มาปรึกษาก็มาก หลาย ๆ คนดีขึ้น บางคนต้องใช้ยาช่วยหรือใช้จิตบำบัด


จงเก็บพลังความคิดที่ดี ๆ ไว้ใช้อย่างสร้างสรรค์เถิด

ถ้ามีความคิดมากไปตลอดเวลาเข้าข่ายฟุ้งซ่าน จะเป็นอุปสรรคในการทำงาน และจะเป็นโรคจิต โรคประสาทได้



เครดิต :: ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง


แอบเคี้ยวประจำบทความที่ 1 อ่าค่ะ (หมากฝรั่ง) อิอิ ทำไมไม่ฉลาดขึ้นเนี่ย อิอิ  :P

NPK:
เคี้ยวหมากฝรั่งหรอ

อิอิ

เคี้ยวมั่งดีกว่า ;D

TricksteR:
แหงะ เคยอ่านมาแล้วแต่ก็ขอบคุณนะ (เคี้ยวหมากฝรั่งหรอ ถ้าเคี่ยวในห้องเรียนโดนก้านคอแน่เรย :( )

Niiew:
ว้าว ๆ หมากฝรั่งทำให้ฉลาดขึ้นด้วยหรอ ^^ ต้องไปซื้อมาเคี้ยวบ้างล่ะ 55 แต่จะฉลาดขึ้นไหมเนี่ย  ???

ขอบคุณที่นำมาฝากกันนะค่ะ

pinkky_love:
เคยอ่านมาแล้วค่ะ ยังไงก็ขอบคุณที่นำมาฝากนะคะ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version